"รัสเซีย" โจมตีโรงงานสารเคมีในยูเครน

กรณีมีการเผยแพร่ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ พบผู้บริโภคนำแอลกอฮอล์ฉีดพ่นตามร่างกายแล้วจุดยากันยุง จนทำให้เกิดไฟลุกท่วมทั่วร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น เภสัชกรวีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและย

วันนี้ (28 ส.ค.2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัญหาสินค้านำเข้าท

กรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพปลา oarfish ปลาน้ำลึกที่ระบุว่าจับได้แถวทะเล จ.สตูล สร้างความฮือฮาในวงการผู้เชี่ยวชาญด้านปลา วันนี้ (4 ม.ค.2567) นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ (มก.) โพสต์

ส่งออกไทยไปจีนโต 50.1% ยังคงครองความเป็น 1 ของตลาดส่งออกไทย ส่งออกไทยไปจีนโต 50.1% ยังคงครองความเป็น 1 ของตลาดส่งออกไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า การส่งออกของไทยไปจีนเดือนสิงหาคมยังคงแข็งแกร่งด้วยอัตราการเติบโตที่สูงถึงร้อยละ 50.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แตะมูลค่า 2,699.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจีนยังคงเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทยในสัดส่วนร้อยละ 12.5  โดยนอกจากจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการภายในประเทศที่รายได้ประชากรมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและนโยบายรัฐบาลซึ่งมุ่งส่งเสริมการกระจายรายได้และการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ประกอบกับมีการเร่งนำเข้าวัตถุดิบของจีนภายหลังจากสต็อกสินค้าเริ่มถดถอย และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าแล้ว ยังเป็นผลมาจากผู้ส่งออกของไทยหลายรายต่างทยอยหันไปทำการค้ากับจีนเพิ่มมากขึ้นท่ามกลางกระแสความเสี่ยงต่อแนวโน้มการกลับเข้าสู่ภาวะถดถอสมัคร 100 รับ 100ยทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยูโรโซน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญที่มีสัดส่วนรวมกันประมาณร้อยละ 20 ของการส่งออกของไทยโดยรวม เพราะหากเศรษฐกิจของทั้งสองภูมิภาคประสบปัญหาย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นเองก็ยังต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควรในการฟื้นตัว ทำให้ผู้ประกอบการไทยหลายรายที่เดิมเคยพึ่งพิง 3 ตลาดดังกล่าวจำเป็นต้องเร่งปรับตัวด้วยการแสวงหาตลาดใหม่ๆรองรับ ซึ่งตลาดจีนนั้นนอกจากจะมีตลาดขนาดใหญ่ด้วยจำนวนประชากรที่มากที่สุดในโลกแล้ว ภาวะเศรษฐกิจของจีนก็ยังคงส่งสัญญาณที่มีศักยภาพเหนือประเทศคู่ค้าหลักทั้ง 3 แหล่งของไทย อีกทั้งทางการจีนก็ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการค้ากับกลุ่มประเทศแถบอาเซียน อันหมายรวมถึงไทยเพิ่มขึ้นด้วยตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 12 (ปี 2554-2558) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า การส่งออกของไทยไปจีนเดือนสิงหาคมยังคงแข็งแกร่งด้วยอัตราการเติบโตที่สูงถึงร้อยละ 50.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แตะมูลค่า 2,699.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจีนยังคงเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทยในสัดส่วนร้อยละ 12.5  โดยนอกจากจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการภายในประเทศที่รายได้ประชากรมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและนโยบายรัฐบาลซึ่งมุ่งส่งเสริมการกระจายรายได้และการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ประกอบกับมีการเร่งนำเข้าวัตถุดิบของจีนภายหลังจากสต็อกสินค้าเริ่มถดถอย และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าแล้ว ยังเป็นผลมาจากผู้ส่งออกของไทยหลายรายต่างทยอยหันไปทำการค้ากับจีนเพิ่มมากขึ้นท่ามกลางกระแสความเสี่ยงต่อแนวโน้มการกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยูโรโซน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญที่มีสัดส่วนรวมกันประมาณร้อยละ 20 ของการส่งออกของไทยโดยรวม เพราะหากเศรษฐกิจของทั้งสองภูมิภาคประสบปัญหาย่อมส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นเองก็ยังต้องอาศัยระยะเวลาพอสมควรในการฟื้นตัว ทำให้ผู้ประกอบการไทยหลายรายที่เดิมเคยพึ่งพิง 3 ตลาดดังกล่าวจำเป็นต้องเร่งปรับตัวด้วยการแสวงหาตลาดใหม่ๆรองรับ ซึ่งตลาดจีนนั้นนอกจากจะมีตลาดขนาดใหญ่ด้วยจำนวนประชากรที่มากที่สุดในโลกแล้ว ภาวะเศรษฐกิจของจีนก็ยังคงส่งสัญญาณที่มีศักยภาพเหนือประเทศคู่ค้าหลักทั้ง 3 แหล่งของไทย อีกทั้งทางการจีนก็ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการค้ากับกลุ่มประเทศแถบอาเซียน อันหมายรวมถึงไทยเพิ่มขึ้นด้วยตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 12 (ปี 2554-2558)

ส่งออกไทยไปจีนโต 50.1% ยังคงครองความเป็น 1 ของตลาดส่งออกไทย ส่งออกไทยไปจีนโต 50.1% ยังคงครองความเป็น 1 ของตลาดส่งออกไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า การส่งออกของไทยไปจีนเดือนสิงหาคมยังคงแข็งแกร่งด้วยอ