วันนี้ (23 เม.ย.2564) เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่แผนกผู้ป่วยวิกฤต หรือ ไอซียู ของโรงพยาบาลในรัฐมหาราษฏระของ

วันหยุดยาว "สงกรานต์ 2568" กำลังจะเริ่มขึ้น หลายคนต้องเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดเพื่อไปหาครอบครัว และเจอกับสภาพการจราจรที่รถติด ฉะนั้นการขับรถทางไกลช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย อาจทำให้มีอาการง่วงและเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย วันนี้มีคำแนะนำดีดี มาบอกต่อกัน สำนักโภชนาการ กรมอนามัย ให้ข้อมูลว่า การขับรถทางไกลผู้ขับขี่บางรายนิยม "ดื่มกาแฟ" หรือ "เครื่องดื่มชูกำลัง" เพราะมี "สารคาเฟอีน" เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว สามารถขับรถต่อเนื่องได้นาน โดยปกติร่างกายไม่ควรได้รับคาเฟอีนเกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน หากดื่มกาแฟมากกว่า 4 แก้วต่อวัน จะทำให้ร่างกายได้รับคาเฟอีนมากถึง 500 - 1,000 มิลลิกรัม ส่งผลให้เกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว มือสั่น ใจสั่น คลื่นไส้ หลังจากดื่มกาแฟไปแล้วประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง คาเฟอีนจะออกฤทธิ์ ทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น ร่างกายต้องสูญเสียเกลือแร่ คือ โซเดียมและแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะมากขึ้นด้วย ส่วนเครื่องดื่มประเภทชูกำลังมีปริมาณคาเฟอีน 50 มิลลิกรัมและมีปริมาณน้ำตาล 25-26 กรัมต่อขวด แม้หลายคนจะมีความเชื่อว่า เครื่องดื่มชูกำลังจะทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง จึงเป็นสาเหตุให้ละเลยการพักผ่อน ทำให้ยิ่งอ่อนล้าจนมีอาการมึนงง อีกทั้งยังส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว หายใจถี่ ผู้ขับรถทางไกล ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันเดินทาง และควรเปลี่ยนจากเครื่องดื่มชูกำลังมาเป็นดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ 6 – 8 แก้วต่อวันแทน โดยเน้นจิบบ่อย ๆ ระหว่างเดินทาง ** ข้อควรระวัง บริโภคคาแฟอีนมากเกินไปอาจทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหาร ทำใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ นอนไม่หลับ กินผลไม้สดหรือดื่มน้ำผลไม้คั้นสดรสเปรี้ยวที่เป็นแหล่งวิตาม€ƒินซี แทนจะดีกว่า เพราะวิตามินซีจะช่วยต้านความเหนื่อยล้าที่มาจากความเครียดและความกังวลขณะขับรถได้ ดังนี้ ผลไม้รสเปรี้ยวช่วยกระตุ้นระบบประสาท วิตามินบีช่วยลดอาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย และน้ำตาลธรรมชาติจากผลไม้ให้พลังงานช่วยให้ร่างกายตื่นตัว สดชื่น นอกจากนี้ ควรกินอาหารประเภทข้าวแป้งในปริมาณที่อิ่มพอดี ไม่มากเกินไป หากกินมากไปอาจทำให้แน่นทอง แล��ะทำให้รู้สึกง่วงหลังอาหารได้ง่าย รวมทั้งให้เลี่ยงกินผักที่ย่อยยาก เช่น กะหล่ำปลีดิบ ดอกกะหล่ำ ถั่ว หอมใหญ่ หน่อไม้ฝรั่ง และมันฝรั่ง เลี่ยงอาหารที่อาจก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินอาหาร ยกตัวอย่างเช่น ปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ หรืออาหารที่มีกระทิ ซึ่งอาจบูด เสียง่าย และงดเครื่องดื่มที่มีฟอง เช่น โซดา หรือน้ำอัดลมผสมโซดา เพราะมีผลทำให้ท้องอืดเฟ้อและง่วงนอนได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีข้อแนะนำจาก กรมการขนส่งทางบก ขับรถทางไกล ทำไมต้องจอดพักรถ และจะต้องจอดบ่อยแค่ไหน อย่างที่pg ชวน เพื่อน รับ 100บอกว่า การขับรถทางไกลอาจทำให้มีอาการง่วง เหนื่อยล้า และอ่อนเพลีย ฉะนั้นหาก ผู้ขับขี่ได้ผ่อนคลาย พักเติมพลังด้วยกาแฟหรือเติมความสดชื่นด้วยน้ำเย็น เครื่องดื่มรสเปรี้ยว เดินยืดเส้นยืดสาย จะเป็นการช่วยลดอาการง่ˆวง ลดอาการปวดเมื่อยล้าตามร่างกาย ได้ นอกจากนี้ ยังเป็รระบายความร้อนสะสมที่เกิดขึ้นกับยางรถยนต์ อีกด้วย การขับรถทางไกล เมื่อขับอย่างต่อเนื่องจนถึงระยะ 200 กม. หรือทุก ๆ 2-3 ชม. โดยให้จอดพักประมาณ 10-15 และหากดับเครื่องลงจากรถต้องล็อกรถ เพื่อความปลอดภัย ป้องกันทรัพย์สินสูญหาย และมีข้อแนะนำว่า การเปิดฝากระโปรงรถจะช่วยระบายความร้อนได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากไม่เปิดก็ไม่ได้ส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทาง ช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย ควรเช็กรถให้พร้อมใช้งาน ที่สำคัญคือเตรียมร่างกายให้พร้อมขับ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยตลอดเส้นทาง อ่านข่าว : อาลัย "นพ.กัณฑ์เอนก สวีวงศ์" แพทย์ประจำ รพ.ระแงะ ประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิต 3 วันสงกรานต์ตายสะสม 116 คน สาเหตุหลักขับรถเร็ว-ดื่มแล้วขับ How to "กู้ผิว" กลับมาสวยหลังผ่านสมรภูมิ "เล่นน้ำสงกรานต์"

วันหยุดยาว "สงกรานต์ 2568" กำลังจะเริ่มขึ้น หลายคนต้องเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดเพื่อไปหาครอบครัว และเจอกับสภาพการจราจรที่รถติด ฉะนั้นการขับรถทางไกลช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย อาจทำให้มีอาการง่วงและเหนื่อยล้า

วันนี้ (4 ก.ค.2567) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย แจ้งว่า รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู เกิดเหตุรถไฟฟ้

นิยายชีวิต โดย : Muhammad Hafil
เรื่องและภาพโดย : Muhammad Hafil
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..