วุฒิสภาเริ่มนับคะแนน กสทช. วุฒิสภาเริ่มเข้าสู่กระบวนการนับคะแนนในการลงมติทางลับของ ส.ว. เพื่อเลือกคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติหรือ กสทช.แล้ว ท่ามกลางการคาดการณ์
วันที่ 18 ส.ค.2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ “กฎ ก.พ.ว่าด้วยโรค พ.ศ. 2566” ลงนามโดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.พ. ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8
วุฒิสภาเริ่มนับคะแนน กสทช. วุฒิสภาเริ่มเข้าสู่กระบวนการนับคะแนนในการลงมติทางลับของ ส.ว. เพื่อเลือกคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติหรือ กสทช.แล้ว ท่ามกลางการคาดการณ์ของแต่ละฝ่ายที่จะได้รับการคัดเลือกเป็น กรรมการ กสทช. รวม 11 คน คาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนของรายประมา 17.00 น. วุฒิสภาเริ่มนับคะแนน กสทช. หลังเข้าสู่วาระการประชุมวุฒิสภาเพื่อลงมติเลือกคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ซึ่งมีการประชุมลับ ในการตรวจสอบประวัติเชิงลึก และเข้าสู่ขั้นตอนการลงคะแนนลับด้วยการเข้าคูหากากบาทเลือกตัวแทนผู้เหมาะสมเป็นตัวแทนกสทช.จากกลุ่มต่างๆ 8 กลุ่ม ล่าสุด เข้าสู่กระบวนการในการนับคะแนนแล้ว โดยมีการตั้งสมาชิกวุฒิสภา จำนวน ชุด 2 เป็นกรรมการตรวจนับคะแนน ซึ่งเป็นการนับคะแนนแบบเปิดเผยคา สิ โน ออนไลน์ 999แจก ฟรี เครดิต ถอน ได้ เพื่อความรวดเร็ว จึงมีการแบ่งหน้าที่ ให้กรรมการชุดแรกตรวจนับคะแนน ในกลุ่มผู้มีความเชี่ยวชาญด้านกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการคุ้มครองผู้บริโภค และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและวัฒนธรรม ส่วนกรรมการชุดที่2 จะนับตะแนน ในกลุ่มผุ้เชี่ยวชาญชาญด้านกิจการโทรคมนาคม และนับในกลุ่มผุ้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและด้านเศรษฐศาสตร์ ซึ่งคาดว่าในเวลาประมาณ 17.00 น. น่าเห็นรายชื่อกรรมการกสทช.บางส่วน ทั้งนี้ ระหว่างการนับคะแนน มีรายงานถึงบัญชีรายชื่อที่คาดว่าจะได้รับเลือกเป็น กสทช. จำนวน11 คน ดังนี้ โดยด้านกิจการกระจายเสียง 1 คน คือ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ด้านกิจการโทรทัศน์ 1 คน คือ นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ด้านกิจการโทรคมนาคม 2 คนคือ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ และ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ด้านกฎหมาย 2 คน คือ นายสุทธิพล ทวีชัยการ และนายสงขลา วิชัยขัทคะ ด้านเศรษฐศาสตร์ 2 คน คือ รศ.ประเสริฐ ศิลพิพัฒน์ และนายอุกฤษฎ์ ตู้จินดา ด้านคุ้มครองผู้บริโภค ในส่วนกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ 1 คน คือ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ด้านคุ้มครองผู้บริโภค ในส่วนกิจการโทรคมนาคม 1 คน คือ นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา และด้านการศึกษาวัฒนธรรม หรือ การพัฒนาสังคม 1 คน คือ นายพงษ์ศักติฐ์ เสมสันต์ หลังเข้าสู่วาระการประชุมวุฒิสภาเพื่อลงมติเลือกคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ซึ่งมีการประชุมลับ ในการตรวจสอบประวัติเชิงลึก และเข้าสู่ขั้นตอนการลงคะแนนลับด้วยการเข้าคูหากากบาทเลือกตัวแทนผู้เหมาะสมเป็นตัวแทนกสทช.จากกลุ่มต่างๆ 8 กลุ่ม ล่าสุด เข้าสู่กระบวนการในการนับคะแนนแล้ว โดยมีการตั้งสมาชิกวุฒิสภา จำนวน ชุด 2 เป็นกรรมการตรวจนับคะแนน ซึ่งเป็นการนับคะแนนแบบเปิดเผย เพื่อความรวดเร็ว จึงมีการแบ่งหน้าที่ ให้กรรมการชุดแรกตรวจนับคะแนน ในกลุ่มผู้มีความเชี่ยวชาญด้านกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการคุ้มครองผู้บริโภค และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและวัฒนธรรม ส่วนกรรมการชุดที่2 จะนับตะแนน ในกลุ่มผุ้เชี่ยวชาญชาญด้านกิจการโทรคมนาคม และนับในกลุ่มผุ้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและด้านเศรษฐศาสตร์ ซึ่งคาดว่าในเวลาประมาณ 17.00 น. น่าเห็นรายชื่อกรรมการกสทช.บางส่วน ทั้งนี้ ระหว่างการนับคะแนน มีรายงานถึงบัญชีรายชื่อที่คาดว่าจะได้รับเลือกเป็น กสทช. จำนวน11 คน ดังนี้ โดยด้านกิจการกระจายเสียง 1 คน คือ พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ด้านกิจการโทรทัศน์ 1 คน คือ นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ด้านกิจการโทรคมนาคม 2 คนคือ พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ และ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ด้านกฎหมาย 2 คน คือ นายสุทธิพล ทวีชัยการ และนายสงขลา วิชัยขัทคะ ด้านเศรษฐศาสตร์ 2 คน คือ รศ.ประเสริฐ ศิลพิพัฒน์ และนายอุกฤษฎ์ ตู้จินดา ด้านคุ้มครองผู้บริโภค ในส่วนกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ 1 คน คือ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ด้านคุ้มครองผู้บริโภค ในส่วนกิจการโทรคมนาคม 1 คน คือ นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา และด้านการศึกษาวัฒนธรรม หรือ การพัฒนาสังคม 1 คน คือ นายพงษ์ศักติฐ์ เสมสันต์
อ่าน : "Narcissistic" คลั่งรัก-หลงตัวเอง โรคร้ายทำลายทุกคน อ่าน : ผบ.ตร.สั่งตั้งจุดตรวจ-คุมจุดล่อแหลม ป้องกันภัยช่วงวาเลนไทน์ วันนี้ (13 ก.พ.2567) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ กำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกร
"พายุไอดา" ไม่ได้เป็นเพียงภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายอย่างหนักให้สหรัฐฯ เท่านั้น พายุลูกนี้ยังเป็นอ