ชาวเมียนมาเดินหน้าประท้วงต้านรัฐประหาร

วันนี้ (22 พ.ย.2564) ผู้สื่อข่าวจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก รายงานว่า เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดในหมู่ชาวพุทธศาสนิกชนชาวเมียนมา จ.ต่านผิ่วซาเยะ รัฐมอญ ประเทศเมียนมา ใกล้กับชายแดนด้าน จ.ตาก เป็

วันนี้ (27 ธ.ค.2566 ตำรวจนครบาล พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจาก

วันที่ 25 ส.ค.2567 จากกรณีเกิดคลัสเตอร์ ประชาชนที่มีประวัติการดื่มสุราเถื่อน เข้ารับการรักษาด้วยอาการ Methanol intoxication จำนวน 19 คน เสียชีวิต 1 คน และรายอื่นอยู่ในขั้นโคมา เข้ารับการรักษา ณ โรงพยา

การให้ไฟเขียวกฎกระทรวงครั้งนี้ คงจะไม่เป็นที่พูดถึงขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะร่างแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิต หรือ ที่เรียกกันว่า พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ของพรรคก้าวไกล จะเข้าพิจารณาวาระ 2 วาระ 3 ในสภาวันนี้ จนถูกมองว่า เป็นการออกกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ.2565 เป็นการปาดหน้าหรือเตะตัดขากันหรือไม่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่า กฎกระทรวงที่ปรับปรุงนี้ โดยหลักบอกว่า ไม่เอื้อเฉพาะนายทุน พิจารณาถึงชุมชน ประชาชนให้ผลิตสุราได้ง่ายขึ้น แต่มีมาตรฐานความปลอดภัย ความรัดกุมเรื่องการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง นายวิษณุยังระบุว่า เป็นเรื่องที่ต้องการให้มีกฎเกณฑ์เพื่อผ่อนปรนให้สามารถผลิตสุรา โดยเฉพาะสุราที่ไม่ได้มีเพื่อการค้า โดยเฉพาะสุราพื้นบ้าน เนื่องจากมองว่า 1.เป็นการรักษาภูมิปัญญาชาวบ้าน 2. กฎกระทรวงฯนี้ไม่ได้ทำให้รายได้ของรัฐบาลลดลง และ 3.ผู้ที่ประสงค์จะผลิตสุรา สามารถทำได้โดยไปไม่ต้องไปขออนุญาตหรือเป็นเป็นภาระแก่ประชาชน สาระสำคัญ คือ 1.เปิดโอกาสให้สุราชุมชนขนาดเล็ก สามารถขยายกำลังการผลิตเป็นระดับกลางที่ใช้เครื่องจักรที่มีกำลังการผลิตสูงกว่า 5 แรงม้า แต่ไม่เกิน 50 แรงม้า และสามารถใช้คนงานมากกว่า 7 คนได้ แต่ต้องไม่เกิน 50 คน แต่ยังมีเงื่อนไขคือ ต้องได้รับใบอนุญาตผลิตสุราแช่ หรือ สุรากลั่นชุมชนขนาดเล็กมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่เคยกระทำความผิดกฎหมายภาษีสรรพสามิต 2.มีการยกเลิกการกำหนดกำลังการผลิตขั้นต่ำและทุนจดทะเบียน สำหรับทั้งกรณีผลิตเบียร์เพื่อขาย 3.เปิดโอกาสให้บุคคลธรรมดาที่มีอายุไม่น้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และนิติบุคคล ขอใบอนุญาตผลิตสุราที่มิใช่เพื่อขาย โดยต้องผลิตสุราไม่เกิน 200 ลิตรต่อปี อย่างไรก็ตาม แม้นายวิษณุจะบอกว่าปรับแก้กันมานาน แต่ห้วงเวลาที่เข้าสู่การพิจารณาที่เกิดขึ้นเพียง 1 วันก่อนร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกลจะเข้าสู่การพิจารณาในวาระ 2-3 ของสภา จนไม่แน่ว่า ร่างฯนี้อาจจะถูกคว่ำไปหรือไม่ ทั้งที่ ได้เสียงรับหลักการมาจาก ส.ส.รัฐบาลมาได้ ก็น่าคิดเหมือนกันว่าจะเป็นการชิงโอกาสทางการเมืองหรือเปล่า เมื่อวานนี้ (1 พ.ย.65) นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.ก้าวไกล ที่ผลักดันร่าง พ.ร.บ.นี้มาตลอด ยอมรับเหมือนกันว่า ค่อนข้างแปลกใจที่ก็มีการรับรองร่างแก้ไขกฎกระทรวงเรื่องนี้มา และมองว่าจะยังไงการออกเป็น พ.ร.บ.ก็ยังมีศักดิ์และสิทธิที่มากกว่า นายเท่าพิภพ ยังระบุว่า ก็ยังไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น ต้องขอดูก่อนว่าเป็นอย่างไร แต่จะบอกว่าออกกฎกระทรวงแล้วไม่ต้องออก พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า คิดว่าไม่ใช่ นอกจากนี้ หากเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างกฎกระทรวงที่มีผลบังคับใช้ กับร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่กำลังพิจารณาในสภากันตอนนี้ หลัก มี 6 ข้อeve online steam คือ 1.การคงเรื่องขออนุญาตผลิตกรณีผลิตที่บ้าน 2.การขออนุญาตต้องขึ้นกับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 3.การผลิตเพื่อการค้าต้องขออนุญาต เท่ากับบริษัทก็สามารถแข่งขันกับสหกรณ์เกษตรกรได้ 4.มีข้อกำหนดที่ต้องผ่านการผลิตเป็นโรงงานขนาดเล็กก่อนจึงจะเป็นระดับกลางได้ 5.ข้อกำหนดเรื่องการทำ EIA ที่ต้องใช้เงินหลักล้าน และการกำหนดขั้นต่ำการผลิตเป็นอุตสาหกรรม ที่ต้องผลิต 30,000 ลิตรต่อวัน ขณะที่ข้อกังวลในเรื่องการเปิดทางให้สามารถผลิตสุรา หรือ ทำเบียร์ดื่มเองที่บ้านได้จะทำให้คนดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นหรือไม่ เพราะทำเองได้ ไม่ต้องซื้อ ซึ่งนายเท่าพิภพซึ่งก็เคยทำเบียร์คราฟต์เอง ก็มองว่า คงไม่ใช่แบบนั้น ไม่ว่าความกังวลในทางสังคมจะเป็นอย่างไร พ.ร.บ.จะผ่านหรือไม่ ก็ยังมีกฎกระทรวงฉบับแก้ไขที่ผ่านการพิจารณาของ ครม.ประกาศบังคับใช้ไปแล้ว โดยกล่าวอ้างไม่แง่มุมการควบคุมที่ดีกว่า แต่มุมมองของพิธา ลิ้มเจริญรัฐ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มองว่า เป็นการจงใจเพื่อให้ ส.ส.รัฐบาลอภิปรายว่า กฎหมายนี้ไม่จำเป็นแล้ว แต่ทางพรรคก็พร้อมที่จะตอบข้อสงสัย ยืนยันความจำเป็นที่จะต้องมี พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ออกมา

การให้ไฟเขียวกฎกระทรวงครั้งนี้ คงจะไม่เป็นที่พูดถึงขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะร่างแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิต หรือ ที่เรียกกันว่า พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ของพรรคก้าวไกล จะเข้าพิจารณาวาระ 2 วาระ 3 ในสภาวันนี้ จนถูกมอง