Home
|
melbet

Dua pembalap MotoGP, Fabio Di Giannantonio danMarc

melbet

นับตั้งแต่โครงการอะพอลโล (Apollo) ในช่วงปี ค.ศ. 1969 - 1973 มนุษยชาติประสบความสำเร็จในการเก็บหินและดินจากดวงจันทร์รวมแล้วเป็นน้ำหนักมากกว่า 382 กิโลกรัมกลับสู่โลก ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากที่มนุษยชาติเดินท

ในที่สุด โลกก็มีประชากรครบ 8 พันล้านคนแล้ว นับเป็นอีก 1 เหตุการณ์สำคัญของโลกที่ต้องร่วมกันเฉลิมฉลอง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไตร่ตรองว่า การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ การเข้าถึงกา

วันนี้ (17 ก.พ.2565) เพจสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) เผยแพร่ภาพ ดวงจันทร์มิแรนดา (Miranda) บริวารของดาวยูเรนัส (Uranus) เป็นดวงจันทร์ที่มีขนาดเล็กมากดวงหนึ่ง ประกอบขึ้นจากหินและน้ำแข็ง มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 470 กิโลเมตร แต่มีมวลและแรงโน้มถ่วงมากพอที่จะปรับรูปร่างของตนให้อยู่ในสภาวะสมดุลอุทกสถิต (Hydrostatic equilibrium) หรือการมีรูปร่างใกล้เคียงกับทรงกลมได้ จากภาพเราจะเห็นว่าดวงจันทร์มิแรนดามีความหลากหลายทางธรณีวิทยาที่แตกต่างกันอย่างมาก มีบริเวณหุบเหวโค้งที่ลึกราว ๆ 20 กิโลเมตร (ลึกกว่าแกรนแคนยอนบนโลกกว่า 10 เท่า) ซึ่งมีชื่อว่า “แนวหน้าผาเวโรนา” (Verona Rupes) และยัmelbetงพบลักษณะการแปรสัณฐานทางธรณีวิทยาเป็นชั้นๆ จนทำให้ดวงจันทร์ดวงนี้ดูขี้ริ้วขี้เหร่และแปลกตามากในบรรดาดวงจันทร์ทั้งหมดในระบบสุริยะก็เป็นได้ สาเหตุของความหลากหลายบนพื้นผิวดวงจันทร์มิแรนดานั้น นักวิทยาศาสตร์มีสมมติฐานว่าดวงจันทร์มิแรนดาน่าจะเคยถูกชนด้วยวัตถุขนาดใหญ่จนแตกเป็นเสี่ยง ๆ จากนั้นเศษที่กระจัดกระจายไปในอวกาศก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งด้วยแรงโน้มถ่วง หรืออาจเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาภายในของดวงจันทร์ดวงนี้ ทำให้เกิดการขยายตัวหรือพองตัวออกของดวงจันทร์ จนเกิดเป็นลักษณะภูมิประเทศอย่างที่เราเห็นได้ในภาพ

วันนี้ (22 ก.พ.2564) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เฮลิคอปเตอร์

วันนี้ (17 ก.พ.2565) เพจสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) เผยแพร่ภาพ ดวงจันทร์มิแรนดา (Miranda) บ

รัฐบาลเล็งให้ ภูเก็ต นำร่องนโยบายค่าแรงวันละ 300 บาท ผู้ประกอบการขนาดกลางบางส่วน ในจังหวัดภูเก็ต ยอม

วันนี้ (17 ก.พ.2565) เพจสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) เผยแพร่ภาพ ดวงจันทร์มิแรนดา (Miranda) บริวารของดาวยูเรนัส (Uranus) เป็นดวงจันทร์ที่มีขนาดเล็กมากดวงหนึ่ง ประกอบขึ้นจากหินและน้ำแข็ง มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 470 กิโลเมตร แต่มีมวลและแรงโน้มถ่วงมากพอที่จะปรับรูปร่างของตนให้อยู่ในสภาวะสมดุลอุทกสถิต (Hydrostatic equilibrium) หรือการมีรูปร่างใกล้เคียงกับทรงกลมได้ จากภาพเราจะเห็นว่าดวงจันทร์มิแรนดามีความหลากหลายทางธรณีวิทยาที่แตกต่างกันอย่างมาก มีบริเวณหุบเหวโค้งที่ลึกราว ๆ 20 กิโลเมตร (ลึกกว่าแกรนแคนยอนบนโลกกว่า 10 เท่า) ซึ่งมีชื่อว่า “แนวหน้าผาเวโรนา” (Verona Rupes) และยัmelbetงพบลักษณะการแปรสัณฐานทางธรณีวิทยาเป็นชั้นๆ จนทำให้ดวงจันทร์ดวงนี้ดูขี้ริ้วขี้เหร่และแปลกตามากในบรรดาดวงจันทร์ทั้งหมดในระบบสุริยะก็เป็นได้ สาเหตุของความหลากหลายบนพื้นผิวดวงจันทร์มิแรนดานั้น นักวิทยาศาสตร์มีสมมติฐานว่าดวงจันทร์มิแรนดาน่าจะเคยถูกชนด้วยวัตถุขนาดใหญ่จนแตกเป็นเสี่ยง ๆ จากนั้นเศษที่กระจัดกระจายไปในอวกาศก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้งด้วยแรงโน้มถ่วง หรืออาจเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาภายในของดวงจันทร์ดวงนี้ ทำให้เกิดการขยายตัวหรือพองตัวออกของดวงจันทร์ จนเกิดเป็นลักษณะภูมิประเทศอย่างที่เราเห็นได้ในภาพ

ความคืบหน้าทางคดีกรณีมีการลงโทษเด็กในสถานสงเคราะห์​ จ.สระบุรี​ ​พ.ต.อ.วีระวุฒิ ดำสุวรรณ ผกก.สภ.พระพุ