วันนี้ (31 ต.ค.2565) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกร

ไทยพีบีเอส รวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ ประเทศไทย สำนักงบประมาณและการเงิน ตร. และ กองสรรพาวุธ สำนักส่งกำลังบำรุง (สกบ.) ตร. พบว่า ทั้งงบประมาณและจำนวนอาวุธที่จัดซื้อ ช่วงปีงบประมาณ
วันนี้ (3 ก.พ.2564) นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 โครงการร
ที่ผ่านมา ธนาคารโลก ได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ศึกษาพัฒนาเมืองรองของไทย โดยพบว่า โอกาสและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จะช่วยผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลจะต้องมีแนวทางส่งเสริมให้เมืองรองสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนภาคเอกชน เพื่อมาใช้ในการลงทุนและการพัฒนาเมือง วันนี้ (3 ก.ค.67) ธนาคารโลก เผยแพร่ “รายงานการตามติดเศรษฐกิจไทย” ฉบับล่าสุด นำเสนอหัวข้อ “การปลดล็อกศักยภาพการเติบโตของเมืองรอง” ระบุว่า ในระยะยาว เมืองรองจะมีศักยภาพในการเพิ่มผลิตภาพของประเทศไทย ช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนความสามารถการแข่งขันในระดับโลก และมีโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายการคมนาคม ที่ได้รับการพัฒนาก้าวหน้ากว่า เมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ แต่แม้ว่าความเป็นเมืองหลักของกรุงเทพฯ จะขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ แต่ความแออัดและความเปราะบางของเมืองในด้านต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาเขตเมืองอย่างสมดุล และต้องทำให้เกิดการกระจายตัวทางเศรษฐกิจมากขึ้น เพราะขณะนี้เศรษฐกิจของกรุงเทพฯ เริ่มส่งสัญญาณการชะลอตัว เนื่องจากการเติบโตของ GDP ของกรุงเทพฯ ใกล้เคียงกับการเติบโตของประชากร ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของเมืองได้เติบโตอย่างเต็มที่และถึงจุดอิ่มตัว “จากข้อมูลล่าสุด การเติบโตของ GDP ต่อหัวของเมืองรอง สูงกว่าของกรุงเทพฯ เกือบ 15 เท่า แสดงให้เห็นถึงผลิตภาพ ประสิทธิภาพ และศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของเมืองรอง ธนาคารโลก จึงมองว่า เมืองรองมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาภูมิภาค โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการปกครองท้องถิ่นและภาคอุตสาหกรรม สนับสนุนและเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจภูมิภาคกับกรุงเทพฯ หรือเป็นระเบียงการค้าทางเศรษฐกิจที่สำคัญ” ทั้งนี้ ในฐานะศูนย์กลางของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาค เมืองรองจะสามารถบรรเทาความแออัดและตึงเครียดในกรุงเทพฯ โดยการเป็นทางเลือกสำหรับที่ตั้งในการดำเนินธุรกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งเห็นได้ว่าเมืองเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างงานและการกระจายฐานเศรษฐกิจ อีกทั้งยังส่งเสริมการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่สมดุลมากขึ้นทั่วประเทศ อยโปร โม ชั่ น ufa800่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทาย ที่ทำให้เมืองรองไม่สามารถบรรลุศักยภาพทางเศรษฐกิจของตนได้อย่างเต็มที่ คือการพึ่งพารายได้จากส่วนกลางมากเกินไป หากการปกครองท้องถิ่นมีอำนาจมากขึ้นในการวางผังเมือง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการเข้าถึงกลไกทางการเงินระยะยาว ควบคู่ไปกับการมีเครื่องมือทางการคลังที่เหมาะสม เช่น ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การเรียกเก็บภาษีเงินได้เพิ่มเติม ที่ต้องชำระให้ส่วนท้องถิ่นจากฐานภาษีเงินได้ และค่าธรรมเนียมการใช้บริการสาธารณะหรือโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะทำให้เมืองเหล่านี้สามารถกำหนดทิศทางการ เติบโตทางเศรษฐกิจของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ รายงานเศรษฐกิจไทย ของธนาคารโลก ยังคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไทยปี 2567 จะขยายตัวได้เพียงร้อยละ 2.4 สาเหตุหลักมาจากการส่งออกและการเบิกจ่ายภาครัฐในช่วงต้นปีน้อยกว่าคาดการณ์ แต่ในปี 2568 GDP ของไทย คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2.8 โดยมีปัจจัยบวกจากอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นเป็น 41 ล้านคน ด้าน นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังต้องการปลุกศักยภาพเมืองรอง โดยให้ความสำคัญกับนโยบายลดความเหลื่อมล้ำเชิงพื้นที่ โดยได้จัดทำดัชนีวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ หรือ “SEFI” ซึ่งเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ด้านเศรษฐกิจ จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล ความจำเป็นพื้นฐาน ข้อมูลดาวเทียมและภูมิสารสนเทศ และข้อมูลปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องชี้ 88 เครื่องชี้ ครอบคลุม 6 มิติ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน สาธารณสุข การศึกษา เสถียรภาพเศรษฐกิจ ความท้าทายทางทรัพยากรมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม โดยสามารถวิเคราะห์ถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจในเชิงพื้นที่ได้ถึง “ระดับอำเภอและตำบล” ทำให้สามารถจัดลำดับความเร่งด่วนของปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจของแต่ละพื้นที่ได้ ทำให้สามารถวางแผนจัดทำนโยบายการคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ SEFI สะท้อนว่า เมืองหลักมีความพร้อมของปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจสูงกว่าเมืองรองอย่างชัดเจน า SEFI เฉลี่ยเมืองหลักอยู่ที่ 0.081 ในขณะที่เมืองรองเฉลี่ยอยู่ที่ -0.046 ซึ่งโมเดลนี้จะมีตัวเลขในทุกอำเภอ ทุกตำบล ทำให้ SEFI สามารถใช้ในการประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของเมืองรอง เพื่อจัดทำมาตรการในการพัฒนาพื้นที่ ถือเป็นการต่อยอดจุดแข็งและการแก้ไขจุดอ่อนของเมืองรอง และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งเป็นต้นแบบโมเดลของกระทรวงการคลังในการลดความเหลื่อมล้ำแบบตรงจุด ตรงพื้นที่ ตรงความต้องการ อ่านข่าว : เปิดเบื้องหลังเฉือนป่าทับลาน 2.6 แสนไร่ ใครได้ประโยชน์ จับตา ! ประมูลข้าว 10 ปี "ล้ม-ไม่ล้ม" โจทย์ใหญ่ ทำไมต้อง "ธนสรร ไรซ์" “ชาวบ้านภูเก็ต” โอด หน่วยงานรัฐเงียบ ไม่มีใครช่วยเหลือ-เคลียร์พื้นที่หลังน้ำทะลัก
หลังสถานการณ์ COVID-19 เริ่มผ่อนคลาย คนไทยหลายคนเริ่มวางแผนที่ต้องการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศเพิ่ม
ที่ผ่านมา ธนาคารโลก ได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ศึกษาพัฒนาเมืองรองของไทย โดยพบว่า โอกาสและการลงทุนโครงส
วันนี้ (17 ส.ค.65) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยตำรวจท่องเที่ยว และสำนักงา
ที่ผ่านมา ธนาคารโลก ได้ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ศึกษาพัฒนาเมืองรองของไทย โดยพบว่า โอกาสและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จะช่วยผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลจะต้องมีแนวทางส่งเสริมให้เมืองรองสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนภาคเอกชน เพื่อมาใช้ในการลงทุนและการพัฒนาเมือง วันนี้ (3 ก.ค.67) ธนาคารโลก เผยแพร่ “รายงานการตามติดเศรษฐกิจไทย” ฉบับล่าสุด นำเสนอหัวข้อ “การปลดล็อกศักยภาพการเติบโตของเมืองรอง” ระบุว่า ในระยะยาว เมืองรองจะมีศักยภาพในการเพิ่มผลิตภาพของประเทศไทย ช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนความสามารถการแข่งขันในระดับโลก และมีโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายการคมนาคม ที่ได้รับการพัฒนาก้าวหน้ากว่า เมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ แต่แม้ว่าความเป็นเมืองหลักของกรุงเทพฯ จะขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ แต่ความแออัดและความเปราะบางของเมืองในด้านต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการพัฒนาเขตเมืองอย่างสมดุล และต้องทำให้เกิดการกระจายตัวทางเศรษฐกิจมากขึ้น เพราะขณะนี้เศรษฐกิจของกรุงเทพฯ เริ่มส่งสัญญาณการชะลอตัว เนื่องจากการเติบโตของ GDP ของกรุงเทพฯ ใกล้เคียงกับการเติบโตของประชากร ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของเมืองได้เติบโตอย่างเต็มที่และถึงจุดอิ่มตัว “จากข้อมูลล่าสุด การเติบโตของ GDP ต่อหัวของเมืองรอง สูงกว่าของกรุงเทพฯ เกือบ 15 เท่า แสดงให้เห็นถึงผลิตภาพ ประสิทธิภาพ และศักยภาพทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของเมืองรอง ธนาคารโลก จึงมองว่า เมืองรองมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาภูมิภาค โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการปกครองท้องถิ่นและภาคอุตสาหกรรม สนับสนุนและเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจภูมิภาคกับกรุงเทพฯ หรือเป็นระเบียงการค้าทางเศรษฐกิจที่สำคัญ” ทั้งนี้ ในฐานะศูนย์กลางของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาค เมืองรองจะสามารถบรรเทาความแออัดและตึงเครียดในกรุงเทพฯ โดยการเป็นทางเลือกสำหรับที่ตั้งในการดำเนินธุรกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งเห็นได้ว่าเมืองเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างงานและการกระจายฐานเศรษฐกิจ อีกทั้งยังส่งเสริมการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่สมดุลมากขึ้นทั่วประเทศ อยโปร โม ชั่ น ufa800่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทาย ที่ทำให้เมืองรองไม่สามารถบรรลุศักยภาพทางเศรษฐกิจของตนได้อย่างเต็มที่ คือการพึ่งพารายได้จากส่วนกลางมากเกินไป หากการปกครองท้องถิ่นมีอำนาจมากขึ้นในการวางผังเมือง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการเข้าถึงกลไกทางการเงินระยะยาว ควบคู่ไปกับการมีเครื่องมือทางการคลังที่เหมาะสม เช่น ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การเรียกเก็บภาษีเงินได้เพิ่มเติม ที่ต้องชำระให้ส่วนท้องถิ่นจากฐานภาษีเงินได้ และค่าธรรมเนียมการใช้บริการสาธารณะหรือโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะทำให้เมืองเหล่านี้สามารถกำหนดทิศทางการ เติบโตทางเศรษฐกิจของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ รายงานเศรษฐกิจไทย ของธนาคารโลก ยังคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไทยปี 2567 จะขยายตัวได้เพียงร้อยละ 2.4 สาเหตุหลักมาจากการส่งออกและการเบิกจ่ายภาครัฐในช่วงต้นปีน้อยกว่าคาดการณ์ แต่ในปี 2568 GDP ของไทย คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2.8 โดยมีปัจจัยบวกจากอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นเป็น 41 ล้านคน ด้าน นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังต้องการปลุกศักยภาพเมืองรอง โดยให้ความสำคัญกับนโยบายลดความเหลื่อมล้ำเชิงพื้นที่ โดยได้จัดทำดัชนีวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ หรือ “SEFI” ซึ่งเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ด้านเศรษฐกิจ จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล ความจำเป็นพื้นฐาน ข้อมูลดาวเทียมและภูมิสารสนเทศ และข้อมูลปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องชี้ 88 เครื่องชี้ ครอบคลุม 6 มิติ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน สาธารณสุข การศึกษา เสถียรภาพเศรษฐกิจ ความท้าทายทางทรัพยากรมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม โดยสามารถวิเคราะห์ถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจในเชิงพื้นที่ได้ถึง “ระดับอำเภอและตำบล” ทำให้สามารถจัดลำดับความเร่งด่วนของปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจของแต่ละพื้นที่ได้ ทำให้สามารถวางแผนจัดทำนโยบายการคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ SEFI สะท้อนว่า เมืองหลักมีความพร้อมของปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจสูงกว่าเมืองรองอย่างชัดเจน า SEFI เฉลี่ยเมืองหลักอยู่ที่ 0.081 ในขณะที่เมืองรองเฉลี่ยอยู่ที่ -0.046 ซึ่งโมเดลนี้จะมีตัวเลขในทุกอำเภอ ทุกตำบล ทำให้ SEFI สามารถใช้ในการประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของเมืองรอง เพื่อจัดทำมาตรการในการพัฒนาพื้นที่ ถือเป็นการต่อยอดจุดแข็งและการแก้ไขจุดอ่อนของเมืองรอง และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งเป็นต้นแบบโมเดลของกระทรวงการคลังในการลดความเหลื่อมล้ำแบบตรงจุด ตรงพื้นที่ ตรงความต้องการ อ่านข่าว : เปิดเบื้องหลังเฉือนป่าทับลาน 2.6 แสนไร่ ใครได้ประโยชน์ จับตา ! ประมูลข้าว 10 ปี "ล้ม-ไม่ล้ม" โจทย์ใหญ่ ทำไมต้อง "ธนสรร ไรซ์" “ชาวบ้านภูเก็ต” โอด หน่วยงานรัฐเงียบ ไม่มีใครช่วยเหลือ-เคลียร์พื้นที่หลังน้ำทะลัก
กลุ่มกบฎลิเบียพบโรงเก็บรถถัง กบฏลิเบียที่บุกเข้าไปในกรุงทริโปลีค้นพบรถถังจำนวนมากของรัฐบาล พ.อ.โมฮัม