กรณีพบมีการนำภาพศพของน.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง เกิดอุบัติเหตุพลัดตกเรือสปีดโบ๊ต
กรณีพบมีการนำภาพศพของน.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง เกิดอุบัติเหตุพลัดตกเรือสปีดโบ๊ตจมน้ำเสียชีวิตนำมาเผยแพร่ในโซเชียล วันนี้ (2 มี.ค.2565) พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้สั่งการให้พนักงานสอบส🌞วน เร่งรัดคดีการเสียชีวิตของแตงโม เพื่อตอบข้อสงสัยของสังคมให้กระจ่างทุกประเด็น พล.ต.ท.ประจวบ ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ปล่อยภาพศพผู้เสียชีวิตอย่างแน่นอน และหลังจากนี้จะให้พนักงานสอบสวน ตรวจสอบแหล่งที่มาของการเผยแพร่ภาพดังกล่าว โดยจะมีการเชิญบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ พิมพ์ลายนิ้วมือบริเวณรถตู้ของมูลนิธิ หน้า สภ.เมืองนนทบุรี หลังนำร่างขึ้นจากน้ำไปตรวจสอบประวัติ ยืนยันตัวบุคคล ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก Mahidol Channel เผยแพร่บทความที่เขียนโดย ผศ.ดร.ฐนันดร์ศักดิ์ บวรนันทกุล ประธานหลักสูตรอาชญาวิทยา การบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า การแชร์ภาพศพ ผิดกฎหมาย และไม่ให้เกียรติผู้เสียชีวิต ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 366/4 ระบุว่า “ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามศพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” การกระทำใดๆ ที่เข้าลักษณะหรือองค์ประกอบการดูหมิ่นศพ ต้องถือว่ามีความผิดทางอาญาที่จะต้องรับโทษ แม้ว่าศาลฎีกาให้ความหมายของคำว่า “ดูหมิ่น” หมายถึงการด่า ดูถูกเหยียดหยาม หรือสบประมาทให้อับอาย ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4327/2540 หรือแนววินิจฉัยตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 758/2498 การดูหมิ่นเหยียดหยามศพ เมื่อไม่มีองค์ประกอบคำว่า “ซึ่งหน้า”เหมือนเช่น ม.393 แม้ว่า ในความเป็นจริงยังไม่มีคำพิพากษาของศาลวินิจฉัยออกมาชัดเจนว่า การแชร์ภาพศพ ผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะแม้การแชร์ภาพจะเป็นการกระทำ แต่จะเข้าข่ายดูหมิ่นศพหรือไม่ก็ตาม ยังไม่มีแนวคำวินิจฉัยศาลออกมาเป็นบรรทัดฐาน แต่ก็สุ่มเสี่ยงในการแชร์หรือโพสต์ และหากมีการฟ้องร้องและศาลมีคำพิพากษาออกมาว่าการแชร์ภาพศพ เข้าข่ายดูหมิ่นแล้ว ก็ต้องรับโทษตามกฎหมาย ทั้งนี้ ญาติผู้ตายสามารถฟ้องร้องได้ โดยอาศัย มาตรา 366/4 ตามประมวลกฎหมายอาญดู บอล สด ไล ป์ ซิก วัน นี้าดังกล่าว หากการแชร์ออกไปมีลักษณะเข้าข่ายการดูหมิ่นศพ ก็มีความผิดและต้องรับโทษ การเผยแพร่ภาพศพถือเป็นสภาพที่ไม่น่าดูของผู้ตาย การแชร์ภาพศพ หรือโพสต์ภาพศพ ถือเป็นการดูหมิ่นผู้ตายหรือไม่? ต้องเรียนตามตรงว่า ยังไม่ได้มีคำพิพากษาของศาลวินิจฉัยออกมาชัดเจนหรือวางบรรทัดฐาน อาจต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไปว่า การแชร์นั้นมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายมีเจตนาในการดูหมิ่น ดูถูกเหยียดหยาม หรือสบประมาทให้อับอายหรือไม่ หากเข้าเงื่อนไขในองค์ประกอบก็ถือเป็นการดูหมิ่น อ่านข่าวเพิ่ม วุ่น! ตร.สภ.เมืองนนท์ติดโควิด 6 นาย-นักข่าวอีกหลายสำนัก อันที่จริงเราไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนว่า สื่อควรแสดงภาพผู้เสียชีวิตหรือไม่ในฐานะคนที่ค้นคว้าและนำเสนอข้อเท็จจริง แต่เป็นคำตอบในด้านจริยธรรมต่อการรายงานภาพศพ ผู้เสียชีวิต ภาพถ่ายความทุกข์ทรมาน อาจพิจารณาไม่เผยแพร่ หรือต้องเซ็นเซอร์ภาพ เช่น เห็นใบหน้า เลือด การเห็นอวัยวะฉีกขาด ภาพสยดสยองต่าง ๆ ก่อนเผยแพ🔭ร่ เพื่อลดความน่ากลัว การสร้างความสะเทือนใจสำหรับผู้รับสาร ญาติผู้ตาย และยังเป็นการเคารพผู้ตายอีกด้วย กรณีสื่อสารมวลชนถ่ายทอดสด (Live) หรือรายงานสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เห็นศพลงในโซเชียลมีเดีย ควรต้องระมัดระวังในเรื่องการนำเสนอภาพศพเป็นพิเศษ หากเลือกที่จะเขียน รายงานข่าว ให้เขียนสั้น ๆ เลือกถ้อยคำอย่างระมัดระวังและนึกถึงสมาชิกในครอบครัวของเขาและเพื่อนๆ ที่กำลังเจ็บปวดอยู่ในขณะนี้ ที่สำคัญที่สุด อย่าเปิดเผยรายละเอียดที่ไม่ได้รับการยืนยันเกี่ยวกับการเสียชีวิต อย่าลืมว่ามีโซเชียลมีเดีย รอรับลูกต่อที่สามารถกลายเป็นสภาพแวดล้อมสำหรับข่าวลือหรือข้อมูลเท็จได้อย่างง่ายดาย และจะเพิ่มประสบการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้นสำหรับครอบครัวผู้เศร้าโศก นั่นเท่ากับเป็นการนำเสนอที่ซ้ำเติมอารมณ์ของความสูญเสียและความเสียใจ ควา🎻มเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้น แม้จะไม่มีคู่มือสำหรับการนำเสนอการรายงานภาพศพ แต่องค์กรข่าวต้องมีความรับผิดช🐨อบที่จะปกป้องและลดหรือขีดวงการรับรู้ดังเช่น จริยธรรมสื่อของประเทศญี่ปุ่น ที่ไม่เผยแพร่ศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สินาสิเมื่อปี 2011 ที่ไม่ค่อยปรากฏภาพผู้เสียชีวิตผ่านสื่อ ถึงแม้จะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1.5 หมื่นรายก็ตาม ต้องยอมรับว่าสังคมปัจจุบัน ผู้คนหันมาใช้โซเชียลมีเดีย อย่างรวดเร็ว เพื่อพูดคุยในเรื่องราวต่าง ๆ อย่างเสรีโดยขาดความคิดพิจารณาอย่างละเอียด โดยเฉพาะเมื่อมีประเด็นเกี่ยวกับความตาย น้อยคนที่จะนึกถึงผลที่ตามมา ลืมนึกถึงห้วงเวลาที่ครอบครัว คนรัก ญาติต้องสูญเสีย แน่นอนว่าพวกเขาประสบกับคว🎨ามเสียใจมากพอแล้ว ควรจะเคารพให้เกียรติ การโพสต์ที่แชร์ภาพ วิดีโอ ข้อมูล ของข่าวอาชญากรรม โดยทันทีโดยไม่ปกป้องสิทธิผู้ตายยิ่งเป็นการซ้ำเติมการสูญเสีย ความเสียใจ ความเศร้าโศก ความเจ็บปวด ต้อง (ลอง) แทนใจว่า ถ🐴🐦💪้าหากเหตุการณ์นั้นเกิดกับคนที่แชร์ในลักษณะเดียวกันบ้าง จะเจ็บปวดจากการไม่เคารพ ไม่ให้เกียรติ และการด้อยค่ามากน้อยเพียงใด การแชร์ภาพคนตาย ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรแก่สังคมเลย แม้หลายครั้งที่คนแชร์จะหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองว่าต้องการให้ญาติเขารับรู้ หรือหวังดีกับผู้เสียชีวิต แต่ก็ไม่จำเป็นต้องอวดให้ใครรู้ว่าเราเข้าถึงข้อมูลเร็ว หรือกลัวว่าจะคุยกับชาวบ้านไม่รู้เรื่อง หรือรายงานความจริงที่จะอาจกลายเป็นทำลายล้าง การสูญเสียคนที่คุณรักเป็นช่วงเวลาแห่งอารมณ์สำหรับครอบครัวและเพื่อนสนิท และอาจ (ไม่ใช่หน้าที่)จะนำความคิดของคุณมาเป็นคำพูด อย่าลืมว่าคนที่กำลังสูญเสีย เราควรหยิบยื่นความเห็นอกเห็นใจ ให้เวลาพวกเขาได้ใช้เวลากับตัวเอง สำหรับสมาชิกในครอบครัวและเพื่อน ๆ ของผู้ตายย่อมดีที่สุด ดังนั้น “ควรหยุดการแชร์ภาพศพ” เพื่อเป็นการให้เกียรติและเคารพผู้เสียชีวิต อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "กระติก-ปอ-จ๊อบ" จำลองสถานการณ์จริง-ยกเว้น "โรเบิร์ต" อ้างป่วย
กว่าครึ่งเดือนที่ "แป้ง นาโหนด" หรือ นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี ผู้ต้องขังหลบหนีระหว่างการเข้ารับการรักษา ใน รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช โดยปลดพันธนาการที่เจ้าหน้าที่ใส่ไว้ เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 22 ต.
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2565 ศาลอาญาพระโขนง นัดฟังคำพิพากษาที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 3 และนางฮวย ศร
- ดู บอล สด ไล ป์ ซิก วัน นี้
- เอ เย่ น หวยยี่กี
- โปรแกรม ฟุตบอล t3
- ข่าว กีฬา สปอร์ต พูล
- ถอนเงิน ออก จาก ts911
- ตรวจ สลากกินแบ่ง รัฐบาล 16 สิงหาคม 2563 mthai
นิยายชีวิต โดย : Intan Pratiwi
เรื่องและภาพโดย : Intan Pratiwi
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..