JAKARTA – Menteri Koordinator Bidang Politik dan K
วันที่ 11 ก.ค.2566 เวลา 20.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. ดูแลงานมั่นคง ลงนามคำสั่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ 315/2566 เรื่อง ประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศ
“CobraK” เผยเทคนิคแต่งเพลงแร็พแบบใหม่ “แร็พกวี” เสียดสีสังคม ไม่ใช่แค่จังหวะที่ฟังดูสนุกสนาน แต่เนื้อหาของเพลงแร็พยังต้องสะท้อนสังคมในขณะนั้นด้วย เพราะฉะนั้นการจะแต่งเพลงแร็พจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะศ
“5 ปีรัฐประหาร” แต่ปรองดองยังไม่เกิด ครบรอบ 5 ปีรัฐประหารรัฐบาล “ทักษิณ” ซึ่งนับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ นักสันติวิธียังคงย้ำให้รัฐบาลเปิดเวทีสานเสวนา เพื่อหาข้อสรุปในการสร้างความปรองดองในแบบฉันทามติ แม้ คอป.จะเสนอทางออกบางส่วนออกมา แต่ก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะการสร้างความเป็นธรรมในสังคม “5 ปีรัฐประหาร” แต่ปรองดองยังไม่เกิด แม้จะสรุปข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลผ่าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปแล้ว 7 ข้อ เพื่อร่วมกันสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ยังคงเดินสายแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านต่างๆ เพื่อสร้างความปรองดองต่อไป โดยวันนี้ (19 ก.ย.) มีผู้เชี่ยวชาญด้านคณะกรรมการค้นหาความจริงและความยุติธรรม หรือนางพริสซิลล่า เฮย์เนอร์ ชาวสวิชเซอร์แลนด์ เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี หรือในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมกับรับทราบข้อห่วงใยที่สังคมควรช่วยกันหาจุดสมดุลในการรักษากฎหมายของบ้านเมือง และไม่เพียงข้อสรุปของ คอป.เท่านั้น ที่ คอป. หวังให้รัฐบาลนำไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง แต่ข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ คอป.ก็ตอบรับที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความปรองดองในการบ้านเมืองเช่นกัน แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่า การล้างมลทินจากเหตุรัฐประหาร 19 ก.ย.49 นั้นเป็นเรื่องยาก และนี่อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นายโคทม อารียา นักสันติวิธี และ ศ.วันชัย วัฒนศัพท์ ที่ย้ำให้รัฐบาลเปิดเวทีสานเสวนา โดยมcanmake mascara ใสีทุกภาคส่วนร่วมระดมความเห็นและแลกเปลี่ยนมุมมองในแต่ละด้าน ก่อนที่รัฐบาลจะนำไปสู่การปฏิบัติ เพื่อแนวทางปรองดองที่เกิดจากฉันทามติของทุกฝ่าย โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญ ปี 2550 หรือกฎหมายสูงสุดของประเทศทั้งฉบับ สาระสำคัญของข้อสรุป คอป. และคณะนิติราษฎร์ เพื่อความปรองดองแห่งชาติ ที่สอดคล้องกันคือ ประเด็นการชดเชยเยียวยาและฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุรัฐประหาร แต่ คอป.ยังคงย้ำผู้กระทำความผิดที่ต้องดำเนินคดีอย่างเท่าเทียม หากแต่คณะนิติราษฎร์ต้องการให้ยกเลิกกฎหมายและคำสั่งอันเป็นเหตุและผลพวงจากรัฐประหาร
“5 ปีรัฐประหาร” แต่ปรองดองยังไม่เกิด ครบรอบ 5 ปีรัฐประหารรัฐบาล “ทักษิณ” ซึ่งนับจากวันนั้นจนถึงวันนี
แล้วก็ถึงฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ นักร้องดังยุคสมัยก่อนหน้านี้ และปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
วันนี้ (3 ก.ย.2566) ภก.เลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ขนมเด็กที่
“5 ปีรัฐประหาร” แต่ปรองดองยังไม่เกิด ครบรอบ 5 ปีรัฐประหารรัฐบาล “ทักษิณ” ซึ่งนับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ นักสันติวิธียังคงย้ำให้รัฐบาลเปิดเวทีสานเสวนา เพื่อหาข้อสรุปในการสร้างความปรองดองในแบบฉันทามติ แม้ คอป.จะเสนอทางออกบางส่วนออกมา แต่ก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะการสร้างความเป็นธรรมในสังคม “5 ปีรัฐประหาร” แต่ปรองดองยังไม่เกิด แม้จะสรุปข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลผ่าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปแล้ว 7 ข้อ เพื่อร่วมกันสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ยังคงเดินสายแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านต่างๆ เพื่อสร้างความปรองดองต่อไป โดยวันนี้ (19 ก.ย.) มีผู้เชี่ยวชาญด้านคณะกรรมการค้นหาความจริงและความยุติธรรม หรือนางพริสซิลล่า เฮย์เนอร์ ชาวสวิชเซอร์แลนด์ เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี หรือในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมกับรับทราบข้อห่วงใยที่สังคมควรช่วยกันหาจุดสมดุลในการรักษากฎหมายของบ้านเมือง และไม่เพียงข้อสรุปของ คอป.เท่านั้น ที่ คอป. หวังให้รัฐบาลนำไปสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง แต่ข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ คอป.ก็ตอบรับที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความปรองดองในการบ้านเมืองเช่นกัน แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่า การล้างมลทินจากเหตุรัฐประหาร 19 ก.ย.49 นั้นเป็นเรื่องยาก และนี่อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นายโคทม อารียา นักสันติวิธี และ ศ.วันชัย วัฒนศัพท์ ที่ย้ำให้รัฐบาลเปิดเวทีสานเสวนา โดยมcanmake mascara ใสีทุกภาคส่วนร่วมระดมความเห็นและแลกเปลี่ยนมุมมองในแต่ละด้าน ก่อนที่รัฐบาลจะนำไปสู่การปฏิบัติ เพื่อแนวทางปรองดองที่เกิดจากฉันทามติของทุกฝ่าย โดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญ ปี 2550 หรือกฎหมายสูงสุดของประเทศทั้งฉบับ สาระสำคัญของข้อสรุป คอป. และคณะนิติราษฎร์ เพื่อความปรองดองแห่งชาติ ที่สอดคล้องกันคือ ประเด็นการชดเชยเยียวยาและฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุรัฐประหาร แต่ คอป.ยังคงย้ำผู้กระทำความผิดที่ต้องดำเนินคดีอย่างเท่าเทียม หากแต่คณะนิติราษฎร์ต้องการให้ยกเลิกกฎหมายและคำสั่งอันเป็นเหตุและผลพวงจากรัฐประหาร
หลัง ศบค.ประกาศล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนหลากหลายอาชีพ ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนต