Home
|
สวี ท โบ นั ท ซ่า

Pemerintah Indonesia hingga kini masih berupaya me

สวี ท โบ นั ท ซ่า

วันนี้ (13 มิ.ย.2567) พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่เอกสารการหักค่าใช้จ่ายทหารเกณฑ์ผลัดใหม่ สังกัดกองพันทหารเสนารักษ์ที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 โดยเฉพาะมีค่า

ควาญช้างทั้งชายและหญิงจากทั่วประเทศ ทยอยเข้ารับการทดสอบความรู้ และ ทักษะในการดูแลเลี้ยงช้าง ในการประเมินอาชีพควาญช้างระดับ 2 สาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม ภัตตาคารและร้านอาหาร สาขาการจัดการท่องเท

กาแฟสกัดเย็น (Cold Brew) เป็นที่นิยมในหมู่นักดื่มกาแฟ เนื่องจากสามารถชงด้วยน้ำอุณหภูมิห้องแทนน้ำร้อน มีข้อดีคือคงสภาพของกลิ่นและรสชาติของเมล็ดกาแฟได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีความขมและเป็นกรดน้อยกว่าการชงกับน้ำร้อน ส่งผลดีกับกระเพาะอาหาร จึงเป็นเครื่องดื่มที่ชื่นชอบของคอกาแฟ แต่การชงกาแฟสกัดเย็นมักใช้ระยะเวลาในการทำค่อนข้างนาน ประมาณ 8 - 24 ชั่วโมง กลุ่มนักวิจัยสาขาเคมีจากมหาวิทยาลัย Universitat Duisburg Essen (UDE) ประเทศเยอรมนี จึงได้คิดค้นวิธีทำกาแฟสกัดเย็นที่ใช้พลังงานจากแสงเลเซอร์ (Laser) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพหรือทำปฏิกิริยาเคมีกับสารแขวนลอย (Colloid) มาใช้ในการทำกาแฟสกัดเย็น ที่จะช่วยลดระยะเวลาจากหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที แถมยังเพิ่มคุณภาพในการสกัดได้อีกด้วย นักวิจัยใช้เลเซอร์ Neodymium-doped Yttrium Aluminum Garnet (Nd:YAG) ที่มีส่วนประกอบของแร่อะลูมิเนียมและโกเมน ซึ่งมีความยาวคลื่นแสง 532 นาโนเมตร ให้พลังงาน 125 พิโคจูล (Picojoule) ยิงผ่านขวดโหลที่แช่กาแฟไว้ในน้ำเย็น ด้วยความเร็ว 10 พิโควินาที (Picosecond) และยิงเป็นจังหวะต่อเนื่อง 80,000 ครั้งต่อนาที เป็นเวลาทั้งหมด 3 นาที ก็จะได้กาแฟสกัดเย็นพร้อมเสิร์ฟ โดยนักวิจัยยังได้สวี ท โบ นั ท ซ่าเปรียบเทียบกาแฟสกัดเย็นที่ได้ กับกาแฟสกัดเย็นแบบปกติ และกาแฟร้อน พบว่ากาแฟสกัดเย็นด้วยเลเซอร์นั้นให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับกาแฟสกัดเย็นแบบปกติ แต่ดีกว่ากาแฟร้อนอย่างชัดเจน ทั้งในแง่ของปริมาณคาเฟอีน และค่าความเป็นกรด การทำกาแฟสกัดเย็นด้วยเลเซอร์ จึงตอบโจทย์คอกาแฟที่หลงใหลการดื่มกาแฟสกัดเย็นที่ไม่อยากใช้เวลารอนาน เพราะวิธีการนี้ช่วยลดระยะเวลาลงไปได้มากกว่า 300 เท่า แถมยังได้กาแฟคุณภาพดีเหมือนกับการแช่ไว้ 8 ชั่วโมง แต่วิธีการยิงแสงเลเซอร์เพื่อทำกาแฟสกัดเย็นนั้น ยังอยู่ในช่วงการทดลองและวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยก่อนนำมาใช้ในการผลิตเพื่อบริโภคในเชิงอุตสาหกรรมต่อไป ที่มาข้อมูลและภาพ: nature, newatlas, slashgearที่มาของภาพ: freepik“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

วันนี้ (1 เม.ย.2564) ศบค.รายงานสถานการณ์ COVID-19 ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 26 คน แบ่งเป็นการพบผู้ติดเ

กรณีที่ "เอ๋ มิรา" ยื่นฟ้องอดีตสามี ครูไพบูลย์ แสงเดือน ฐานพรากผู้เยาว์และกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า

กาแฟสกัดเย็น (Cold Brew) เป็นที่นิยมในหมู่นักดื่มกาแฟ เนื่องจากสามารถชงด้วยน้ำอุณหภูมิห้องแทนน้ำร้อน

กาแฟสกัดเย็น (Cold Brew) เป็นที่นิยมในหมู่นักดื่มกาแฟ เนื่องจากสามารถชงด้วยน้ำอุณหภูมิห้องแทนน้ำร้อน มีข้อดีคือคงสภาพของกลิ่นและรสชาติของเมล็ดกาแฟได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีความขมและเป็นกรดน้อยกว่าการชงกับน้ำร้อน ส่งผลดีกับกระเพาะอาหาร จึงเป็นเครื่องดื่มที่ชื่นชอบของคอกาแฟ แต่การชงกาแฟสกัดเย็นมักใช้ระยะเวลาในการทำค่อนข้างนาน ประมาณ 8 - 24 ชั่วโมง กลุ่มนักวิจัยสาขาเคมีจากมหาวิทยาลัย Universitat Duisburg Essen (UDE) ประเทศเยอรมนี จึงได้คิดค้นวิธีทำกาแฟสกัดเย็นที่ใช้พลังงานจากแสงเลเซอร์ (Laser) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพหรือทำปฏิกิริยาเคมีกับสารแขวนลอย (Colloid) มาใช้ในการทำกาแฟสกัดเย็น ที่จะช่วยลดระยะเวลาจากหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที แถมยังเพิ่มคุณภาพในการสกัดได้อีกด้วย นักวิจัยใช้เลเซอร์ Neodymium-doped Yttrium Aluminum Garnet (Nd:YAG) ที่มีส่วนประกอบของแร่อะลูมิเนียมและโกเมน ซึ่งมีความยาวคลื่นแสง 532 นาโนเมตร ให้พลังงาน 125 พิโคจูล (Picojoule) ยิงผ่านขวดโหลที่แช่กาแฟไว้ในน้ำเย็น ด้วยความเร็ว 10 พิโควินาที (Picosecond) และยิงเป็นจังหวะต่อเนื่อง 80,000 ครั้งต่อนาที เป็นเวลาทั้งหมด 3 นาที ก็จะได้กาแฟสกัดเย็นพร้อมเสิร์ฟ โดยนักวิจัยยังได้สวี ท โบ นั ท ซ่าเปรียบเทียบกาแฟสกัดเย็นที่ได้ กับกาแฟสกัดเย็นแบบปกติ และกาแฟร้อน พบว่ากาแฟสกัดเย็นด้วยเลเซอร์นั้นให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับกาแฟสกัดเย็นแบบปกติ แต่ดีกว่ากาแฟร้อนอย่างชัดเจน ทั้งในแง่ของปริมาณคาเฟอีน และค่าความเป็นกรด การทำกาแฟสกัดเย็นด้วยเลเซอร์ จึงตอบโจทย์คอกาแฟที่หลงใหลการดื่มกาแฟสกัดเย็นที่ไม่อยากใช้เวลารอนาน เพราะวิธีการนี้ช่วยลดระยะเวลาลงไปได้มากกว่า 300 เท่า แถมยังได้กาแฟคุณภาพดีเหมือนกับการแช่ไว้ 8 ชั่วโมง แต่วิธีการยิงแสงเลเซอร์เพื่อทำกาแฟสกัดเย็นนั้น ยังอยู่ในช่วงการทดลองและวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับความปลอดภัยก่อนนำมาใช้ในการผลิตเพื่อบริโภคในเชิงอุตสาหกรรมต่อไป ที่มาข้อมูลและภาพ: nature, newatlas, slashgearที่มาของภาพ: freepik“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

วันนี้ (25 ต.ค.2564) นายสุรพงษ์​ เลาหะอัญญา​ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำก