วันนี้ (8 ก.ค.2565) จากกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์วิพา

สมบัติชาติทางวัฒนธรรมของไทย ยังอยู่ในระหว่างทวงคืนกลับคืนมา ปลายทางส่วนใหญ่ ถูกจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ชาวบ้านยางยืนยันว่าโบราณวัตถุที่ถูกส่งออกไปนอกประเทศ เป็นการขุดขาย ตามใบสั่
กรณีโลกออนไลน์มีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องสติ๊กเกอร์ข้อความใหม่ที่ปิดบนแนวคานของรางรถไฟฟ้าแยกปทุมวัน ทำให้กทม.พลิกกระแสด้วยการเปิดให้ประชาชนดาวน์โหลดฟอนต์ใหม่ฟรี เพราะคนนำไปเขียนข้อความที่ตัวเองต้องการ ฟ
สมบัติชาติทางวัฒนธรรมของไทย ยังอยู่ในระหว่างทวงคืนกลับคืนมา ปลายทางส่วนใหญ่ ถูกจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ชาวบ้านยางยืนยันว่าโบราณวัตถุที่ถูกส่งออกไปนอกประเทศ เป็นการขุดขาย ตามใบสั่งนายทุนต่างชาติขุดขายเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ชาวบ้านยาง ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ตื่นตัวกับการ ทวงคืน "Golden Boy" ประติมากรรมสำริดพระเจ้าชัยวรมันที่ 6 พวกเขายืนยันแหล่งกำเนิดคือบ้านยางเพราะจุดรับซื้อโบราณวัตถุสมัยนั้นก็อยู่ไม่ไกลบ้านไม้2 ชั้น อยู่ในสภาพทรุดโทรม เดิมเคยมีผู้คนแวะเวียนมาขายสมบัติทุกวัน เสถียรโรจน์ บัณฑิต อดีตนายก อบต.ตาจง เล่าภาพจำตอนอายุ 14-15 ปี ภายในบ้านหลังนี้ เคยเป็นสถานที่รับ-ซื้อโบราณวัตถุราวปี 2518 เสถียร เคยเจอนายทุนต่างชาติ หรือ วงการค้าโบราณวัตถุสหรัฐฯ รู้จักเป็นอย่าตรวจ ลอตเตอรี่ ประจำ วัน ที่ 1 ตุลาคม 2563งดี คือนาย Douglas Latchford อดีตพ่อค้าโบราณวัตถุสัญชาติไทย เขาเดินทางมาบ้านหลังนี้แทบทุกปีชาวบ้านในสมัยนั้น ต่างเข้าไปขุดหาสมบัติบนปราสาทเขาปลายบัด 2 เพื่อนำมาขายให้กับนายทุนต่างชาติตามใบสั่ง โดยเฉพาะประติมากรรมสำริด จะได้ราคาสูงเป็นพิเศษ "Golden Boy" เป็นสมบัติอีกชิ้นถูกขายให้กับกลุ่มนายทุน Douglas Latchford ราคาซื้อขายสูงสุดหลัก 1 ล้านบาท ทำให้นักวิชาการมั่นใจว่า เป็นการลักลอบขายออกไป หลังไทยประกาศใช้กฎหมายควบคุมการส่งออกโบราณวัตถุ พ.ศ.25504 ปฎิเสธไม่ได้ว่าในสมัยนั้น เป็นยุคที่โบราณวัตถุของไทย ถูกนำไปจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ ต่างประเทศจำนวนมากสร้างความสนใจให้กับ Mario นักข่าว ABC NEWS ออสเตรเลีย เขาตีพิมพ์บทความ เบื้องหลังการซื้อ-ขาย โบราณวัตถุไทยและกัมพูชาและตั้งข้อสังเกต ทำไมถึงมีโบราณวัตถุจาก 2ประเทศนี้มาจัดแสดงจำนวนมาก และยังพบจดหมายการซื้อ-ขายของ Douglas Latchford มีการปลอมแปลงเอกสารส่งออก ทำให้ช่วงเวลาหนึ่งไทยเป็นทางผ่านการค้าโบราณวัตถุอย่างผิดกฎหมาย แม้กฎหมายสหรัฐฯ จะเอื้ออำนวยทำให้ไทยแทบไม่ต้องออกแรง หรือ เสียเงินค่าจ้างทนายทวงคืนแต่การพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง ยังเป็นเรื่องยาก ซึ่งการเจอเบาะแส "Golden Boy" จึงเป็นสิ่งที่ ทนงศักดิ์ หาญวงษ์ นักโบราณคดีต้องการให้บรรจุในวาระทวงคืนชิ้นต่อไป จากกระแสทวงคืนทับหลัง ทำให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย สามารถติดตามและรับมอบโบราณวัตถุได้ 9 ครั้ง 611 รายการ เป็นผลของการดำเนินงาน ของคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุ 2 รายการ คือทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว และทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ จากสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนพ.ค.2564 นับเป็นสมบัติชาตเพียง 2 ชิ้นที่ได้คืนจากสหรัฐฯจากการติดตามขอทวงคืน อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ไทยจ่อทวง "Golden Boy” พระเจ้าชัยวรมันที่ 6 กลับมาตุภูมิ
วันนี้ (11 ม.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 รอบใหม่นั้น นายชำ
วันนี้ (1 เม.ย.2564) นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะโฆษก
เพื่อให้เห็นว่า การซื้อ-ขาย บุหรี่ริมถนนเป็นไปอย่างเปิดเผยไม่ได้ปิดบังในแหล่งชุมชน ย่านเศรษฐกิจ และท
สมบัติชาติทางวัฒนธรรมของไทย ยังอยู่ในระหว่างทวงคืนกลับคืนมา ปลายทางส่วนใหญ่ ถูกจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ชาวบ้านยางยืนยันว่าโบราณวัตถุที่ถูกส่งออกไปนอกประเทศ เป็นการขุดขาย ตามใบสั่งนายทุนต่างชาติขุดขายเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ชาวบ้านยาง ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ตื่นตัวกับการ ทวงคืน "Golden Boy" ประติมากรรมสำริดพระเจ้าชัยวรมันที่ 6 พวกเขายืนยันแหล่งกำเนิดคือบ้านยางเพราะจุดรับซื้อโบราณวัตถุสมัยนั้นก็อยู่ไม่ไกลบ้านไม้2 ชั้น อยู่ในสภาพทรุดโทรม เดิมเคยมีผู้คนแวะเวียนมาขายสมบัติทุกวัน เสถียรโรจน์ บัณฑิต อดีตนายก อบต.ตาจง เล่าภาพจำตอนอายุ 14-15 ปี ภายในบ้านหลังนี้ เคยเป็นสถานที่รับ-ซื้อโบราณวัตถุราวปี 2518 เสถียร เคยเจอนายทุนต่างชาติ หรือ วงการค้าโบราณวัตถุสหรัฐฯ รู้จักเป็นอย่าตรวจ ลอตเตอรี่ ประจำ วัน ที่ 1 ตุลาคม 2563งดี คือนาย Douglas Latchford อดีตพ่อค้าโบราณวัตถุสัญชาติไทย เขาเดินทางมาบ้านหลังนี้แทบทุกปีชาวบ้านในสมัยนั้น ต่างเข้าไปขุดหาสมบัติบนปราสาทเขาปลายบัด 2 เพื่อนำมาขายให้กับนายทุนต่างชาติตามใบสั่ง โดยเฉพาะประติมากรรมสำริด จะได้ราคาสูงเป็นพิเศษ "Golden Boy" เป็นสมบัติอีกชิ้นถูกขายให้กับกลุ่มนายทุน Douglas Latchford ราคาซื้อขายสูงสุดหลัก 1 ล้านบาท ทำให้นักวิชาการมั่นใจว่า เป็นการลักลอบขายออกไป หลังไทยประกาศใช้กฎหมายควบคุมการส่งออกโบราณวัตถุ พ.ศ.25504 ปฎิเสธไม่ได้ว่าในสมัยนั้น เป็นยุคที่โบราณวัตถุของไทย ถูกนำไปจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ ต่างประเทศจำนวนมากสร้างความสนใจให้กับ Mario นักข่าว ABC NEWS ออสเตรเลีย เขาตีพิมพ์บทความ เบื้องหลังการซื้อ-ขาย โบราณวัตถุไทยและกัมพูชาและตั้งข้อสังเกต ทำไมถึงมีโบราณวัตถุจาก 2ประเทศนี้มาจัดแสดงจำนวนมาก และยังพบจดหมายการซื้อ-ขายของ Douglas Latchford มีการปลอมแปลงเอกสารส่งออก ทำให้ช่วงเวลาหนึ่งไทยเป็นทางผ่านการค้าโบราณวัตถุอย่างผิดกฎหมาย แม้กฎหมายสหรัฐฯ จะเอื้ออำนวยทำให้ไทยแทบไม่ต้องออกแรง หรือ เสียเงินค่าจ้างทนายทวงคืนแต่การพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง ยังเป็นเรื่องยาก ซึ่งการเจอเบาะแส "Golden Boy" จึงเป็นสิ่งที่ ทนงศักดิ์ หาญวงษ์ นักโบราณคดีต้องการให้บรรจุในวาระทวงคืนชิ้นต่อไป จากกระแสทวงคืนทับหลัง ทำให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย สามารถติดตามและรับมอบโบราณวัตถุได้ 9 ครั้ง 611 รายการ เป็นผลของการดำเนินงาน ของคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุ 2 รายการ คือทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว และทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ จากสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนพ.ค.2564 นับเป็นสมบัติชาตเพียง 2 ชิ้นที่ได้คืนจากสหรัฐฯจากการติดตามขอทวงคืน อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ไทยจ่อทวง "Golden Boy” พระเจ้าชัยวรมันที่ 6 กลับมาตุภูมิ
วันนี้ (5 พ.ย.2564) กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกา จะปรับเปลี่ยนมาตรการในการเดินทาง