นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มอบหมายให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช. จัดทำแผนยุทธศาสตร์-ดับไฟใต้ ฉบับรัฐบาลแพทองธาร และขีดเส้นให้เสร็จภายในสิ้น
การประชุมศูนย์ปฏิบัติการทางการแพทย์และสาธารณสุขฉุกเฉิน กรณีโรคโควิด-19 หรือ EOC กระทรวงสาธารณสุข ที่มี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ในวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค.2564) อนุกรรมการสร้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มอบหมายให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช. จัดทำแผนยุทธศาสตร์-ดับไฟใต้ ฉบับรัฐบาลแพทองธาร และขีดเส้นให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ม.ค.นี้ แหล่งข่าวด้านความมั่นทีมชาติ ญี่ปุ่น วิเคราะห์คง ระบุว่า เป็นไปได้ที่จะนำไปสู่การมอบนโยบายการขับเคลื่อนงานด้านความมั่นคงในทุกมิติ โดยนายภูมิธรรม กำหนดนัดประชุมร่วมกับทหาร-ตำรวจ-ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด-ขบวนการคอลเซนเตอร์-การค้ามนุษย์ และการลักลอบนำสินค้าผิดกฎหมายเข้าประเทศ ใวันที่ 30 ม.ค.นี้ นอกจากนี้ มีรายงานว่า แผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงตามหลักการของนายภูมิธรรม คือ เน้นไปที่การแก้ไขปัญหาทั้งระบบร่วมกัน โดยเฉพาะการเปิดโต๊ะพูดคุยกันของกลุ่มเห็นต่างในพื้นที่ การพูดคุยสันติสุขกับกลุ่มบีอาร์เอ็น รวมถึงการแก้ปัญหาโครงสร้างการเมืองในพื้นที่ และการป้องกันการบ่มเพาะแนวคิดการใช้ความรุนแรง เพื่อนำไปสู่การลดเหตุการณ์ความไม่สงบ นอกจากนี้ ตามแผนฯ ยังระบุถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการพัฒนาส่งเสริมให้คนในพื้นที่มีงานทำ โดยเฉพาะคนว่างงานและนำไปสู่การเป็นแนวร่วมผู้ก่อเหตุ ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนสำคัญของการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนใต้ ขณะเดียวกันในแผนฯ ยังเตรียมปรับลดกำลังทหาร ตำรวจ และอาสาสมัคร โดยเฉพาะกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) หลังพบว่า เปิดอัตรากำลังพลลงพื้นที่ไปจำนวนมาก แต่ในข้อเท็จจริง กลับมีกำลังพลจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในส่วนกลาง ไม่ได้ลงไปในพื้นที่จริง รวมถึงการปรับลดการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งตามแผนฯ กำหนดไว้ว่าปี 2570 จะต้องไม่มีพื้นที่ใด อยู่ภายใต้การควบคุมด้วยกฎหมายพิเศษฉบับนี้ ส่วนกระทรวงศึกษาธิการ มีหลายหน่วยงานอยู่ในพื้นที่ แต่ไม่มีการเชื่อมโยง จึงต้องพิจารณาให้รอบคอบทุกมิติ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งพบปัญหาทำให้เกิดการบ่มเพาะกลุ่มที่ใช้ความรุนแรง ไม่ชัดเจนว่าแผนฯ ฉบับนี้ จะต้องผ่านความเห็นชอบ ครม. หรือใช้เพียงกลไกระดับ สมช. หรือ กบฉ.ที่มีนายภูมิธรรม นั่งเป็นประธานเท่านั้น และจากฐานข้อมูลของหน่วยงานด้านความมั่นคง มีรายงานว่า กลุ่มบีอาร์เอ็น มีแกนนำสูงสุดในการบังคับบัญชา-สั่งการ แต่ละด้าน 30-40 คน ส่วนอีก 100 คน เป็นระดับแกนนำสั่งการในพื้นที่ที่กระจายอยู่ตามรอยต่อแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ส่วนกองกำลังในการปฏิบัติการก่อเหตุรุนแรง 3,000 คน และมีแนวร่วมปฏิบัติการอีกนับหมื่นคน และอีกประมาณ 300,000 คน จะเป็นแนวร่วมวงนอก และเครือข่ายร่วมปฏิบัติการ
วันนี้ (22 มิ.ย.2567) ตำรวจสืบสวนนครบาล 7 นำหมายค้น ศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้น สวนกระท่อม ล้อมรั้วสังกะสีทึบ ไม่มีเลขที่ ใน อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ ซึ่งพบมีโรงงานและเครื่องจักรสำหร
วันนี้ (23 ก.พ.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มราษฎร นัดหมายรวมตัวกันที่แยกราชประสงค์ ตั้งแต่เวลา 17