UID: 00227

วันนี้ (29 ม.ค.2564) ที่วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์เพชรลานนา จ.ลำปาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมน

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบ

ไทยพีบีเอสทดลองค้นหาคลิปต้นเรื่อง กรณีอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนรีวิวว่าตำรวจไทยมารับและขับรถนำขบวน เธอมีผู้ติดตาม 6 ล้านคน แต่ไม่พบคลิปที่เคยถูกเผยแพร่ คาดว่า คลิปถูกลบไปแล้ว แต่เมื่อค้นหาคำว่า "ตำรวจไทยมารับที่สนามบิน" เป็นภาษาจีนใน "Douyin" หรือ Tiktok จีน ซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่ชาวจีนนิยมใช้ ยังพบอยู่ แต่เป็นคลิปที่ถูกแชร์ออกไปอีกที พร้อมตั้งคำถามว่าผิดกฎหมายหรือไม่ เมื่อค้นหาใน Weibo และ WeChat สื่อออนไลน์ของจีน ยังพบโฆษณาเกี่ยวกับบริการต่าง ๆ ในการอำนวยความสะดวกให้นักเดินทาง พร้อมแจ้งขึ้นราคา แม้กรณีนี้ตกเป็นข่าวดังในไทย และอยู่ระหว่างสอบสวน ส่วนอีกโพสต์หนึ่ง เป็นข้อความที่ระบุถึงเอกสารที่ต้องเตรียม เมื่อต้องการจะใช้บริการแบบวีไอพี ซึ่งมีรายละเอียดเรื่องวีซ่า ค่าธรรมเนียม แบบฟอร์มจองโรงเรม เอกสารที่ต้องใช้ คือรูปถ่ายหนังสือเดินทาง และตั๋วเครื่องบิน สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี รายงานได้รับเบาะแส จากแอปพลิเคชันที่ชาวจีนนิยมใช้ พบการโพสต์ข้อความ คล้ายโฆษณาที่ให้บริการในไทย 7 เรื่อง เช่น 1.บริการทดสอบเด็กหลอดแก้ว 2.ตำรวจรับจากในสนามบินแบบวีไอพี 3.ทำวีซ่าแบบ Elite แบบ 5 ปี 10 ปี 20 ปีซึ่งข้อความที่ประกาศ ต้องตรวจสอบอีกด้านว่า ในไทยมีบริการนี้จริงหรือไม่ กรณีนักท่องเที่ยวใช้เงินจ้างตำรวจขับรถนำขบวน มัคคุเทศก์ที่รับทัวร์จีนอยู่เป็นประจำคนนี้ บอกว่า "รับรู้ว่ามีมานานแล้ว" แบ่งเป็น 2 ประเภท อย่างแรก คือ การอำนวยการความสะดวก โดยเจ้าหน้าที่จะไปรับตั้งแต่ประตูทางลงเครื่องบิน และผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง อีกประเภท เป็นการอำนวยความสะดวกแบบวีไอพี (VIP) ผ่านกระบวนการ ตม. และมีรถนำขบวนไปส่งยังที่พัก ซึ่งวิธีการเหล่านี้ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยว กับบริษัททัวร์ในประเทศไทย จะประสานงานกัน เพื่อขอให้ใช้วิธีนี้ อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว โดยมัคคุเทศก์ จะติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่มีความสนิทสนมกัน เพื่อขอให้อำนวยความสะดวกลูกค้า และมีผลตอบแทนให้ บริการเหล่านี้ มักใช้กับกรุ๊ปทัวร์ แต่กรณีของอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นข่าว มัคคุเทศก์ตั้งข้อสังเกตว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเอง โดยไม่ผ่านบริษัททัวร์ ส่วนการขยายผลคดีนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุ พบตำรวจท่องเที่ยวอีก 1 นาย ยศดาบตำรวจ เกี่ยวข้องด้วย โดยทำหน้าที่เป็นผู้ติดต่อประสานงาน กับชายคนหนึ่ง ที่ทำทัวร์ในไทย ที่มักจะรับงาน และส่งต่อให้ สรุปขณะนี้มีผู้เกี่ยวข้อง 4 คน คือ ตำรวจท่องเที่ยว เป็นคนรับงาน, รองสารวัตรฯ ที่ไปรับนักท่องเที่ยว ที่ปรากฎในคลิป และตำรวจจราจรอีก 2 นาย ขับรถนำขบวน ทั้งสองหน่วยงานตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และแจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจจราจร 2 นาย ในความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก และ พ.ร.บ.เครื่องหมายราชการ และเตรียมเรียกชายคนที่ว่าจ้าง และติดต่อตำรวจให้มารับงานนี้ และนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน หรืออินฟลูเอนเซอร์ มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เพื่อรวบรวมดำเนินคดี เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ไทยพีบีเอสเคยตรวจสอบกรณีเว็บไซต์เสนอบริการรถนำขบวน โดยเสนอรถจักรยานยนต์ 2 คัน คันแรกขี่ปิดเลน อีกคันวิ่งนำขบวนเต็ง วัน นี้ ช่วงนั้นมีประมาณ 2-3 เว็บไซต์ แต่เมื่อทีมข่าวพยายามติดต่อขอซื้อบริการนี้ แต่ติดต่อไม่ได้ ส่วนภาพที่เห็นในเว็บไซต์ เป็นภาพที่นำมาจากกิจกรรมอบรมเจ้าหน้าที่ไทย ไม่ใช่ภาพการให้บริการจริง ซึ่งปฏิกิริยาของตำรวจในตอนนั้น คือ การสั่งให้ด่านกวดขันรถที่ติดสัญญาณไฟ ขณะที่ตำรวจ ชี้แจงว่า ไม่มีระเบียบห้ามตำรวจรับงานนอกเวลาราชการ

ไทยพีบีเอสทดลองค้นหาคลิปต้นเรื่อง กรณีอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนรีวิวว่าตำรวจไทยมารับและขับรถนำขบวน เธอมีผ