UID: 51498

วันนี้ ( 24 มี.ค. 2568) เว็บไซต์ “ฮั่วเซ่งเฮง” วิเคราะห์ ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา สัปดาห์ก่อนรา

นักท่องเที่ยวกลุ่มหลักๆ ที่เข้ามาไทยในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวขณะนี้คือ นักท่องเที่ยวกลุ่มอาเซียน กลุ่มช

นักท่องเที่ยวกลุ่มหลักๆ ที่เข้ามาไทยในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวขณะนี้คือ นักท่องเที่ยวกลุ่มอาเซียน กลุ่มชาติตะวันตก และอินเดีย แต่กลุ่มที่เคยเข้าไทยมากที่สุดอย่าง จีน อาจต้องรอถึงปีหน้า เพราะคาดการณ์ว่าจีนคงจะเปิดประเทศกันในช่วงนั้น แต่ระหว่างนี้ภาคการท่องเที่ยวก็เตรียมความพร้อม ช่วงชิงโอกาสให้ได้มากที่สุดหากจีนเปิดประเทศ ก่อนโควิด-19 ระบาด นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในไทยถึง 11 ล้านคน เฉลี่ยในเดือนหนึ่งเกือบ ล้านคน และเป็นกลุ่มสำคัญที่ดันให้ตัวเลขท่องเที่ยวรวมในไทยพุ่งไปเกือบ 40 ล้านคน ในช่วงปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 แต่หลังจากที่จีนเริ่มใช้มาตรการโควิดเป็นศูนย์ ทำให้ชาวจีนไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้จนถึงขณะนี้ มีการคาดการณ์กันว่า อาจจะต้องรอให้การเมืองในประเทศจีนนิ่งกว่านี้ ก็คือน่าจะเป็นช่วงหลังการประชุมสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งประเทศจีน และสภาประชาชนแห่งชาติ ในเดือนมีนาคมปีหน้า ที่คาดว่าจะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ แม้ว่าตอนนี้ รัฐบาลจะเริ่มคลายมาตรการโควิดเป็นศูนย์ ในเมืองใหญ่ๆ ไปแล้ว เพื่อคลายความตึงเครียดและการประท้วงของประชาชน หากจีนเปิดประเทศในเดือนมีนาคม คาดการณ์ว่าชาวจีนจะเริ่มเดินทางออกนอกประเทศกันจริงๆ ช่วงเม.ย.-พ.ค.2566 แต่หากจะเปิดประเทศแบบเต็มที่จริงๆ น่าจะต้องรอถึงปลายเดือน ก.ย.2566 ที่จีนจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันเอเชียนเกมส์ แต่ก็มีรายงานว่าทาง ททท. เริ่มขายแพ็กเกจท่องเที่ยวในจีนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่สำนักงานเซี่ยงไฮ้ และเฉิงตู ภาคเอกชนก็เริ่มขยับแล้ว วันนี้ (6 ธ.ค.2565) ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายยุทธศักดิ์ สุภสร ระบุว่าตอนนี้อารมณ์ของนักท่องเที่ยวจีน น่าจะอยากเที่ยวต่างประเทศแล้ว และเชื่อว่าถ้าออกมาเที่ยวได้ คงจะมาเที่ยวเมืองไทยนานขึ้นด้วย นอกจากนั้น ททท. ได้เสนอรัbaccarat patternฐบาลต่ออายุมาตรการขยายเวลาพำนักในไทยสำหรับชาวต่างชาติ 3 กลุ่ม ซึ่งมีผลไปแล้วตั้งแต่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ยาวไปจนถึง มี.ค.2566 แต่คำถามที่น่าสนใจคือ ถ้าเปิดประเทศแล้ว นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางมากอย่างที่หวังหรือไม่ เพราะนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนที่ทำมาเกือบจะ 3 ปีนั้นค่อนข้างกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก ประชาชนแทบจะไม่มีอารมณ์ หรือไม่มีกำลังจับจ่าย เห็นได้จาก GDP ปีนี้ของจีน เหลือเพียงร้อยละ 3 สถานที่ทำงานหลายแห่งต้องปรับเปลี่ยนการทำงาน การขยายการลงทุนในประเทศก็ลดลง ทำให้มองได้ว่า ปริมาณนักท่องเที่ยวที่พร้อมเดินทางจริงๆ หลังเปิดประเทศจะมีมากน้อยแค่ไหน สามารถชดเชยกับปริมาณที่เคยหายไปก่อนเกิดโควิด-19 ได้หรือเปล่า หากจีนไม่เปิดประเทศตามที่คาดการณ์ ภาคท่องเที่ยวไทยอาจไม่ไหว เพราะฐานนักท่องเที่ยวจีนเคยครองสัดส่วน 1 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีการคาดการณ์ไว้แล้วว่า ถ้าจีนเปิดประเทศ คงไม่คาดหวังนักท่องเที่ยวจีนมาได้มากเหมือนเดิม แต่หวังในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนกำลังซื้อสูง ที่จะเริ่มกลับมาได้ก่อน ส่วน ททท.นั้นก็พยายามดึงนักท่องเที่ยวประเทศอื่นมาทดแทน เช่น เอเชียใต้ เอเชียตะวันออกและตะวันออกกลาง รวมถึงตลาดระยะไกล ล่าสุด ททท.นำผู้ประกอบการไทยมาหาตลาดที่ตุรกีและฮังการีเพื่อทดแทนนักท่องเที่ยวรัสเซีย โดยปี 2566 ททท.ตั้งเป้าดึงต่างชาติเข้าไทย 20 ล้านคน ยังไม่รวมนักท่องเที่ยวจีนและรัสเซีย แต่ถ้าตลาดใหญ่จีนรัสเซียฟื้น จะสามารถดันยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติปีหน้าเกินเป้า 20 ล้านคนได้ ขณะเดียวกัน สิ่งที่กระทรวงกำลังผลักดันอยู่ ณ ขณะนี้ ก็คือการดึงเงินจากนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เข้าไทยแล้วให้ได้มากที่สุด หนึ่งในมาตรการที่พยายามจะเอามาใช้ ก็คือการเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 ที่วันนี้จะเอาเข้า ครม.อีกครั้ง ความหวังฟื้นท่องเที่ยวไทยให้กลับไปใกล้ก่อนเกิดโควิด-19 ยังคงเป็นความพยายามที่จะต้องทำกันอย่างต่อเนื่องอยู่ในตอนนี้

วันนี้ (14 ก.พ.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวทีสัมมนาซักซ้อมการอภิปรายของรัฐมนตรีและ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบ