UID: 64744

นักวิชาการเรียกร้องยกเลิกการใช้แร่ใยหิน นักวิชาการด้านสาธารณสุขเรียกร้องให้กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาย

ด้วยพระปรีชาสามารถและพระอุตสาหะของ พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (พระอิสริยยศในขณะนั้น)

นักวิชาการเรียกร้องยกเลิกการใช้แร่ใยหิน นักวิชาการด้านสาธารณสุขเรียกร้องให้กระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณายกเลิกการใช้แร่ใยหินในประเทศไทย เพราะว่าเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งและเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ และเสนอให้ใช้วัสดุชนิดอื่นแทนแร่ใยหินเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค นักวิชาการเรียกร้องยกเลิกการใช้แร่ใยหิน ตัวแทนนักวิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพูดคุยและติดตามการผลักดันให้ประเทศไทยยกเลิกการใช้แร่ใยหินในผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ โดยนายไพบูลย์ ช่วงทอง นักวิชาการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เปิดเผยว่า หลายประเทศในทวีปยุโรปได้ให้ความสำคัญและยกเลิกการใช้แร่ใยหินไปแล้วตั้งแต่ปี 2548 เพราะว่าเป็นสารก่อมะเร็งและเป็นอันตรายกับระบบทางเดินหายใจ ขณะเดียวกัน สามารถนำวัสดุอื่น เช่น พีวีเอ, อะรามายด์, เซรามิคไฟเบอร์ และเซลลูโรสไฟเบอร์มาใช้ทดแทนแร่ใยหินได้ รศ.วันทนี พันธุ์ประสิทธิ์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ในภาคอุตสาหกรรม กากของเสียหากมีการปนเปื้อนแร่ใยหินเพียงร้อยละ 1 ถือว่าเป็นอันตราย ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน เช่น กระเบื้อง มีการผสมแร่ใยหินมากกว่าร้อยละ 10 แต่ในปัจจุบัน ภาคธุรกิจเริ่มเห็นถึงความสำคัญ และยกเลิกการผสมแร่ใยหินลงในผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าในหวย ลาว เฮีย พูนรูปแบบตลาดสีเขียว นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา ที่ปรึกษาคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า เตรียมติดตามความคืบหน้าในการยกเลิกการใช้แร่ใยหินกับกระทรวงอุตสาหกรรมที่ในปัจจุบันได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการยกเลิกการใช้แร่ใยหินเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อนำเปิดเผยต่อสาธารณะชน สำหรับสถิติการนำเข้าแร่ใยหินไครโซไทล์ในประเทศไทนมีแนวโน้มที่ลดลง โดยในปี 2552 มีการนำเข้าแร่ชนิดนี้ 68,743 ตัน ลดลงจากปี 2551 ถึง 25,401 ตัน ตัวแทนนักวิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพูดคุยและติดตามการผลักดันให้ประเทศไทยยกเลิกการใช้แร่ใยหินในผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ โดยนายไพบูลย์ ช่วงทอง นักวิชาการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เปิดเผยว่า หลายประเทศในทวีปยุโรปได้ให้ความสำคัญและยกเลิกการใช้แร่ใยหินไปแล้วตั้งแต่ปี 2548 เพราะว่าเป็นสารก่อมะเร็งและเป็นอันตรายกับระบบทางเดินหายใจ ขณะเดียวกัน สามารถนำวัสดุอื่น เช่น พีวีเอ, อะรามายด์, เซรามิคไฟเบอร์ และเซลลูโรสไฟเบอร์มาใช้ทดแทนแร่ใยหินได้ รศ.วันทนี พันธุ์ประสิทธิ์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ในภาคอุตสาหกรรม กากของเสียหากมีการปนเปื้อนแร่ใยหินเพียงร้อยละ 1 ถือว่าเป็นอันตราย ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน เช่น กระเบื้อง มีการผสมแร่ใยหินมากกว่าร้อยละ 10 แต่ในปัจจุบัน ภาคธุรกิจเริ่มเห็นถึงความสำคัญ และยกเลิกการผสมแร่ใยหินลงในผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าในรูปแบบตลาดสีเขียว นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา ที่ปรึกษาคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า เตรียมติดตามความคืบหน้าในการยกเลิกการใช้แร่ใยหินกับกระทรวงอุตสาหกรรมที่ในปัจจุบันได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการยกเลิกการใช้แร่ใยหินเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อนำเปิดเผยต่อสาธารณะชน สำหรับสถิติการนำเข้าแร่ใยหินไครโซไทล์ในประเทศไทนมีแนวโน้มที่ลดลง โดยในปี 2552 มีการนำเข้าแร่ชนิดนี้ 68,743 ตัน ลดลงจากปี 2551 ถึง 25,401 ตัน

วันนี้ (18 เม.ย.2568) นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการแทน กสทช. กล่าวถึงการแจ้งเตือน C