UID: 82354

วันนี้ (22 ส.ค.2566) เวลา 17.07 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เหลือผู้ที

ปัจจุบันกระแสการใช้ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่รถยนต์

วันนี้ (11 มิ.ย.2564) น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 จะเปิดให้ประชาชนผู้สนใจลงทะเบียนวันแรกในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิภาครัฐร่วมจ่ายร้อยละ 50 สำหรับค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และค่าบริการ (นวด สปา ทำผมทำเล็บ ค่าเดินทางโดยบริการขนส่งสาธารณะหรือขนส่งมวลชนสาธารณะ) ยกเว้นสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ ผู้ได้รับสิทธิจะใช้วงเงินได้ไม่เกินวันละ 150 บาทต่อคน หรือไม่เกินคนละ 1,500 บาท ในแต่ละรอบ ซึ่งรอบแรกตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.2564 และรอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-31 ธ.ค.2564 หรือไม่เกินคนละ 3,000 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ ทั้งนี้ ผู้ได้จะรับสิทธิร่วมโครงการฯ ต้องมีสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน และอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ หรือไม่ใช้สิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.2564 เป็นต้นไป เวลา 06.00-22.00 น. จนกว่าจะครบจำนวนไม่เกิน 31 ล้านคน สำหรับผู้ที่เคยรับสิทธิโครงการของรัฐ เช่น ชิมช้อปใช้, เราเที่ยวด้วยกัน, คนละครึ่ง, เราชนะ, ม.33 เรารักกัน หรือที่เคยใช้บริการกระเป๋าตังสุขภาพ หรือวอลเล็ต สบม. สามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งเป็นการยืนยันเข้าร่วมโครงการ หรือจะลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com ก็ได้ ส่วนผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการดังกล่าว สามารถลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วจะได้รับ SMS แจ้งสิทธิภายใน 3 วัน จากนั้นขอให้ยืนยันตัg2g911เลข ดัง 1 7 64วตนผ่านช่องทาง ได้แก่ 1. ผู้ที่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน (ธนาคารกรุงไทยฯ) แล้ว สามารถสแกนใบหน้าเพื่อใช้งานแอปพลิเคชันได้เลย 2. ผู้ที่มีแอปพลิเคชัน KrungthaiNext สามารถยืนยันตัวตนผ่าน KrungthaiNext ได้ 3. ผู้ที่ไม่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนกับธนาคารกรุงไทยฯ ให้นำบัตรประจำตัวประชาชนไปยืนยันตัวตนที่สาขา หรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยฯ และสแกนใบหน้าอีกครั้งก็จะเสร็จสมบูรณ์ เมื่อยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้วจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-31 ธ.ค.2564 ในเวลา 06.00-23.00 น. กรณีผู้รับสิทธิคนละครึ่งระยะที่ 3 แล้ว หากต้องการจะเปลี่ยนไปรับสิทธิโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” (เปิดให้ลงทะเบียนสำหรับประชาชนในวันที่ 21 มิ.ย.2564 เวลา 06.00-22.00 น.) จะต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ภายในวันที่ 28 มิ.ย.2564 เวลา 22.00 น. ซึ่งถือเป็นการสละสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ที่ได้รับสิทธิทันที สำหรับผู้ประกอบการทั่วไป (ผู้ประกอบการร้านค้าทั่วไป ผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ ที่มีสัญชาติไทยไม่เป็นนิติบุคคลและไม่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์) ผู้ประกอบการของกองทุนหมูบ้านหรือชุมชนเมืองหรือวิสาหกิจชุมชน ร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และผู้ให้บริการขนส่งมวลชนสาธารณะ ที่สนใจเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.เป็นต้นไป เวลา 06.00-22.00 น. นอกจากนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าทั่วไปและผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ในวันและเวลาเดียวกัน โดยผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นของรัฐที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” แล้ว ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com ตามที่ต้องการเข้าร่วม หรือลงทะเบียนผ่านทางสาขา หรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยฯ โดยธนาคารกรุงไทยฯ จะช่วยติดตั้งและแนะนำการใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อรับชำระเงินจากการขายสินค้า

วันนี้ (11 มิ.ย.2564) น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคล