UID: 21576

13 มิถุนายน 2566 ครบ 31 ปี การจากไปของราชินีลูกทุ่ง "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ปีนี้มีการจัดงานรำลึกที่ วัด

วันนี้ (12 เม.ย.2566) นพ.นสราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากกรณีมีการคิ

วันนี้ (12 เม.ย.2566) นพ.นสราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากกรณีมีการคิดสูตรเทรนด์เครื่องดื่มใหม่ “อิ๊วโซดา” ที่กำลังเป็นกระแสในโลกโซเชียล โดยการนำซีอิ๊วดำสูตรเฉพาะ (สูตรราดบนไอศกรีม) 3 ช้อนโต๊ะผสมกับเครื่องดื่มโซดา 1 กระป๋อง เพื่อดื่มคลายร้อน ทั้งนี้ ซีอิ๊ว มีส่วนประกอบหลัก คือ น้ำตาลทรายร้อยละ 56 กลูโคสไซรัป ร้อยละ 13.4 และซีอิ๊ว ร้อยละ 13.6 จากส่วนผสมดังกล่าว หากผสมซีอิ๊ว 3 ช้อนโต๊ะ เครื่องดื่มแก้วนั้น จะมีปริมาณน้ำตาลสูง ซึ่งขสมัคร วัน นี้ รับ เครดิต ฟรี 2020้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย สำรวจพบคนไทยกินน้ำตาลมากถึง 25 ช้อนชาต่อวัน ซึ่งเกินกว่าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนด คือ ไม่ควรกินน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน หากประชาชนนำซีอิ๊วดำ ที่ผลิตสำหรับใช้เป็นเครื่องปรุงรสมาทำตามอัตราส่วนดังกล่าว ภาพ:กรมอนามัย ภาพ:กรมอนามัย นพ.สราวุฒิ กล่าวอีกว่า ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก เพื่อการมีสุขภาพที่ดี กำหนดให้บริโภคโซเดียมไม่เกิน 2,000 มก.ต่อวัน หรือเทียบเท่าเกลือ 1 ช้อนชา หรือ 5 กรัม หรือน้ำปลาไม่เกิน 4 ช้อนชา หรือคิดเป็นปริมาณซีอิ๊วดำไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวอีกว่า ส่วนโซดา เป็นเครื่องดื่มที่มีการอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ละลายอยู่ในน้ำ ทำให้มีความซ่า จึงช่วยให้รู้สึกสดชื่น กะปรี้กะเปร่า แต่โซดายังมีฤทธิ์เป็นกรด หากดื่มตอนท้องว่าง จะทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร และโซดายังเต็มไปด้วยก๊าซที่ทำให้อิ่มเร็ว การดื่มเครื่องดื่มที่ผสมโซดามากเกินไป อาจทำให้ร่างกายได้รับน้ำเปล่าไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนจัด ควรดื่มน้ำเปล่าที่ไม่เย็นจัด เพื่อคลายร้อนและช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย ป้องกันโรคลมแดด หรือฮีทสโตรก สำหรับซีอิ๊วดำ จัดเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องปรุงรสที่มีรสเค็ม แม้ว่าจะมีปริมาณโซเดียมน้อยกว่า เกลือและน้ำปลา ก็ควรจะใช้เพื่อปรุงรสอาหารเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากนำมาทำเป็นเครื่องดื่มอาจทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมสูงมากเกินไป ซึ่งจะส่งกระทบกับสุขภาพ ปัจจุบันมีการผลิตซีอิ๊วออกมามากมายหลายสูตรเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค จากการตรวจสอบที่มาของคอนเท็นต์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที 1 เม.ย.2566 หลังจากแฟนเพจเฟซบุ๊กของบริษัทเครื่องปรุงรสชื่อดัง ระบุว่า April fool's day คอนเทนต์หยอกๆ แต่สดชื่น ซาบซ่า ดื่มได้จริงไม่หยอก พร้อมแจกสูตรทำตามได้ง่ายๆ แค่มี ซีอิ๊วดำ และเครื่องดื่มโซดาโปรดของคุณ ทำให้เกิดกระแสในโลกออนไลน์

วันนี้ (20 ม.ค.2564) อาสนวิหารแห่งชาติวอชิงตัน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตีระฆัง 400 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้