วันนี้ (25 มี.ค.2565) ที่สถานีตำรวจภูธรนนทบุรี เวลาประมาณ 14.50 น.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รอง ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.ยิ่งยศ มิ่งมงคล โฆษ

หลังจาก "หมอปุยเมฆ" พญ.นภสร วีระยุทธวิไล หมออินเทิร์น โรงพยาบาลราชบุรี ระบายความในใจในเรื่องการแบกภาระการทำงานหนักพร้อมยืนใบลาออกจากราชการ สะท้อนให้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับบุคลากรทางการแพทย์ เป็นเผือกร้อนทำให้ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกมาเปิดเผยข้อมูลวิกฤติแพทย์ในระบบสาธารณสุข ว่าไม่ใช่แค่แพทย์ แต่รวมถึง พยาบาล ทันตแพทย์ นักรังสีการแพทย์ และ วิชาชีพอื่นๆ ด้วย อ่าน : กางตัวเลขผลิตหมอ เท่าไหร่ไม่พอ "หมอลาออก-ลาศึกษา" ไทยพีบีเอสออนไลน์สัมภาษณ์ "แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป" ที่หลังจากเรียนจบแพทย์ 6 ปีแล้ว "คุณหมอ" เลือกเส้นทางใช้ทุนเพียง 1 ปี และออกมาทำงานในโรงพยาบาลเอกชน "อินเทิร์น" หรือ หมอจบใหม่ใช้ทุน คือ นักเรียนแพทย์ที่เรียนหลักสูตรแพทยศาสตร์จบ 6 ปี จากนั้นจะมีทางเลือก 2 ทางหลักๆ เหตุผลที่ คุณหมอ ยกให้ "อินเทิร์น" คือผู้ขับเคลื่อนวงการแพทย์ไทย เพราะเกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนทั้งระบบ โรงพยาบาลเอกชน คือทางเลือกใหม่ที่จะทำให้หมอรอดจากระบบสาธารณสุข เพราะไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา แม้ค่าตอบแทนจะต่างกันไม่มาก แต่เมื่อเทียบกับสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ไม่ถูกกดดันเท่าโรงพยาบาลรัฐแล้ว ก็ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้หมอหลุดจากระบบสาธารณสุขไทยได้เช่นกัน อ่าน : เปิดสถิติแพทย์ล่าสุด ปี 66 ไทยมีแพทย์ทั้งสิ้น 6.8 หมื่นคน อยู่ใน กทม. 3.2 หมื่นคน ส่วนเรื่องของสวัสดิการที่ได้รับ เมื่อ 15 ปีก่อน หมออินเทิร์นจะถูกบรรจุเข้ารับราชการทุกคน ในขณะที่ปัจจุบัน หมออินเทิร์นถูกบรรจุเป็นเพียงลูกจ้างชั่วคราวเท่านั้น เมื่อข้อเสียเปรียบคือความเหนื่อยและแรงกดดันในการทำงานที่พอๆ กันแล้วนั้น ข้อไดวิเคราะห์ บอล อา ร์ เซ น่ อ ล วัน นี้้เปรียบที่ไม่เท่ากันจึงถูกมองเห็นได้อย่างชัดเจน ในขณะที่หมออินเทิร์นบางคน เลือกจะอยู่ในโรงพยาบาลนั้นๆ 3 ปี เพื่อหวัง "เส้นสาย" แห่งความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ทั้งทุนการเรียนต่อต่างประเทศ หรือโอกาสเลือกเรียนแพทย์เฉพาะทางที่งานไม่หนัก แต่ได้รายได้เยอะ เมื่อระบบตรวจสอบคุณภาพคือเกณฑ์วัดศักยภาพของโรงพยาบาล หมอเฉพาะทางถูกย้ายไปทำหน้าที่บริหาร การขับเคลื่อนการรักษาคนไข้จึงเป็นหน้าที่ของหมอบรรจุใหม่รวมถึงหมออินเทิร์น คุณหมอเล่าให้ฟังว่าเคยเจอหมอที่ต้องทำงานนานถึง 36 ชั่วโมงติด ซึ่งกระทบกับการวินิจฉัยอาการป่วยของคนไข้เป็นอย่างมาก และลักษณะงานเช่นนี้ยังคงวนเวียนอยู่ พอๆ กับหมออินเทิร์นที่ต้องวนราวน์วอร์ดต่อไป การเป็นหมออินเทิร์น คือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับคนไข้จริง ทำให้หมอมีทักษะมากขึ้น และตอบคำถามให้ตัวเองได้ว่า มีสาขาเฉพาะทางไหนที่อยากเรียนเพิ่มเติมเพื่อรักษาคนไข้ให้ได้มากขึ้นและดีขึ้นกว่าเดิมอีกหรือไม่ หรือจะพอแค่นี้ ลาออกไปเปิดคลินิกหรือทำงานโรงพยาบาลเอกชน ส่วนเรื่องช่องว่างระหว่างวัยหรือกระแสสังคมที่มองว่า หมออินเทิร์นไม่สู้งาน ไม่อดทน คุณหมอมองว่า เรื่องของความอดทน ไม่ว่าจะเป็นหมอวัยรุ่นหรือหมออาวุโสก็ต่างมีความอดทนที่ต่างกัน หากว่าระบบดี จัดสรรเวลาพักผ่อนที่ดี หมอรุ่นพี่ให้ความช่วยเหลือ สอน แนะนำ หมอรุ่นน้องดี ชีวิตมีความสุขขึ้น ก็อาจจะทำให้หมอหลายคนอยากอยู่ในระบบมากขึ้น

วันนี้ (8 ม.ค.2564) เจ้าหน้าที่เมืองฉือเจียจวง ในมณฑลเหอเป่ย ทางตอนเหนือของจีน เร่งตรวจประชาชนเพื่อหาเชื้อ COVID-19 โดยตั้งจุดตรวจมากกว่า 5,000 แห่ง หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเมืองนี้มากถึง 119 คน

หลังจาก "หมอปุยเมฆ" พญ.นภสร วีระยุทธวิไล หมออินเทิร์น โรงพยาบาลราชบุรี ระบายความในใจในเรื่องการแบกภา

นิยายชีวิต โดย : Muhammad Sukardi
เรื่องและภาพโดย : Muhammad Sukardi
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..