Home
|
เริง สาร 1 11 63

Prof Muhammad Yusuf, Ketua Program Studi (Kaprodi)

เริง สาร 1 11 63

วันนี้ (16 ม.ค.2567) กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน "อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน" มีผลกระทบจนถึงวันที่ 16 ม.ค.นี้ คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ และประเทศลาวตอน

วันนี้ (15 มิ.ย.2565) พรรคการเมืองฝ่ายค้าน 7 พรรคร่วมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 นายกรัฐมนตรี และ 10 รัฐมนตรี ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯแล้ว รวมถึงเตรียมหารือ 3 ฝ่ายเพื่อกำหนด

วันนี้ (9 พ.ย.2564) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะคณะผู้แทนไทย กล่าวว่า ในเวทีประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ เมืองกลาสโกว์ ผู้นำแต่ละประเทศส่วนใหญ่ได้กำหนดเป้าหมายการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศชัดเจนมากขึ้น เพื่อเข้าสู่ความสมดุลทางคาร์บอน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ พร้อมกำหนดแนวทางที่เข้มงวดมากขึ้น เช่น อินเดีย ประกาศเป้าหมายจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2070 พร้อมปล่อยคาร์บอนลดลงให้ได้ 1,000 ล้านตัน และใช้พลังงานทดแทนร้อยละ 50 ภายในปี 2030 ออสเตรเลีย ประกาศเป้าหมายจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2030 ให้ได้ร้อยละ 35 นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนประเทศไทยหากได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการสนับสนุนทางด้านเงินทุนและเทคโนโลยีจากความร่วมมือระหว่างประเทศ และกลไกภายใต้กรอบอนุสัญญาฯ จะช่วยให้เป้าหมายการมุ่งบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 หรือและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net-zero GHG emission) ภายในปี 2065 สำเร็จได้แน่นอน แผนของไทยจะถูกบรรจุอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำของแต่ละประเทศส่งให้ที่ประชุม COP26 พิจารณา โดยไทยเป็น 1 ใน 3 ประเทศของอาเซียนที่จะเป็นการศึกษาศักยภาพการลดก๊าซเรือนกระจกของไทยในภาคส่วนต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการจัดทำเป้าหมายตามความตกลงปารีส (NDCs) ของประเทศฉบับต่อไปให้กับ UNFCCC รมว.ทส.กล่าวอีกว่า ประเทศไทยเป็น 1 ในประเทศที่ให้ความสำคัญเรื่องการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากแผนการดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2559 ไทยตั้งเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานและการขนส่งลงร้อยละ 7-20 โดยสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึงร้อยละ 17 ในปี 2562 ถือว่าเกินจากเป้าถึง 2 เท่าที่สำคัญไทยยังเป็นประเทศแรกๆที่ส่งความตกลงปารีส (NDCs) ฉบับปรับปรุงปี 2563 ขณะนเริง สาร 1 11 63ี้ไทยกำลังอยู่ช่วงของการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในระยะต่อไปที่ตั้งเป้าหมายจะลดก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ร้อยละ 20-25 ในทุกภาคอุตสาหกรรมภายในปี 2573 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง นายกฯ ประกาศต่อ COP26 ไทยพร้อมยกระดับแก้วิกฤตภูมิอากาศ ท่าทีไทยก่อนประชุม COP-26 หลังโลกร้อนขึ้น 1.1 องศา

วันนี้ (9 พ.ย.2564) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะคณะผู้แทนไทย กล่

วันนี้ (22 ต.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ก

วันนี้ (1 มิ.ย.2567) นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว

วันนี้ (9 พ.ย.2564) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะคณะผู้แทนไทย กล่าวว่า ในเวทีประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ เมืองกลาสโกว์ ผู้นำแต่ละประเทศส่วนใหญ่ได้กำหนดเป้าหมายการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศชัดเจนมากขึ้น เพื่อเข้าสู่ความสมดุลทางคาร์บอน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ พร้อมกำหนดแนวทางที่เข้มงวดมากขึ้น เช่น อินเดีย ประกาศเป้าหมายจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2070 พร้อมปล่อยคาร์บอนลดลงให้ได้ 1,000 ล้านตัน และใช้พลังงานทดแทนร้อยละ 50 ภายในปี 2030 ออสเตรเลีย ประกาศเป้าหมายจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2030 ให้ได้ร้อยละ 35 นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนประเทศไทยหากได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการสนับสนุนทางด้านเงินทุนและเทคโนโลยีจากความร่วมมือระหว่างประเทศ และกลไกภายใต้กรอบอนุสัญญาฯ จะช่วยให้เป้าหมายการมุ่งบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 หรือและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net-zero GHG emission) ภายในปี 2065 สำเร็จได้แน่นอน แผนของไทยจะถูกบรรจุอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำของแต่ละประเทศส่งให้ที่ประชุม COP26 พิจารณา โดยไทยเป็น 1 ใน 3 ประเทศของอาเซียนที่จะเป็นการศึกษาศักยภาพการลดก๊าซเรือนกระจกของไทยในภาคส่วนต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการจัดทำเป้าหมายตามความตกลงปารีส (NDCs) ของประเทศฉบับต่อไปให้กับ UNFCCC รมว.ทส.กล่าวอีกว่า ประเทศไทยเป็น 1 ในประเทศที่ให้ความสำคัญเรื่องการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากแผนการดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2559 ไทยตั้งเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานและการขนส่งลงร้อยละ 7-20 โดยสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึงร้อยละ 17 ในปี 2562 ถือว่าเกินจากเป้าถึง 2 เท่าที่สำคัญไทยยังเป็นประเทศแรกๆที่ส่งความตกลงปารีส (NDCs) ฉบับปรับปรุงปี 2563 ขณะนเริง สาร 1 11 63ี้ไทยกำลังอยู่ช่วงของการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในระยะต่อไปที่ตั้งเป้าหมายจะลดก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ร้อยละ 20-25 ในทุกภาคอุตสาหกรรมภายในปี 2573 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง นายกฯ ประกาศต่อ COP26 ไทยพร้อมยกระดับแก้วิกฤตภูมิอากาศ ท่าทีไทยก่อนประชุม COP-26 หลังโลกร้อนขึ้น 1.1 องศา

วันนี้ (12 มิ.ย.2566) การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจง กรณีผู้โดยสารใช้บริการข้าวกล่องบนรถไฟด่วนพิเศษหนอง