Home
|
ที่ เดั ด 4 เชีย น

Mahasiswa-mahasiswi universitas terkemuka di Inggr

ที่ เดั ด 4 เชีย น

วันนี้ (16 มิ.ย.2567) ความคืบหน้าในการติดตามเรือบรรทุกน้ำมัน 3 ลำที่หลบหนีไประหว่างจอดเทียบท่ารอการดำเนินคดีบริเวณท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจส

วันนี้ (22 ก.ค.67) จาก กรณีที่ เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิรน์ part7 นำเสนอข้อมูลอ้างเป็นข้อร้องเรียนตำรวจ เรื่อง แผ่นเกราะกันกระสุน เหมือนวัสดุยัดไส้ ลักษณะเหมือนแผ่นไม้อัด เกรงจะไม่ปลอดภัย ล่าสุด พ

วันนี้ (5 มี.ค.2567) กลุ่มเพื่อนผู้เสียหายชาวไทย ที่ถูกกลุ่มกะเทยชาวฟิลิปปินส์ทำร้าย เดินทางมาเป็นกำลังใจให้เพื่อนหลังถูกเชิญตัวมาสอบปากคำ ที่ สน.ลุมพินี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อนผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา กลุ่มของตัวเองเดินทางไปที่โรงแรมในซอยสุขุมวิท เพื่อเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ แต่หนึ่งในกลุ่มเพื่อนได้ไลฟ์สดจนเป็นกระแสในสื่อออนไลน์ และเกิดการรวมตัวของกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศเป็นจำนวนมาก โดยไม่ได้มีการนัดหมาย ก่อนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น ขณะนั้นกลุ่มของตัวเองไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากถูกเชิญตัวมาสอบปากคำที่ สน.ลุมพินี แล้ว ก่อนหน้านี้ ทั้งสองฝั่งเคยมีปากเสียงกันและมีพฤติกรรมเขม่นกัน โดยตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มชาวฟิลิปปินส์เข้ามาอาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะอยู่ในพื้นที่นานกว่า 2 เดือน และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเข้ามาประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาตในประเทศไทยหรือไม่ กลุ่มเพื่อนผู้เสียหาย ยังระบุว่า ในวันเกิดเหตุรุมทำร้ายคนไทย มีชาวฟิลิปปินส์มากกว่า 10 คน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาสอบปากคำเพียง 4 คน โดยมีรายงานว่าบางส่วนเดินทางออกจากที่พักไปสนามบินสที่ เดั ด 4 เชีย นุวรรณภูมิเพื่อกลับฟิลิปปินส์ จึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวบุคคลดังกล่าวมาดำเนินคดี ส่วนความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุเพื่อหาข้อเท็จจริง ขณะที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบที่พักอาศัยของกลุ่มชาวฟิลิปปินส์ ว่าได้แจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เรื่องการให้ที่พักพิงกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบการอยู่อาศัยในไทยเกินกำหนด และการเข้ามาประกอบอาชีพในไทยของกลุ่มชาวฟิลิปปินส์ดังกล่าว ความคืบหน้าการดำเนินคดี พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กล่าวว่า จากการสอบปากคำกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศชาวไทยทั้งหมด 7 คน เบื้องต้นทราบว่าทั้งสองฝ่ายมีปัญหากันมาก่อน เคยถูกเชิญตัวมาไกล่เกลี่ยกันที่ สน.ปทุมวัน แล้วครั้งหนึ่ง ก่อนปล่อยตัวกลับไป และก่อเหตุรุมทำร้ายกันเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้เสียหายจึงตามไปถึงที่พักของกลุ่มผู้ก่อเหตุชาวฟิลิปปินส์ เมื่อตำรวจทราบข่าวจึงเดินทางเข้าไปยับยั้งเหตุการณ์ไม่ให้สถานการณ์บานปลาย พร้อมเชิญผู้ก่อเหตุชาวฟิลิปปินส์และกลุ่มผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ลุมพินี แต่กระแสสังคมกลับทำให้มีกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เพื่อกดดันชาวฟิลิปปินส์ที่พักอาศัยอยู่ในโรงแรมดังกล่าว ตำรวจจึงต้องนำกำลังจากสถานีตำรวจข้างเคียงกว่า 40 นายเข้าไปนำตัวชาวฟิลิปปินส์ที่พักอาศัยอยู่ออกมาจากโรงแรม เพราะกลัวว่าสถานการณ์จะบานปลายขึ้น แต่ขณะนั้นกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศได้เข้ามารุมทำร้ายจนทำให้ชาวฟิลิปปินส์ บาดเจ็บ 1 คน ส่วนการดำเนินคดีเบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหายเป็นชาวไทย เพื่อระบุตัวบุคคลผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บชาวฟิลิปปินส์ เบื้องต้นนำตัวมาสอบปากคำ 4 คน โดยหนึ่งในผู้รับบาดเจ็บได้แจ้งความดำเนินคดีผู้ที่ทำร้ายขณะนำตัวมาที่ สน. เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและคลิปวีดิโอที่เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ว่ามีใครเข้าข่ายการกระทำความผิดหรือไม่ นอกจากนี้ ยังได้ประสานตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบการกระทำความผิดของกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศชาวฟิลิปปินส์ว่าได้เดินทางเข้าประเทศโดยถูกกฎหมาย หรืออยู่เกินกว่าระยะเวลากำหนดหรือไม่ ส่วนประเด็นที่เข้ามาประกอบอาชีพในไทยหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "กะเทยไทย" รวมตัวซอยสุขุมวิท 11 หลังเหตุถูกกะเทยฟิลิปปินส์รุมทำร้าย

วันนี้ (27 เม.ย.2566) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร่วมหารือและซักซ้อมการเช

เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2567 การประชุมประจำสัปดาห์ของพรรคก้าวไกล มีรายงานว่าทีมกฎหมายค่อนข้างมั่นใจในการต

วันนี้ (31 มี.ค.2565) นายฮาร่า ชินทาโร่ นักวิชาการ เปิดเผยถึงกรณีการพูดคุยสันติสุข เพื่อแก้ปัญหาความ

วันนี้ (5 มี.ค.2567) กลุ่มเพื่อนผู้เสียหายชาวไทย ที่ถูกกลุ่มกะเทยชาวฟิลิปปินส์ทำร้าย เดินทางมาเป็นกำลังใจให้เพื่อนหลังถูกเชิญตัวมาสอบปากคำ ที่ สน.ลุมพินี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อนผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา กลุ่มของตัวเองเดินทางไปที่โรงแรมในซอยสุขุมวิท เพื่อเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ แต่หนึ่งในกลุ่มเพื่อนได้ไลฟ์สดจนเป็นกระแสในสื่อออนไลน์ และเกิดการรวมตัวของกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศเป็นจำนวนมาก โดยไม่ได้มีการนัดหมาย ก่อนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น ขณะนั้นกลุ่มของตัวเองไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากถูกเชิญตัวมาสอบปากคำที่ สน.ลุมพินี แล้ว ก่อนหน้านี้ ทั้งสองฝั่งเคยมีปากเสียงกันและมีพฤติกรรมเขม่นกัน โดยตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มชาวฟิลิปปินส์เข้ามาอาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะอยู่ในพื้นที่นานกว่า 2 เดือน และต้องการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเข้ามาประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาตในประเทศไทยหรือไม่ กลุ่มเพื่อนผู้เสียหาย ยังระบุว่า ในวันเกิดเหตุรุมทำร้ายคนไทย มีชาวฟิลิปปินส์มากกว่า 10 คน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาสอบปากคำเพียง 4 คน โดยมีรายงานว่าบางส่วนเดินทางออกจากที่พักไปสนามบินสที่ เดั ด 4 เชีย นุวรรณภูมิเพื่อกลับฟิลิปปินส์ จึงอยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวบุคคลดังกล่าวมาดำเนินคดี ส่วนความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุเพื่อหาข้อเท็จจริง ขณะที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบที่พักอาศัยของกลุ่มชาวฟิลิปปินส์ ว่าได้แจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เรื่องการให้ที่พักพิงกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบการอยู่อาศัยในไทยเกินกำหนด และการเข้ามาประกอบอาชีพในไทยของกลุ่มชาวฟิลิปปินส์ดังกล่าว ความคืบหน้าการดำเนินคดี พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กล่าวว่า จากการสอบปากคำกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศชาวไทยทั้งหมด 7 คน เบื้องต้นทราบว่าทั้งสองฝ่ายมีปัญหากันมาก่อน เคยถูกเชิญตัวมาไกล่เกลี่ยกันที่ สน.ปทุมวัน แล้วครั้งหนึ่ง ก่อนปล่อยตัวกลับไป และก่อเหตุรุมทำร้ายกันเมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้เสียหายจึงตามไปถึงที่พักของกลุ่มผู้ก่อเหตุชาวฟิลิปปินส์ เมื่อตำรวจทราบข่าวจึงเดินทางเข้าไปยับยั้งเหตุการณ์ไม่ให้สถานการณ์บานปลาย พร้อมเชิญผู้ก่อเหตุชาวฟิลิปปินส์และกลุ่มผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ลุมพินี แต่กระแสสังคมกลับทำให้มีกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เพื่อกดดันชาวฟิลิปปินส์ที่พักอาศัยอยู่ในโรงแรมดังกล่าว ตำรวจจึงต้องนำกำลังจากสถานีตำรวจข้างเคียงกว่า 40 นายเข้าไปนำตัวชาวฟิลิปปินส์ที่พักอาศัยอยู่ออกมาจากโรงแรม เพราะกลัวว่าสถานการณ์จะบานปลายขึ้น แต่ขณะนั้นกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศได้เข้ามารุมทำร้ายจนทำให้ชาวฟิลิปปินส์ บาดเจ็บ 1 คน ส่วนการดำเนินคดีเบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหายเป็นชาวไทย เพื่อระบุตัวบุคคลผู้ก่อเหตุ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บชาวฟิลิปปินส์ เบื้องต้นนำตัวมาสอบปากคำ 4 คน โดยหนึ่งในผู้รับบาดเจ็บได้แจ้งความดำเนินคดีผู้ที่ทำร้ายขณะนำตัวมาที่ สน. เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและคลิปวีดิโอที่เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ว่ามีใครเข้าข่ายการกระทำความผิดหรือไม่ นอกจากนี้ ยังได้ประสานตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตรวจสอบการกระทำความผิดของกลุ่มผู้หลากหลายทางเพศชาวฟิลิปปินส์ว่าได้เดินทางเข้าประเทศโดยถูกกฎหมาย หรืออยู่เกินกว่าระยะเวลากำหนดหรือไม่ ส่วนประเด็นที่เข้ามาประกอบอาชีพในไทยหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "กะเทยไทย" รวมตัวซอยสุขุมวิท 11 หลังเหตุถูกกะเทยฟิลิปปินส์รุมทำร้าย

วันนี้ (5 มี.ค.2567) กลุ่มเพื่อนผู้เสียหายชาวไทย ที่ถูกกลุ่มกะเทยชาวฟิลิปปินส์ทำร้าย เดินทางมาเป็นกำ