สหรัฐฯ พร้อมช่วยอินเดียผลิตวัคซีน-ยอดติดโควิดพุ่งสูง 5 วันติด

วันนี้ (9 ต.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของ จ.เพชรบูรณ์ หลังเกิดฝนตกหนักทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำและถนนบางสายมีน้ำท่วมสูง เวลา

วันนี้ (22 ต.ค.2567) นายจุลพันธ์​ อมรวิวัฒน์​ รมช.คลัง​ ชี้แจงถึงการโอนเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ​ 10,000​

วันนี้ (23 ม.ค.2568) สำหนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เผยแพร่ภาพวิดีโอที่แสดงให้เห็นกลุ่มควันไฟป่าลอยออกมาจากเทือกเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของลอส แอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งค่อย ๆ ขยา

วันนี้ (22 ต.ค.2567) นายจุลพันธ์​ อมรวิวัฒน์​ รมช.คลัง​ ชี้แจงถึงการโอนเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ​ 10,000​ บาท​ ให้กลุ่มเปราะบาง​รอบที่​ 2 ว่า​ เมื่อวานนี้​ (21 ต.ค.)​ ได้โอนเงินให้ 2 กลุ่ม คือ​ กลุ่มที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 371,591 คน​ โอนสำเร็จ​แล้ว​ 311,751 คน​ และกลุ่มผู้พิการ​คงค้าง 43,317 คน​ โอนสำเร็จ​ 38,265 คน​ ซึ่งยังมีการคงค้าง โอนให้สำเร็จอีกประมาณ​ 65,000 คน​ กลุ่มนี้ร้อยละ 90 มีปัญหาเรื่องการผูกพร้อมเพย์ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนให้รีบดำเนินการตรวจ สลาก งวด วัน ที่ 1 มีนาคม 2564 ตรวจ สลาก งวด วัน ที่ 1 มีนาคม 2564 เพราะจะมีการโอนซ้ำอีก 2 ครั้ง ในวันที่ 21 พ.ย. และวันที่ 21 ธ.ค.​ รอบสุดท้าย​ หากไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ก่อนวันที่ 21 ธ.ค. จะถือว่าสละสิทธิ์ และเงินก็จะส่งคืนคลัง​ ส่วนการดำเนินการที่ผ่านมา​ นายจุลพันธ์​ ระบุว่า ทั้งรอบแรกและรอบเก็บตก​ 14.55 ล้านคน​ สำเร็จไปแล้วร้อยละ​ 99.5 ถือเป็นตัวเลขที่น่าพึงพอใจ หรือว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเติมเงิน 10,000 บาท ให้กับกลุ่มเปราะบาง​ ถึงมือครบถ้วนแล้ว​ เมื่อถามว่าเงินดังกล่าวจากการประมาณการสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่​ นายจุลพันธ์​ ระบุว่า​ ขณะนี้ตัวเลขยังไม่ออก ซึ่งอย่างแรกต้องมองภาวะเศรษฐกิจโดยรวม จะเห็นได้ว่าในไตรมาสที่ผ่านมา มีเหตุการณ์หลายอย่าง ทั้งน้ำท่วม และปัญหาอื่นๆ ซึ่งก็ยังสามารถประคองในสภาวะการเศรษฐกิจ ให้ตัวเลข GDP อยู่ที่ 2.7 ยังคงตรึงอยู่ได้ ด้วยกลไกที่กระตุ้นเข้าไป ส่วนตัวเลขที่ชัดๆ คงต้องรอปลายปีอีกครั้ง และกระบวนการ ที่ผ่านมาจากการประเมินด้วยผลสำรวจความคิดเห็นเมื่อเติมเงินลงไปแล้ว​ มีการนำไปใช้ในการลงทุนประกอบอาชีพ ที่มากที่สุดคือการอุปโภคบริโภค ซึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ทุกประการ นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้าการจ่ายเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ (โครงการฯ) ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายโครงการรวมประมาณ 14.55 ล้านคน ว่า กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางได้จ่ายเงิน 10,000 บาทต่อคน ให้แก่กลุ่มเป้าหมายในระหว่างวันที่ 25 , 26 , 27 และ 30 ก.ย.2567 แล้วรวม 14,438,628 คน แบ่งเป็นจ่ายสำเร็จ 14,057,341 คน และจ่ายไม่สำเร็จ 381,287 คน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2567 กรมบัญชีกลางได้สั่งจ่ายเงินในรอบการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีสิทธิจำนวน 414,908 คน โดยประกอบด้วยการจ่ายเงินให้แก่ผู้มีสิทธิที่ยังจ่ายเงินไม่สำเร็จในรอบการจ่ายเงินที่ผ่านมา และการจ่ายเงินให้แก่คนพิการที่ได้ดำเนินการต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการหรือทำบัตรประจำตัวคนพิการหรือแก้ไขข้อมูลบัตรประจำตัวคนพิการเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดี พบว่า ในรอบการจ่ายเงินซ้ำดังกล่าว ยังมีการจ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 64,892 คน เนื่องจากสาเหตุดังนี้ 1. คนพิการ จ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 5,052 คน มีสาเหตุจากบัญชีเงินฝากธนาคารถูกปิด เลขบัญชีเงินฝากธนาคารไม่ถูกต้อง และรวมถึงกรณีคนพิการที่ไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยความพิการมาก่อนทำให้ไม่มีเลขบัญชีเงินฝากธนาคารสำหรับรับเงิน กรมบัญชีกลางจึงได้จ่ายเงินให้คนพิการกลุ่มนี้ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน แต่พบว่าปลายทางยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์จึงยังจ่ายเงินไม่สำเร็จเป็นจำนวน 4,646 คน 2. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่ายเงินไม่สำเร็จจำนวน 59,840 คน มีสาเหตุหลักเนื่องจากยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหว บัญชีเงินฝากธนาคารถูกปิด และเลขบัญชีเงินฝากธนาคารไม่ถูกต้อง ในจำนวนนี้รวมถึงกรณีผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีบัตรประจำตัวคนพิการด้วยแต่บัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุและยังไม่ได้ต่ออายุบัตรภายในวันที่ 31 ส.ค.2567 ซึ่งกลุ่มนี้จะได้รับการจ่ายเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ตามสิทธิของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ดังนั้น เมื่อพบว่าปลายทางยังไม่ได้ผูกบัญชีพร้อมเพย์จึงยังจ่ายเงินไม่สำเร็จ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน หรือติดต่อธนาคารเพื่อแก้ไขบัญชีเงินฝากธนาคารที่มีปัญหาข้างต้นโดยเร็ว นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีคนพิการอีกจำนวน 40,658 คน ที่กรมบัญชีกลางยังไม่เคยสั่งจ่ายเงินให้ เนื่องจากจะต้องต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ทำบัตรประจำตัวคนพิการ หรือแก้ไขข้อมูลประจำตัวคนพิการที่ศูนย์บริการคนพิการทั่วประเทศให้ถูกต้องเสียก่อนตามเงื่อนไขของโครงการฯ ทั้งนี้ ขอให้ผู้มีสิทธิทุกกลุ่มที่ยังไม่ได้รับเงินเร่งดำเนินการภายในกำหนดเวลา ดังต่อไปนี้ โฆษกกระทรวงการคลังยังได้เน้นย้ำว่า เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ภาครัฐได้จ่ายเงิน 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเป้าหมายแล้วรวมทั้งสิ้น 14,407,357 คน ทำให้มีเม็ดเงินจากโครงการฯ หมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจจำนวน 144,073.57 ล้านบาท ขอให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับเงินส่วนนี้แล้ว วางแผนการใช้จ่ายอย่างคุ้มค่าและให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและครอบครัวต่อไป อ่านข่าว : "จุลพันธ์" แย้มข่าวดีลุ้นเงินหมื่นเฟส 2 รอบอร์ดถถเร็วสุดปลาย ต.ค. "คลัง" เล็งปรับเกณฑ์ "โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" พ.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (20 มี.ค.2564) นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.จังหวัดแพร่ นำมวลชนที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง บริเวณศีรษะและใบหน้ามีแผลลึกหลายจุด จากการถูกลอบทำร้ายด้วยธงไม้ บริเวณวัดมหรร