สล็อต ฝาก ถอน ท รู มัน นี่ วอ ล เล็ ท-joker slot 55-siam slot pg

สล็อต ฝาก ถอน ท รู มัน นี่ วอ ล เล็ ท

เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เทคโนโลยี "AI" กลายเป็นความกังวลว่าในอนาคตทุกอย่างบนโลกใบนี้ สล็อต ฝาก ถอน ท รู มัน นี่ วอ ล เล็ ท

หัวหน้า คสช.ชี้แจงคำสั่งย้าย-ระงับการทำงาน ขรก. ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกคน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชี้แจงคำสั่งหัวหน้า คสช.กรณีปรับย้ายข้าราชการและให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ว่าเป็นไปตามขั้นตอนการตรวจสอบค

เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เทคโนโลยี "AI" กลายเป็นความกังวลว่าในอนาคตทุกอย่างบนโลกใบนี้ AI จะถูกแทนที่ด้วยมนุษย์ การพัฒนาเป็นไปอย่างรวดเร็วในทุกด้าน จะเปลี่ยนชีวิตมนุษย์ไปอย่างไร..? โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนา จำเป็นจะต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างไร..? ..เป็นไปได้หรือไม่ที่ AI จะเข้ามาแทนที่มนุษย์.. ทั้งในด้านของเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม สังคม ฯลฯ จะใช้อย่างไรที่ทำให้เกิดผลกระทบกับมนุษย์น้อยที่สุด และเราจะเรียนรู้เพื่ออยู่ร่วมกันได้อย่างไร นโยบายรัฐบาลควรไปทางทิศไหน มาหาคำตอบ กับ "ธีระชาติ ก่อตระกูล" CEO & Co-Founder, StockRadars Startup ที่จะมาเล่าทุกแง่มุมในฐานะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางในการควบคุมและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต (AI) ในรายการ คุยนอกกรอบ กับ สุทธิชัย หยุ่น "ธีระชาติ" เปิดเผยถึงการทำงานในส่วนคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา (AI) เป็นนโยบายระดับชาติที่มีกรรมาธิการ 25 คน ที่มาจาก ส.ส. และบุคคลที่มีประสบการณ์ในวงการเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานฝั่งรัฐบาล และศึกษาทิศทางที่ควรเป็น เพื่อไปหาข้อสมดุลกับคณะกรรมการ AI แห่งชาติ "สิ่งที่น่ากังวล ในตอนนี้คณะกรรมการ AI แห่งชาติ ยังไม่ประชุมกัน ประชุมล่าสุดเมื่อรัฐบาลชุดที่แล้ว และหลังจากนั้นยังไม่ได้ประชุมกันอีกเลย ทำให้การทำงานไม่มีความคืบหน้า และคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา (AI) ไม่ทราบว่า จะต้องนำข้อมูลไปพูดคุยกับใคร และในทางกฎหมายเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลคณะกรรมการ ก็จะหายไปคล้ายกับสูญญากาศ" เป้าหมายหลักของกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทาง AI จะทำให้เป็นรัฐน้อยที่สุด ต้องเป็นเอกชนมากที่สุด เพราะมองว่ารัฐไม่สสล็อต ฝาก ถอน ท รู มัน นี่ วอ ล เล็ ทามารถขยับได้เร็วเท่ากับเอกชน ที่ผ่านมาจึงได้มีการพยายามหาที่ปรึกษาเก่งๆ มาเติมเข้าไปในส่วนที่ขาด เพื่อเป้าหมายในการก้าวไปข้างหน้าให้เร็วที่สุด …ถ้าถามว่ามีความหวังจะเป็นนโยบายระดับชาติ เป็นไปได้แค่ไหน...จากภาพรวมของการประชุมกันมาประมาณ 16-17 ครั้ง มีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง โดยมีภาครัฐ 10 หน่วยงาน ส่วนเอกชน - หน่วยงานร่วม 32 หน่วยงาน เป็นเพียงการพูดคุยในประเด็นทั่วไปเท่านั้น โดยไม่มีโครงสร้างเชิงนโยบาย ที่หน่วยงานนั้น ๆ ทำ และจับต้องได้ ทุกหน่วยงาน ทราบแล้วว่า AI คือ อะไร จะมาเปลี่ยนอย่างไร แต่ทุกคนมักจะมองมันเป็นเทคโนโลยี ไม่ได้มองให้เป็นผลกระทบที่มีต่อชีวิตผู้คน ในชุดเดิมของคณะกรรมการ AI แห่งชาติ จะเห็นคนจากกระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี , กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่ไม่เห็นคนจากกระทรวงศึกษาฯ กระทรวงแรงงาน หน่วยงานด้านเศรษฐกิจ จะทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบและตามหลังประเทศอื่น ๆ "ถ้าเรามอง AI เป็นเทคโนโลยี ปล่อยให้กระทรวงดิจิทัลฯ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มันก็จะกลายเป็นเรื่องเทคโนโลยี ที่สำคัญกว่า เป็นเรื่องผลกระทบว่า คนกลุ่มใหญ่ในประเทศเราจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังแน่ ๆ เพราะว่าคนที่ไม่ได้ใช้ AI รับรองได้ท้ายสุดตารางแน่นอน คนที่มีความสามารถใช้ AI หรือมีความสามารถไม่พอแต่ใช้ AI ได้ ยังไงก็เหมือนมีเบาะรองรับว่าเขามีประสิทธิภาพดีกว่าคนปกติ ส่วนคนที่จะได้เปรียบที่สุดทั้งความสามารถดี เห็นวิสัยทัศน์ต่าง ๆ รู้ว่าจะเอาไปปรับใช้ยังไง ก็มีเครื่องมือที่ถูกต้อง เหมือนเรารบอยู่โดยเขาใช้ปืนกัน เราถือดาบวิ่งเข้าไป อย่างไรก็พรุน" ..ถ้าถามว่าต้องทำอะไรก่อน ระหว่างกฎหมาย หรือการวางนโยบายระดับชาติ หรือเอกชนจะต้องผลักดันอะไรแค่ไหน .. ส่วนตัวของ "ธีระชาติ" มองว่า การวางนโยบายสำคัญที่สุดสามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้งบประมาณ แต่จะต้องมีแนวทางที่ชัดเจนให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ความถดถอยของการศึกษาในประเทศไทย ที่แม้กระทรวงศึกษาฯ จะได้งบประมาณมากที่สุดในประเทศ แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม ทำให้หลายคนพยายามผลักดันลูกหลานออกจากระบบการศึกษาไทยไปต่างประเทศ ในตอนนี้อาจจะถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องมานั่งคุยกันเป็นจริงจัง และลงมือทำให้ได้ว่า เราจะใช้ประโยชน์จาก AI อย่างไรในการพัฒนาประเทศในทุกด้าน ถ้ามองในเชิงนโยบาย ต้องยอมรับว่าต้องใช้เวลาพอสมควรในการเตรียมความพร้อมครูให้มีทักษะด้าน AI และบทบาทที่เปลี่ยนไป เฉกเช่นเดียวกับปัญหาแรงงาน ประสบปัญหาค่าแรงสูง ทำให้หลายประเทศย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน แต่เมื่อ AI เข้ามามีบทบาท ไทยสามารถใช้โอกาสนี้ในการดึงฐานการผลิตกลับมา โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแรง (Infrastructure) ปัญหาค่าแรงแพงก็ไม่ได้เป็นปัญหาแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือการวางนโยบายให้คนแรงงานมีสกิลรองรับงานที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ รวมไปรัฐสวัสดิการจะต้องแข็งแรงขึ้น สุดท้ายก็ยังไม่มีการคุยกันในนโยบายของแรงงาน ผลกระทบทางสังคม ของคน" อยากชวนย้อนคิดตอนไทยแลนด์ 4.0 มันเป็นวาระแห่งชาติ ทุกคนพูดถึง แต่ผลลัพธ์มันกลายเป็นโปรเจคที่ล้มเหลว สิ่งนี้ทุกคนควรรับรู้ได้แล้วว่า เราจะแก้ปัญหาก็ต้องยอมรับก่อนว่ามันต้องแก้ที่ไหน จะได้เริ่มต้นถูก ...ถ้าถามว่า "ไทยแลนด์ 4.0" ล้มเหลวเพราะอะไร…? นอกเหนือจาก "startup" (บริษัทเกิดใหม่ที่กำลังดำเนินงานอยู่ในขั้นตอนแรกของแผนพัฒนาธุรกิจ) ไม่เก่งพอ ,นวัตกรรมบ้านเราสู้ต่างชาติไม่ได้ สอดคล้องกับนโยบายรัฐไม่ได้ผลักดันให้เกิดการเข้าถึงในกลุ่มคน เพื่อให้เกิดการเติบโต กลับกันรัฐทำได้มากสุดคือการจัดอีเว้นท์ (Event) แข่งกับเอกชน โดยมีตัวชี้วัดเป็นปริมาณผู้เข้าชมมากกว่าคุณภาพ แต่สุดท้ายรัฐก็ยังต้องเป็นตัวขับเคลื่อน เพราะรัฐมีหน้าที่สร้างสิ่งแวดล้อมให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ แรงจูงใจให้คนมาใช้ อย่างเช่น ลดภาษี 20-30% "ถ้ารัฐมีนโยบายขับเคลื่อนว่า Thai First ต้องอุดหนุนซอฟต์แวร์ไทยก่อน เพราะว่ามันเงินภาษีของไทยนะ ไม่ใช่เหมือนแพลตฟอร์มเราเที่ยวด้วยกัน คนที่ได้ก่อน คือ อโกดา เงินมันก็ไหลออกทันที อันนี้น่ากลัว อย่างเงินดิจิทัลเหมือนกัน ใช้ซื้อของออนไลน์ เงินก็จะไหลออกไปจีนทันที เป็นสิ่งที่ต้องระวัง และต้องวางระบบให้ครอบคลุมเกิดประโยชน์กับคนไทย" ธีระชาติ มองว่า สิ่งที่ต้องทำโดยเร็วที่สุดคือเรื่องระดับนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ล่าสุดแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 5 ปี ยังไม่ได้มีการนำเรื่อง AI บรรจุเข้าไป โดยให้คำตอบว่าต้องรอฉบับหน้าในอีก 5 ปี "เราถามเรื่องเอไอ เขาบอกฉบับนี้ยังไม่ได้ใส่ไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ต้องรอฉบับหน้า ซึ่ง AI มันรอ 5 ปี ไม่ได้ โลกมันเปลี่ยนเร็วขนาดนี้ สุดท้าย เราก็จะกลายเป็นรั้งท้ายในการพัฒนาทุกด้าน" นโนบายใหญ่รัฐ ตอนนี้ทั้งโลกมาทาง AI ประเทศไหนที่ไม่ได้ขึ้นรถไฟขบวนนี้มีโอกาสจะไม่ทันขบวนรถไฟ ประเทศไทยจึงต้องรีบผลักเป็นวาระแห่งชาติ โดยเริ่มโครงสร้างพื้นฐานทางการศึกษา เตรียมคนให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลง สอดรับกับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางในการควบคุมและส่งเสริมการใช้ AI ดำเนินการใน 3 เรื่อง ส่งเสริมให้เกิด ควบคุมด้วยกฎหมาย และ เตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง หากมองทั้ง 3 ข้อ สำคัญที่สุดคือ เตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง เพราะการส่งเสริมไม่สำเร็จอย่างไร ก็ต้องเปลี่ยนแปลงอยู่ดี ดังนั้นเตรียมพร้อมแล้วค่อยส่งเสริมก็ได้ ควบคุมด้วยกฎหมาย เป็นเรื่องที่ควรทำท้ายที่สุด เนื่องด้วยจะต้องมันเป็นสิ่งใหม่ที่เรายังไม่ได้รู้ว่าจะควบคุมอย่างไรให้ตรงจุด หากจะออกกฎหมายแบบเร่งรีบก็จะเกิดการโต้เถียง และทำให้คนรู้สึกกลัวที่จะเรียนรู้มากกว่า เรามองว่าประเทศเราคือเกษตรกรรม อุตสาหกรรมค่อย ๆ ปรับมา แต่ถ้าเรายังไม่ทำให้คนเข้ามาในด้านเทคโนโลยีได้เยอะ มันแปลว่าไอ้ของที่เราเคยมีอยู่และส่งเสริมให้พัฒนาขึ้น เมื่อเราหันไปมองประเทศอื่น ๆ พอมองกลับมาอีกทีกลายเป็นว่าเรากำลังถดถอย อะไรที่เป็นแรงงานเราสู้แรงงานที่อื่นไม่ได้แล้ว มันผ่านเวลานั้นไปแล้ว ถ้าเราไม่รับตรงจุดนี้ และเรายังไปส่งเสริมแบบเดิม ๆ มันก็ยาก กลับกันเราอาจจะมีข้อมูล AI ด้านเกษตรกรรมดีกว่าประเทศอื่น ถ้าเรานำ AI มาใช้ น่าจะได้เปรียบคนอื่น ต้องปรับประเทศให้เหมาะตามยุคตามสมัย ประเทศมันต้องหมุนและเปลี่ยนกติกาเปลี่ยนรูปแบบไปตามโลกที่มันหมุนไป คนที่ไม่ยอมเปลี่ยนไม่ยอมหมุนมันก็จะลำบากมาก นอกจากค่าแรงแพง คนน้อยลงก็จะยิ่งทำให้ค่าแรงแพงขึ้น ถ้าเราไม่เอาเทคโนโลยีมาใช้เราไปไม่รอดแน่นอน พบกับรายการ : คุยนอกกรอบกับ สุทธิชัย หยุ่น ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 21.30-22.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส อ่านข่าว : สว.โหวตผ่าน 3 วาระรวด "งบดิจิทัล" 1.22 แสนล้านบาท 112 โทษแรงเหมาะสม! ไทยตอบข้อกังวล UN ปมยื่นยุบ "ก้าวไกล" "เศรษฐา" ปัดตีตัวห่าง "ทักษิณ" ปมดรามา "ประยุทธ์" มางานศพแม่

วันนี้ (24 ม.ค.2567) ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 65
วันนี้ ( 3 มี.ค.66) จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจในการประกา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่