Kepala Badan Kependudukan dan Keluarga Berencana N

สิงคโปร์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ยกเลิกกฎหมายความมั่นคงภายใน หลังจากมาเลเซียประกาศจะยกเลิกกฎหมายนี้ รวมทั้งจะผ่อนปรนกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการประท้วง และการรายงานข่าวของสื่อมวลชน กลุ่มสิทธิมนุษยชน และกลุ่มฝ่าย
วันนี้ (25 มี.ค.2564) หลังการนำข้าวสาร 700 กระสอบออกจากพื้นที่บ้านแม่สามแลบเมื่อวานนี้ (24 มี.ค.2564) ทำให้ชาวบ้านกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง แต่บรรยากาศยังคงเงียบเหงาเนื่องจากชายแดนนังไม่เปิดและไม่
กสทช.นัดลงมติไทยพีบีเอสเสนอข่าวกลุ่มนักศึกษาขัด ม.37 หรือไม่ 21 ก.ค.นี้ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสชี้แจง กสทช.เกี่ยวกับการนำเสนอเนื้อหาความเคลื่อนไหวกลุ่มนักศึกษา หลังจากคณะทำงานของกองทัพบกยื่นเรื่องร้องเรียนการนำเสนอ โดยคณะอนุกรรมการพิจารณาผังรายการและเนื้อหารายการเตรียมนัดลงมติในวันที่ 21 ก.ค.2558 ว่าขัดต่อมาตรา 37 หรือไม่ กสทช.นัดลงมติไทยพีบีเอสเสนอข่าวกลุ่มนักศึกษาขัด ม.37 หรือไม่ 21 ก.ค.นี้ วันนี้ (15 ก.ค.2558) ตัวแทนผู้บริหาร และฝ่ายข่าวสถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอสเข้าชี้แจงคณะอนุกรรมการพิจารณาผังรายการและเนื้อหารายการของ กสทช.ที่มี พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ เป็นประธาน กรณีออกอากาศ เมื่อ 25 มิ.ย.2558 เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวกลุ่ม 14 นักศึกษาในรายการ "ที่นี่ไทยพีบีเอส" ว่า ขัดต่อมาตรา 37 พระราชบัญญัติประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ปี 2551 ตามที่คณะทำงานติดตามสื่อในกองทัพบก ร้องเรียนหรือไม่ ตัวแทนสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสที่เข้าพบคณะอนุกรรมการ กสทช.ประกอบด้วยนายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ รองผู้อำนวยการไทยพีบีเอส, นายสุพจ จริงจิตร รองผู้อำนวยการไทยพีบีเอส, นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้อำนวยการ สำนักข่าวไทยพีบีเอส และนายเชิดชาย มากบำรุง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักข่าวไทยพีบีเอส นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ รองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เปิดเผยภายหลังเข้าชี้แจงคณะอนุกรรมการฯ ว่า ที่ประชุมได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการผลิตข่าวชิ้นดังกล่าวมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ซึ่งประเด็นที่คณะอนุกรรมการตั้งข้อสังเกต คือเนื้อหาการออกอากาศไม่ค่อยสมดุล แต่ได้ชี้แจงคณะอนุกรรมการว่าฝ่ายข่าวนำเสนออย่างสมดุลแล้ว ซึ่งไทยพีบีเอสยืนยันว่าขณะนี้ได้ชี้แจงข้อมูลหมดแล้ว นอกจากนี้ ได้พยายามยืนยันหลักการนำเสนอเนื้อหาข่าวที่ออกอากาศในฐานะที่ไทยพีบีเอสเป็นองค์กรสื่อสารมวลชน แม้อยู่ในสถานการณ์บังคับใช้กฎหมายพิเศษทางการเมือง แต่การเปิดพื้นที่ให้กับสังคมได้แสดงความคิดเห็นในลักษณะการเปิดพื้นที่เพื่อไม่ให้สถานการณ์ด้านการเมืองแอ พ การ พนัน ได้ เงิน จริงpay69 เครดิต ฟรีถูกปิดกั้นทุกด้าน การมีพื้นที่แสดงออกต้องอยู่ที่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ ว่าจะตัดสินอย่างไร พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ ประธานคณะอนุกรรมการฯ เปิดเผยภายหลังเชิญผู้บริหารไทยพีบีเอสชี้แจงว่า วันนี้ได้เชิญมาเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากการสอบสวนของคณะอนุกรรมการฯ ครั้งที่ผ่านมา เพราะขาดประเด็นเกี่ยวกับการสัมภาษณ์บุคคลภายนอก และกระบวนการทำสกู๊ป โดยยืนยันว่าคณะอนุกรรมการจะให้ความเป็นธรรมเต็มที่เพราะด้านหนึ่ง มันเป็นเรื่องเสรีภาพของสื่อ แต่อีกด้านเป็นเรื่องการรักษาเกณฑ์รักษากฎหมาย ต้องทำให้บรรยากาศในสังคมของช่วงนี้ ที่เขาต้องการความปรองดองให้เดินไปตามนั้น ขั้นตอนต่อไป คณะอนุกรรมการจะพิจารณารายละเอียด และไม่จำเป็นต้องเรียกสอบแล้ว ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการกำหนดนัดลงมติในวันที่ 21 ก.ค.2558 โดยขั้นตอนหลังจากนั้นตอนส่งเข้าบอร์ด กสท.เป็นขั้นสุดท้าย ตอนนี้อยากให้รอฟังผลการพิจารณาที่จะถึงในสัปดาห์หน้าก่อน ส่วนหลักการลงมติ จะพิจารณานำมาตราที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาร่วมกัน ซึ่งรัฐไทยเป็นนิติรัฐ อะไรเป็นกฎหมายก็ใช้หมด โดยไม่ต้องดูที่มาของกฎหมาย กสทช.ไม่ได้มีกฎหมายเป็นของตัวเอง กฎหมายมาจากสภาทั้งนั้น ซึ่งการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ขณะนี้ มีความระมัดระวังกันดีอยู่แล้ว และไทยพีบีเอสเองเป็นสื่อที่สร้างสรรค์และทำประโยชน์ให้สังคมเยอะ ขอให้มีกำลังใจทำหน้าที่ต่อไป
วันนี้ (9 พ.ย.2564) บริษัทเบกซิมโค ฟาร์มาซูติคอลส์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตยาสัญชาติบังกลาเทศ เปิดเผยว่
วันที่ 15 ธ.ค.2566 ตำรวจสถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เข้าตรวจสอบเหตุรถยนต์ พุ่งชนคนมีผู้เสีย
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2565 เมื่อกลางดึก เกิดเหตุซุ่มดักยิง สมาชิกสภาเทศบาล เกิดเหตุเป็นบริเวณ ไร้อ้อย บ
กสทช.นัดลงมติไทยพีบีเอสเสนอข่าวกลุ่มนักศึกษาขัด ม.37 หรือไม่ 21 ก.ค.นี้ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสชี้แจง กสทช.เกี่ยวกับการนำเสนอเนื้อหาความเคลื่อนไหวกลุ่มนักศึกษา หลังจากคณะทำงานของกองทัพบกยื่นเรื่องร้องเรียนการนำเสนอ โดยคณะอนุกรรมการพิจารณาผังรายการและเนื้อหารายการเตรียมนัดลงมติในวันที่ 21 ก.ค.2558 ว่าขัดต่อมาตรา 37 หรือไม่ กสทช.นัดลงมติไทยพีบีเอสเสนอข่าวกลุ่มนักศึกษาขัด ม.37 หรือไม่ 21 ก.ค.นี้ วันนี้ (15 ก.ค.2558) ตัวแทนผู้บริหาร และฝ่ายข่าวสถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอสเข้าชี้แจงคณะอนุกรรมการพิจารณาผังรายการและเนื้อหารายการของ กสทช.ที่มี พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ เป็นประธาน กรณีออกอากาศ เมื่อ 25 มิ.ย.2558 เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวกลุ่ม 14 นักศึกษาในรายการ "ที่นี่ไทยพีบีเอส" ว่า ขัดต่อมาตรา 37 พระราชบัญญัติประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ปี 2551 ตามที่คณะทำงานติดตามสื่อในกองทัพบก ร้องเรียนหรือไม่ ตัวแทนสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสที่เข้าพบคณะอนุกรรมการ กสทช.ประกอบด้วยนายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ รองผู้อำนวยการไทยพีบีเอส, นายสุพจ จริงจิตร รองผู้อำนวยการไทยพีบีเอส, นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้อำนวยการ สำนักข่าวไทยพีบีเอส และนายเชิดชาย มากบำรุง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักข่าวไทยพีบีเอส นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ รองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เปิดเผยภายหลังเข้าชี้แจงคณะอนุกรรมการฯ ว่า ที่ประชุมได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการผลิตข่าวชิ้นดังกล่าวมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ซึ่งประเด็นที่คณะอนุกรรมการตั้งข้อสังเกต คือเนื้อหาการออกอากาศไม่ค่อยสมดุล แต่ได้ชี้แจงคณะอนุกรรมการว่าฝ่ายข่าวนำเสนออย่างสมดุลแล้ว ซึ่งไทยพีบีเอสยืนยันว่าขณะนี้ได้ชี้แจงข้อมูลหมดแล้ว นอกจากนี้ ได้พยายามยืนยันหลักการนำเสนอเนื้อหาข่าวที่ออกอากาศในฐานะที่ไทยพีบีเอสเป็นองค์กรสื่อสารมวลชน แม้อยู่ในสถานการณ์บังคับใช้กฎหมายพิเศษทางการเมือง แต่การเปิดพื้นที่ให้กับสังคมได้แสดงความคิดเห็นในลักษณะการเปิดพื้นที่เพื่อไม่ให้สถานการณ์ด้านการเมืองแอ พ การ พนัน ได้ เงิน จริงpay69 เครดิต ฟรีถูกปิดกั้นทุกด้าน การมีพื้นที่แสดงออกต้องอยู่ที่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ ว่าจะตัดสินอย่างไร พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ ประธานคณะอนุกรรมการฯ เปิดเผยภายหลังเชิญผู้บริหารไทยพีบีเอสชี้แจงว่า วันนี้ได้เชิญมาเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากการสอบสวนของคณะอนุกรรมการฯ ครั้งที่ผ่านมา เพราะขาดประเด็นเกี่ยวกับการสัมภาษณ์บุคคลภายนอก และกระบวนการทำสกู๊ป โดยยืนยันว่าคณะอนุกรรมการจะให้ความเป็นธรรมเต็มที่เพราะด้านหนึ่ง มันเป็นเรื่องเสรีภาพของสื่อ แต่อีกด้านเป็นเรื่องการรักษาเกณฑ์รักษากฎหมาย ต้องทำให้บรรยากาศในสังคมของช่วงนี้ ที่เขาต้องการความปรองดองให้เดินไปตามนั้น ขั้นตอนต่อไป คณะอนุกรรมการจะพิจารณารายละเอียด และไม่จำเป็นต้องเรียกสอบแล้ว ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการกำหนดนัดลงมติในวันที่ 21 ก.ค.2558 โดยขั้นตอนหลังจากนั้นตอนส่งเข้าบอร์ด กสท.เป็นขั้นสุดท้าย ตอนนี้อยากให้รอฟังผลการพิจารณาที่จะถึงในสัปดาห์หน้าก่อน ส่วนหลักการลงมติ จะพิจารณานำมาตราที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาร่วมกัน ซึ่งรัฐไทยเป็นนิติรัฐ อะไรเป็นกฎหมายก็ใช้หมด โดยไม่ต้องดูที่มาของกฎหมาย กสทช.ไม่ได้มีกฎหมายเป็นของตัวเอง กฎหมายมาจากสภาทั้งนั้น ซึ่งการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ขณะนี้ มีความระมัดระวังกันดีอยู่แล้ว และไทยพีบีเอสเองเป็นสื่อที่สร้างสรรค์และทำประโยชน์ให้สังคมเยอะ ขอให้มีกำลังใจทำหน้าที่ต่อไป
กสทช.นัดลงมติไทยพีบีเอสเสนอข่าวกลุ่มนักศึกษาขัด ม.37 หรือไม่ 21 ก.ค.นี้ ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยพีบ