วันนี้ (13 มี.ค.2566) "LALISA NINETY MILLION" รวมท

วิถีชีวิตผู้คนในปัจจุบัน พึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่การค้นคว้าหา ความรู้ทุกด้านตามที่ต้องการ คนรุ่นใหม่มีเส้นทางอนาคตมากมายหลากหลายขึ้น อีกทั้งค่าครองชีพที่สูงขึ้นกลายเป็นค่านิยมที่ทำให้คนรุ่
วันนี้ (8 ก.พ.2565) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวว่า ตามที่ปรากฎทางสื่อโซเชียลมีเดีย ได้มีประกาศนัดรวมตัวเพื่อทำกิจกรรมของกลุ่มสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เ
วันนี้ (15 พ.ค.2565) ความคืบหน้ากรณี พระมหานภารัตน์ อายุ 26 ปี ชักชวนให้สามเณรมาขายบริการทางเพศให้กับตนเอง ล่าสุด นายศิวะเสก สินโทรัมย์ นายอำเภอลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา ได้สั่งการให้ปลัดอำเภอลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อมูลจาก นายสว่าง ดีไธสง ผู้ใหญ่บ้านหนองม่วง หมู่ 12 ต.บ้านยาง อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา ถึงกรณีดังกล่าว ทราบว่า พระมหานภารัตน์ นันทโก มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านหนองม่วง และเคยบวชจำวัดอยู่ที่วัดจันทนไชยศรี แต่ก็ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดอื่นนานหลายปีแล้ว ด้านพระครูปลัดระพี จกฺกวโร เลขานุการเจ้าคณะอำเภอลำทะเมนชัย เปิดเผยว่า พระมหานภารัตน์ เดิมได้อุปสมบทที่วัดศิริโภคาภิรมย์ ต.ช่องแมว อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน จากนั้นได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดจันทนไชยศรี ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่วัดในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งนิสัยส่วนตัวของพระมหานภารัตน์ก็เป็นเหมือนในคลิปที่เป็นข่าว ช่วงที่อยู่ในพื้นที่ทางเจ้าคณะอำเภอก็เคยตักเตือนเรื่องพฤติกรรมมาแล้ว ล่าสุด พระครูอดุลชัย เจ้าคณะอำเภอลำทะเมนชัย ได้ทำหนังสือแจ้งถึง พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ลงวันที่ 13 พ.ค. 2565 เรื่อง แจ้งการขับ พระมหานภารัตน์ นันทโก ออกจากสังกัดวัดจันทนไชยศรี และให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุ เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฏมีความผิดชัดเจน ขณะที่นายวินัย บุณยรัชตปรีชา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาลาจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามหาตัวพระพระมหานภารัตน์ แต่ยังไม่พบตัวว่าอยู่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จากที่เห็นจากคลิปภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องถือว่ามีความผิดถึงขั้นปาราชิก ซึ่งการปาราชิกไม่จำเป็นต้องจับสึกเพราะถือว่าขาดจากความเป็นพระโดยพฤติกรรมอยู่แล้วและจะไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้ ส่วนความผิดทางอาญาผู้เสียหายสามารถแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดได้เลย อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ คณะสงฆ์ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ยังไม่พบตัวพระมหานภารัตน์ และจากการตรวจสอบข้อมูล พระมหานภารัตน์ สังกัดอยู่ที่วัดจันทนไชยศรี บ้านหนองม่วง ต.บ้านยาง อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งทางวัดจันทรไชยศรีได้ประกาศให้ พระมหานภารัตน์ พ้นจากสังกัดของวัดแล้ว และทางคณะสงฆ์อำเภอลำทะเมนชัย โดยเจ้าคณะอำเภอได้มีมติสงฆ์ให้พระมหานภารัตน์ ขาดจากความเป็นพระภิกษุ นับตั้งแต่วันที่มีมติของคณะสงฆ์ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา และหากใครพบเห็นพระมหานภารัตน์ สวมใส่จีวร ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินการเอาผิดฐานแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ได้ทันที ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบทราบข้อมูลว่า หลังจากพระมหานภารัตน์ ได้บวชพระที่ อ.ลำทะเมนชัย ก็ออกเดินทางไปอยู่ที่ จ.ขอนแก่น และนานๆ ครั้งถึงจะเดินทางกลับมาทufa999999ี่ จ.นครราชสีมา เพื่อเยี่ยมญาติพี่น้องบ้าง แต่ล่าสุดจากการสอบถามญาติพี่น้องทราบว่า พระมหานภารัตน์ ไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านนานหลายเดือนแล้ว และตั้งแต่เป็นข่าวดัง ก็ไม่มีใครพบตัว ไม่สามารถติดต่อได้เลย ข่าวที่เกี่ยวข้อง อ้างคลิปเก่า! พระ-เณร อนาจารในห้องน้ำ-พศ.ยังลุยสอบต่อ
วันนี้ (15 พ.ค.2565) ความคืบหน้ากรณี พระมหานภารัตน์ อายุ 26 ปี ชักชวนให้สามเณรมาขายบริการทางเพศให้กั
วันนี้ (20 มี.ค.2565) สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ส่งจดหมายด่วนที่สุดถึง อธิบดีกรมการค้าภายใน และ สำเน
ส.ยานยนต์ชี้นโยบาย สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยห่วงความไม่ชัดเจนของนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลส่งผลให้ผู้จะ
วันนี้ (15 พ.ค.2565) ความคืบหน้ากรณี พระมหานภารัตน์ อายุ 26 ปี ชักชวนให้สามเณรมาขายบริการทางเพศให้กับตนเอง ล่าสุด นายศิวะเสก สินโทรัมย์ นายอำเภอลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา ได้สั่งการให้ปลัดอำเภอลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อมูลจาก นายสว่าง ดีไธสง ผู้ใหญ่บ้านหนองม่วง หมู่ 12 ต.บ้านยาง อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา ถึงกรณีดังกล่าว ทราบว่า พระมหานภารัตน์ นันทโก มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านหนองม่วง และเคยบวชจำวัดอยู่ที่วัดจันทนไชยศรี แต่ก็ได้ย้ายไปอยู่ที่วัดอื่นนานหลายปีแล้ว ด้านพระครูปลัดระพี จกฺกวโร เลขานุการเจ้าคณะอำเภอลำทะเมนชัย เปิดเผยว่า พระมหานภารัตน์ เดิมได้อุปสมบทที่วัดศิริโภคาภิรมย์ ต.ช่องแมว อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน จากนั้นได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดจันทนไชยศรี ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่วัดในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งนิสัยส่วนตัวของพระมหานภารัตน์ก็เป็นเหมือนในคลิปที่เป็นข่าว ช่วงที่อยู่ในพื้นที่ทางเจ้าคณะอำเภอก็เคยตักเตือนเรื่องพฤติกรรมมาแล้ว ล่าสุด พระครูอดุลชัย เจ้าคณะอำเภอลำทะเมนชัย ได้ทำหนังสือแจ้งถึง พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ลงวันที่ 13 พ.ค. 2565 เรื่อง แจ้งการขับ พระมหานภารัตน์ นันทโก ออกจากสังกัดวัดจันทนไชยศรี และให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุ เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฏมีความผิดชัดเจน ขณะที่นายวินัย บุณยรัชตปรีชา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาลาจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามหาตัวพระพระมหานภารัตน์ แต่ยังไม่พบตัวว่าอยู่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จากที่เห็นจากคลิปภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องถือว่ามีความผิดถึงขั้นปาราชิก ซึ่งการปาราชิกไม่จำเป็นต้องจับสึกเพราะถือว่าขาดจากความเป็นพระโดยพฤติกรรมอยู่แล้วและจะไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้ ส่วนความผิดทางอาญาผู้เสียหายสามารถแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดได้เลย อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ คณะสงฆ์ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ยังไม่พบตัวพระมหานภารัตน์ และจากการตรวจสอบข้อมูล พระมหานภารัตน์ สังกัดอยู่ที่วัดจันทนไชยศรี บ้านหนองม่วง ต.บ้านยาง อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งทางวัดจันทรไชยศรีได้ประกาศให้ พระมหานภารัตน์ พ้นจากสังกัดของวัดแล้ว และทางคณะสงฆ์อำเภอลำทะเมนชัย โดยเจ้าคณะอำเภอได้มีมติสงฆ์ให้พระมหานภารัตน์ ขาดจากความเป็นพระภิกษุ นับตั้งแต่วันที่มีมติของคณะสงฆ์ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา และหากใครพบเห็นพระมหานภารัตน์ สวมใส่จีวร ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินการเอาผิดฐานแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ได้ทันที ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบทราบข้อมูลว่า หลังจากพระมหานภารัตน์ ได้บวชพระที่ อ.ลำทะเมนชัย ก็ออกเดินทางไปอยู่ที่ จ.ขอนแก่น และนานๆ ครั้งถึงจะเดินทางกลับมาทufa999999ี่ จ.นครราชสีมา เพื่อเยี่ยมญาติพี่น้องบ้าง แต่ล่าสุดจากการสอบถามญาติพี่น้องทราบว่า พระมหานภารัตน์ ไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านนานหลายเดือนแล้ว และตั้งแต่เป็นข่าวดัง ก็ไม่มีใครพบตัว ไม่สามารถติดต่อได้เลย ข่าวที่เกี่ยวข้อง อ้างคลิปเก่า! พระ-เณร อนาจารในห้องน้ำ-พศ.ยังลุยสอบต่อ
วันนี้ (24 ต.ค.2566) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.พลังงาน ระบุว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการปรับร