ทดลอง เล่น super ufa
Konsekuensi atas kemungkinan campur tanganNATOdi U
฿42602
บาท9
ห้องนอน
41
ห้องน้ำ
632
ตร.ม.
฿ 6558
/ ตารางเมตร
ทดลอง เล่น super ufa
Juru bicara sayap bersenjata Hamas, brigade al-Qas
UID: 79252
วันนี้ (28 ก.ค.2567) กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่าเกิดแผ่นดินไหวบนบก ศูนย์กลางที
เครือข่ายแพทย์ -เครือข่ายผู้บริโภค ร้อง รมว.อุตสาหกรรม เร่งรัดมาตรการสังคมไทยไร้แร่ใยหิน แพทย์เผยตรว
เครือข่ายแพทย์ -เครือข่ายผู้บริโภค ร้อง รมว.อุตสาหกรรม เร่งรัดมาตรการสังคมไทยไร้แร่ใยหิน แพทย์เผยตรวจพบผู้ป่วยมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจากแร่ใยหินไคร์โซไทล์ เพิ่มอีก 2 ราย ด้าน ก.อุตฯ ขอเวลา 6 เดือน ทำแผนลดละเลิก “แร่ใยหิน” เครือข่ายแพทย์ -เครือข่ายผู้บริโภค ร้อง รมว.อุตสาหกรรม เร่งรัดมาตรการสังคมไทยไร้แร่ใยหิน เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นพ.อดุลย์ บัณฑุกุล เลขาธิการสมาพันธ์อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน ประกอบด้วย 3 สมาคม คือ สมาคมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย สมาคมการพยาบาลอาชีวอนามัยแห่งประเทศไทย และสมาคมอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน พร้อมด้วย เครือข่ายแผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กว่า 50 คน เป็นตัวแทนจากเครือข่ายนักวิชาการและเครือข่ายภาคประชาสังคม เดินทางมายื่นหนังสือติดตาม “มาตรการสังคมไทยไร้แร่ใยหิน” พร้อมเสนอเอกสารทางวิชาการและข้อมูลทางด้านการแพทย์เพื่อสนับสนุน ตามมติ ครม.วันที่ 12 เม.ย.ทดลอง เล่น super ufa 2554 ให้พิจารณาห้ามนำเข้าแร่ใยหิน โดยขอเข้าพบ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นพ.อดุลย์ เปิดเผยว่า สมาพันธ์อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งมี รศ.นพ.ศุภชัย รัตนมณีฉัตร เป็นนายกสมาพันธ์ฯ ได้ร่วมมือกับองค์กรเครือข่ายต่างๆ โดยเฉพาะเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค ได้ศึกษาถึงอันตรายและผลกระทบของแร่ใยหินทุกชนิดเพื่อสนับสนุนและผลักดันนโยบายที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้แรงงานและประชาชน โดยสมาพันธ์ฯ มีข้อมูลทางวิชาการนำเสนอต่อ รมว. อุตสาหกรรม ดังนี้ 1.มีหลักฐานชัดเจนว่า แร่ใยหินไคร์โซไทล์เป็นสารก่อมะเร็งและก่ออันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ 2.เหตุผลการยกเลิกการใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ทันทีโดยไม่ต้องรอให้เกิดการระบาดอย่างรุนแรงของโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอดในประเทศไทย และ 3.ขอให้ รมว.อุตสาหกรรมเร่งรัดและติดตามมาตรการสังคมไทยไร้แร่ใยหินตามมติ ครม. วันที่ 12 เม.ย.2554 ซึ่งการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ การยกเลิกไม่ให้มีการใช้ไคร์โซไทล์ในผลิตภัณฑ์ โดยมีข้อเสนอของสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ปี 2553 จากภาคประชาชนได้เสนอมาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหินภายในปี 2555 และให้ดำเนินการควบคุมให้แร่ใยหินเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่4 อย่างเร่งด่วนภายในปี 2554 นพ.อดุลย์ กล่าวอีกว่า จากการที่คณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติเห็นชอบไม่ปรับปรุงให้แร่ใยหินไคร์โซไทล์เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้คงไว้เป็นชนิดที่ 3 เหมือนเดิม ทำให้บริษัทผู้ผลิตยังสามารถนำเข้า ผลิต และครอบครองแร่ใยหินไครโซไทล์ได้ และยืดเวลาการห้ามนำเข้าออกไปอีก 1 ปี เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการไม่ปฏิบัติตามมติครม.วันที่ 12 เม.ย. 2554 ที่ระบุว่า “ห้ามผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหินไครโซไทล์ที่ใช้วัตถุดิบอื่นหรือใช้ผลิตภัณฑ์อื่นทดแทนได้” เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ กระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้องแผ่นเรียบ กระเบื้องยาง ท่อน้ำ และผ้าเบรก เป็นกลุ่มที่ใช้แร่ใยหินเป็นวัตถุดิบมากกว่า 90% ซึ่งระบุว่ามีสารทดแทนแล้ว จะเห็นจากการที่บริษัทที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ 2 แห่งคือ บริษัทเอสซีจี จำกัดและบริษัทมหพันธ์ไฟเบอร์ซึ่งมีสัดส่วนการตลาด 70% ได้ยกเลิกการใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ในกระบวนการผลิต ทางสมาพันธ์ฯ และเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค มีความห่วงใยต่อปัญหาดังกล่าว ขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมช่วยผลักดันเชิงนโยบายให้เป็นไปตามมติครม. และกำกับให้กลุ่มธุรกิจของไทยแสดงความรับผิดชอบที่พึงมีต่อสังคม สร้างสุขภาพที่ดีให้แก่แรงงานไทย“ จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุขปี 2551 พบผู้มีความผิดปกติที่มีอาการเข้าได้กับโรคจำนวน 39 ราย และพบผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจากเหตุอาชีพ 1 รายในปี 2553 แอสเบสโตซิส 3 ราย มีอาการเข้าได้กับแอสเบสโตซิส 7 ราย เยื่อหุ้มปอดหนา 37 ราย ที่สำคัญขณะนี้มีการตรวจพบผู้ต้องสงสัยที่อาจป่วยเป็นมะเร็งเยื่อหุ้มปอดที่มีประวัติสัมผัส สูดดมแร่ใยหินอย่างต่อเนื่องเพิ่มอีก 1 ราย ขณะนี้รอการตรวจยืนยันชิ้นเนื้อ และยังมีแรงงาน ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยที่อาจป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจอีก 1 ราย เหตุที่สถิติของอัตราการเกิดโรคยังมีน้อยอยู่นั้น เพราะขาดระบบการบันทึกประวัติการทำงาน ประวัติการสัมผัสที่ต้องเชื่อมโยงกับระบบข้อมูลสุขภาพ ส่งผลต่อระบบการวินิจฉัยโรค รวมทั้งยังขาดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวกับแร่ใยหิน” เลขาธิการสมาพันธ์ฯ กล่าว และว่า ส่วนกรณีที่ผู้ใช้น้ำประปาเกรงว่า ท่อส่งน้ำประปาที่มีส่วนประกอบจากท่อใยหินนั้น เป็นอันตรายหากนำน้ำมาบริโภค ไม่เป็นความจริง เนื่องจากโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจะเกิดจากการสูดดม สัมผัสแร่ใยหินที่ฟุ้งกระจายจากเศษวัสดุเท่านั้น นพ.อดุลย์ กล่าวว่า หากกระทรวงอุตสาหกรรม ยังไม่เร่งออกมาตรการป้องกันและยกเลิกแร่ใยหิน จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพแรงงานไทยและคนไทยอย่างมาก โดยนักวิชาการจากญี่ปุ่นได้ทำวิจัยคาดการณ์ว่าจะมีผู้ป่วยมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจากการสัมผัสแร่ใยหินไคร์โซไทล์ 1,000 รายต่อปี และอนาคตอันใกล้คาดว่าจะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากยังปล่อยให้มีการใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ จะส่งผลกระทบทั้งด้านสุขภาพ ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลมหาศาล และยังไม่นับความสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินของแรงงานไทย สุดท้ายแล้วจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของไทยต่อไป ด้านนายพงษ์เทพ จารุอำพรพรรณ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะผู้รับมอบแทน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ไม่ได้นิ่งเฉย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทำแผนศึกษาการทำลด ละ เลิกการนำเข้าแร่ใยหิน ตามมติ ครม . 12 เม.ย.54 ที่จะให้สังคมไทยไม่ต้องใช้แร่ใยหิน โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ขอเวลาในกำหนดกรอบและวางแนวทาง 6 เดือน จากนั้นจะเปิดให้ภาคีและเครือข่ายต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการยกเลิกการนำเข้าแร่ใยหินไคร์โซไทล์อย่างเป็นระบบต่อไป อย่างไรก็ขณะนี้ต้องขอเวลา เพราะมีผลิตภัณฑ์บางชนิดที่ยังไม่สามารถหาวัตถุดิบอย่างอื่นมาทดแทนแร่ใยหินไคร์โซไทล์ได้ หากประกาศให้แร่ใยหินไคร์โซไทล์เป็น วัถตุอันตรายชนิดที่ 4 ประเทศไทยจะไม่สามารถนำเข้ามาใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตได้เลย เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นพ.อดุลย์ บัณฑุกุล เลขาธิการสมาพันธ์อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน ประกอบด้วย 3 สมาคม คือ สมาคมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย สมาคมการพยาบาลอาชีวอนามัยแห่งประเทศไทย และสมาคมอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน พร้อมด้วย เครือข่ายแผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กว่า 50 คน เป็นตัวแทนจากเครือข่ายนักวิชาการและเครือข่ายภาคประชาสังคม เดินทางมายื่นหนังสือติดตาม “มาตรการสังคมไทยไร้แร่ใยหิน” พร้อมเสนอเอกสารทางวิชาการและข้อมูลทางด้านการแพทย์เพื่อสนับสนุน ตามมติ ครม.วันที่ 12 เม.ย. 2554 ให้พิจารณาห้ามนำเข้าแร่ใยหิน โดยขอเข้าพบ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นพ.อดุลย์ เปิดเผยว่า สมาพันธ์อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งมี รศ.นพ.ศุภชัย รัตนมณีฉัตร เป็นนายกสมาพันธ์ฯ ได้ร่วมมือกับองค์กรเครือข่ายต่างๆ โดยเฉพาะเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค ได้ศึกษาถึงอันตรายและผลกระทบของแร่ใยหินทุกชนิดเพื่อสนับสนุนและผลักดันนโยบายที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้แรงงานและประชาชน โดยสมาพันธ์ฯ มีข้อมูลทางวิชาการนำเสนอต่อ รมว. อุตสาหกรรม ดังนี้ 1.มีหลักฐานชัดเจนว่า แร่ใยหินไคร์โซไทล์เป็นสารก่อมะเร็งและก่ออันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ 2.เหตุผลการยกเลิกการใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ทันทีโดยไม่ต้องรอให้เกิดการระบาดอย่างรุนแรงของโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอดในประเทศไทย และ 3.ขอให้ รมว.อุตสาหกรรมเร่งรัดและติดตามมาตรการสังคมไทยไร้แร่ใยหินตามมติ ครม. วันที่ 12 เม.ย.2554 ซึ่งการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ การยกเลิกไม่ให้มีการใช้ไคร์โซไทล์ในผลิตภัณฑ์ โดยมีข้อเสนอของสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ปี 2553 จากภาคประชาชนได้เสนอมาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหินภายในปี 2555 และให้ดำเนินการควบคุมให้แร่ใยหินเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่4 อย่างเร่งด่วนภายในปี 2554 นพ.อดุลย์ กล่าวอีกว่า จากการที่คณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติเห็นชอบไม่ปรับปรุงให้แร่ใยหินไคร์โซไทล์เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้คงไว้เป็นชนิดที่ 3 เหมือนเดิม ทำให้บริษัทผู้ผลิตยังสามารถนำเข้า ผลิต และครอบครองแร่ใยหินไครโซไทล์ได้ และยืดเวลาการห้ามนำเข้าออกไปอีก 1 ปี เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการไม่ปฏิบัติตามมติครม.วันที่ 12 เม.ย. 2554 ที่ระบุว่า “ห้ามผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหินไครโซไทล์ที่ใช้วัตถุดิบอื่นหรือใช้ผลิตภัณฑ์อื่นทดแทนได้” เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ กระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้องแผ่นเรียบ กระเบื้องยาง ท่อน้ำ และผ้าเบรก เป็นกลุ่มที่ใช้แร่ใยหินเป็นวัตถุดิบมากกว่า 90% ซึ่งระบุว่ามีสารทดแทนแล้ว จะเห็นจากการที่บริษัทที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ 2 แห่งคือ บริษัทเอสซีจี จำกัดและบริษัทมหพันธ์ไฟเบอร์ซึ่งมีสัดส่วนการตลาด 70% ได้ยกเลิกการใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ในกระบวนการผลิต ทางสมาพันธ์ฯ และเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค มีความห่วงใยต่อปัญหาดังกล่าว ขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมช่วยผลักดันเชิงนโยบายให้เป็นไปตามมติครม. และกำกับให้กลุ่มธุรกิจของไทยแสดงความรับผิดชอบที่พึงมีต่อสังคม สร้างสุขภาพที่ดีให้แก่แรงงานไทย“ จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุขปี 2551 พบผู้มีความผิดปกติที่มีอาการเข้าได้กับโรคจำนวน 39 ราย และพบผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจากเหตุอาชีพ 1 รายในปี 2553 แอสเบสโตซิส 3 ราย มีอาการเข้าได้กับแอสเบสโตซิส 7 ราย เยื่อหุ้มปอดหนา 37 ราย ที่สำคัญขณะนี้มีการตรวจพบผู้ต้องสงสัยที่อาจป่วยเป็นมะเร็งเยื่อหุ้มปอดที่มีประวัติสัมผัส สูดดมแร่ใยหินอย่างต่อเนื่องเพิ่มอีก 1 ราย ขณะนี้รอการตรวจยืนยันชิ้นเนื้อ และยังมีแรงงาน ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยที่อาจป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจอีก 1 ราย เหตุที่สถิติของอัตราการเกิดโรคยังมีน้อยอยู่นั้น เพราะขาดระบบการบันทึกประวัติการทำงาน ประวัติการสัมผัสที่ต้องเชื่อมโยงกับระบบข้อมูลสุขภาพ ส่งผลต่อระบบการวินิจฉัยโรค รวมทั้งยังขาดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวกับแร่ใยหิน” เลขาธิการสมาพันธ์ฯ กล่าว และว่า ส่วนกรณีที่ผู้ใช้น้ำประปาเกรงว่า ท่อส่งน้ำประปาที่มีส่วนประกอบจากท่อใยหินนั้น เป็นอันตรายหากนำน้ำมาบริโภค ไม่เป็นความจริง เนื่องจากโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจะเกิดจากการสูดดม สัมผัสแร่ใยหินที่ฟุ้งกระจายจากเศษวัสดุเท่านั้น นพ.อดุลย์ กล่าวว่า หากกระทรวงอุตสาหกรรม ยังไม่เร่งออกมาตรการป้องกันและยกเลิกแร่ใยหิน จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพแรงงานไทยและคนไทยอย่างมาก โดยนักวิชาการจากญี่ปุ่นได้ทำวิจัยคาดการณ์ว่าจะมีผู้ป่วยมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจากการสัมผัสแร่ใยหินไคร์โซไทล์ 1,000 รายต่อปี และอนาคตอันใกล้คาดว่าจะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากยังปล่อยให้มีการใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ จะส่งผลกระทบทั้งด้านสุขภาพ ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลมหาศาล และยังไม่นับความสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินของแรงงานไทย สุดท้ายแล้วจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของไทยต่อไป ด้านนายพงษ์เทพ จารุอำพรพรรณ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะผู้รับมอบแทน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ไม่ได้นิ่งเฉย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทำแผนศึกษาการทำลด ละ เลิกการนำเข้าแร่ใยหิน ตามมติ ครม . 12 เม.ย.54 ที่จะให้สังคมไทยไม่ต้องใช้แร่ใยหิน โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ขอเวลาในกำหนดกรอบและวางแนวทาง 6 เดือน จากนั้นจะเปิดให้ภาคีและเครือข่ายต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการยกเลิกการนำเข้าแร่ใยหินไคร์โซไทล์อย่างเป็นระบบต่อไป อย่างไรก็ขณะนี้ต้องขอเวลา เพราะมีผลิตภัณฑ์บางชนิดที่ยังไม่สามารถหาวัตถุดิบอย่างอื่นมาทดแทนแร่ใยหินไคร์โซไทล์ได้ หากประกาศให้แร่ใยหินไคร์โซไทล์เป็น วัถตุอันตรายชนิดที่ 4 ประเทศไทยจะไม่สามารถนำเข้ามาใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตได้เลย
“บ้านน้ำราบ” ชุมชนริมชายฝั่งตั้งอยู่ที่ ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง เดิมชุมชนแห่งนี้ชื่อ “บ้านน้ำรอบ” เ
วันนี้ (28 ก.ค.2567) กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่าเกิดแผ่นดินไหวบนบก ศูนย์กลางที
เครือข่ายแพทย์ -เครือข่ายผู้บริโภค ร้อง รมว.อุตสาหกรรม เร่งรัดมาตรการสังคมไทยไร้แร่ใยหิน แพทย์เผยตรว
เครือข่ายแพทย์ -เครือข่ายผู้บริโภค ร้อง รมว.อุตสาหกรรม เร่งรัดมาตรการสังคมไทยไร้แร่ใยหิน แพทย์เผยตรวจพบผู้ป่วยมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจากแร่ใยหินไคร์โซไทล์ เพิ่มอีก 2 ราย ด้าน ก.อุตฯ ขอเวลา 6 เดือน ทำแผนลดละเลิก “แร่ใยหิน” เครือข่ายแพทย์ -เครือข่ายผู้บริโภค ร้อง รมว.อุตสาหกรรม เร่งรัดมาตรการสังคมไทยไร้แร่ใยหิน เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นพ.อดุลย์ บัณฑุกุล เลขาธิการสมาพันธ์อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน ประกอบด้วย 3 สมาคม คือ สมาคมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย สมาคมการพยาบาลอาชีวอนามัยแห่งประเทศไทย และสมาคมอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน พร้อมด้วย เครือข่ายแผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กว่า 50 คน เป็นตัวแทนจากเครือข่ายนักวิชาการและเครือข่ายภาคประชาสังคม เดินทางมายื่นหนังสือติดตาม “มาตรการสังคมไทยไร้แร่ใยหิน” พร้อมเสนอเอกสารทางวิชาการและข้อมูลทางด้านการแพทย์เพื่อสนับสนุน ตามมติ ครม.วันที่ 12 เม.ย.ทดลอง เล่น super ufa 2554 ให้พิจารณาห้ามนำเข้าแร่ใยหิน โดยขอเข้าพบ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นพ.อดุลย์ เปิดเผยว่า สมาพันธ์อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งมี รศ.นพ.ศุภชัย รัตนมณีฉัตร เป็นนายกสมาพันธ์ฯ ได้ร่วมมือกับองค์กรเครือข่ายต่างๆ โดยเฉพาะเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค ได้ศึกษาถึงอันตรายและผลกระทบของแร่ใยหินทุกชนิดเพื่อสนับสนุนและผลักดันนโยบายที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้แรงงานและประชาชน โดยสมาพันธ์ฯ มีข้อมูลทางวิชาการนำเสนอต่อ รมว. อุตสาหกรรม ดังนี้ 1.มีหลักฐานชัดเจนว่า แร่ใยหินไคร์โซไทล์เป็นสารก่อมะเร็งและก่ออันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ 2.เหตุผลการยกเลิกการใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ทันทีโดยไม่ต้องรอให้เกิดการระบาดอย่างรุนแรงของโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอดในประเทศไทย และ 3.ขอให้ รมว.อุตสาหกรรมเร่งรัดและติดตามมาตรการสังคมไทยไร้แร่ใยหินตามมติ ครม. วันที่ 12 เม.ย.2554 ซึ่งการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ การยกเลิกไม่ให้มีการใช้ไคร์โซไทล์ในผลิตภัณฑ์ โดยมีข้อเสนอของสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ปี 2553 จากภาคประชาชนได้เสนอมาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหินภายในปี 2555 และให้ดำเนินการควบคุมให้แร่ใยหินเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่4 อย่างเร่งด่วนภายในปี 2554 นพ.อดุลย์ กล่าวอีกว่า จากการที่คณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติเห็นชอบไม่ปรับปรุงให้แร่ใยหินไคร์โซไทล์เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้คงไว้เป็นชนิดที่ 3 เหมือนเดิม ทำให้บริษัทผู้ผลิตยังสามารถนำเข้า ผลิต และครอบครองแร่ใยหินไครโซไทล์ได้ และยืดเวลาการห้ามนำเข้าออกไปอีก 1 ปี เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการไม่ปฏิบัติตามมติครม.วันที่ 12 เม.ย. 2554 ที่ระบุว่า “ห้ามผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหินไครโซไทล์ที่ใช้วัตถุดิบอื่นหรือใช้ผลิตภัณฑ์อื่นทดแทนได้” เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ กระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้องแผ่นเรียบ กระเบื้องยาง ท่อน้ำ และผ้าเบรก เป็นกลุ่มที่ใช้แร่ใยหินเป็นวัตถุดิบมากกว่า 90% ซึ่งระบุว่ามีสารทดแทนแล้ว จะเห็นจากการที่บริษัทที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ 2 แห่งคือ บริษัทเอสซีจี จำกัดและบริษัทมหพันธ์ไฟเบอร์ซึ่งมีสัดส่วนการตลาด 70% ได้ยกเลิกการใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ในกระบวนการผลิต ทางสมาพันธ์ฯ และเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค มีความห่วงใยต่อปัญหาดังกล่าว ขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมช่วยผลักดันเชิงนโยบายให้เป็นไปตามมติครม. และกำกับให้กลุ่มธุรกิจของไทยแสดงความรับผิดชอบที่พึงมีต่อสังคม สร้างสุขภาพที่ดีให้แก่แรงงานไทย“ จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุขปี 2551 พบผู้มีความผิดปกติที่มีอาการเข้าได้กับโรคจำนวน 39 ราย และพบผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจากเหตุอาชีพ 1 รายในปี 2553 แอสเบสโตซิส 3 ราย มีอาการเข้าได้กับแอสเบสโตซิส 7 ราย เยื่อหุ้มปอดหนา 37 ราย ที่สำคัญขณะนี้มีการตรวจพบผู้ต้องสงสัยที่อาจป่วยเป็นมะเร็งเยื่อหุ้มปอดที่มีประวัติสัมผัส สูดดมแร่ใยหินอย่างต่อเนื่องเพิ่มอีก 1 ราย ขณะนี้รอการตรวจยืนยันชิ้นเนื้อ และยังมีแรงงาน ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยที่อาจป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจอีก 1 ราย เหตุที่สถิติของอัตราการเกิดโรคยังมีน้อยอยู่นั้น เพราะขาดระบบการบันทึกประวัติการทำงาน ประวัติการสัมผัสที่ต้องเชื่อมโยงกับระบบข้อมูลสุขภาพ ส่งผลต่อระบบการวินิจฉัยโรค รวมทั้งยังขาดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวกับแร่ใยหิน” เลขาธิการสมาพันธ์ฯ กล่าว และว่า ส่วนกรณีที่ผู้ใช้น้ำประปาเกรงว่า ท่อส่งน้ำประปาที่มีส่วนประกอบจากท่อใยหินนั้น เป็นอันตรายหากนำน้ำมาบริโภค ไม่เป็นความจริง เนื่องจากโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจะเกิดจากการสูดดม สัมผัสแร่ใยหินที่ฟุ้งกระจายจากเศษวัสดุเท่านั้น นพ.อดุลย์ กล่าวว่า หากกระทรวงอุตสาหกรรม ยังไม่เร่งออกมาตรการป้องกันและยกเลิกแร่ใยหิน จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพแรงงานไทยและคนไทยอย่างมาก โดยนักวิชาการจากญี่ปุ่นได้ทำวิจัยคาดการณ์ว่าจะมีผู้ป่วยมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจากการสัมผัสแร่ใยหินไคร์โซไทล์ 1,000 รายต่อปี และอนาคตอันใกล้คาดว่าจะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากยังปล่อยให้มีการใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ จะส่งผลกระทบทั้งด้านสุขภาพ ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลมหาศาล และยังไม่นับความสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินของแรงงานไทย สุดท้ายแล้วจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของไทยต่อไป ด้านนายพงษ์เทพ จารุอำพรพรรณ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะผู้รับมอบแทน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ไม่ได้นิ่งเฉย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทำแผนศึกษาการทำลด ละ เลิกการนำเข้าแร่ใยหิน ตามมติ ครม . 12 เม.ย.54 ที่จะให้สังคมไทยไม่ต้องใช้แร่ใยหิน โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ขอเวลาในกำหนดกรอบและวางแนวทาง 6 เดือน จากนั้นจะเปิดให้ภาคีและเครือข่ายต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการยกเลิกการนำเข้าแร่ใยหินไคร์โซไทล์อย่างเป็นระบบต่อไป อย่างไรก็ขณะนี้ต้องขอเวลา เพราะมีผลิตภัณฑ์บางชนิดที่ยังไม่สามารถหาวัตถุดิบอย่างอื่นมาทดแทนแร่ใยหินไคร์โซไทล์ได้ หากประกาศให้แร่ใยหินไคร์โซไทล์เป็น วัถตุอันตรายชนิดที่ 4 ประเทศไทยจะไม่สามารถนำเข้ามาใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตได้เลย เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่กระทรวงอุตสาหกรรม นพ.อดุลย์ บัณฑุกุล เลขาธิการสมาพันธ์อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน ประกอบด้วย 3 สมาคม คือ สมาคมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย สมาคมการพยาบาลอาชีวอนามัยแห่งประเทศไทย และสมาคมอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน พร้อมด้วย เครือข่ายแผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กว่า 50 คน เป็นตัวแทนจากเครือข่ายนักวิชาการและเครือข่ายภาคประชาสังคม เดินทางมายื่นหนังสือติดตาม “มาตรการสังคมไทยไร้แร่ใยหิน” พร้อมเสนอเอกสารทางวิชาการและข้อมูลทางด้านการแพทย์เพื่อสนับสนุน ตามมติ ครม.วันที่ 12 เม.ย. 2554 ให้พิจารณาห้ามนำเข้าแร่ใยหิน โดยขอเข้าพบ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นพ.อดุลย์ เปิดเผยว่า สมาพันธ์อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งมี รศ.นพ.ศุภชัย รัตนมณีฉัตร เป็นนายกสมาพันธ์ฯ ได้ร่วมมือกับองค์กรเครือข่ายต่างๆ โดยเฉพาะเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค ได้ศึกษาถึงอันตรายและผลกระทบของแร่ใยหินทุกชนิดเพื่อสนับสนุนและผลักดันนโยบายที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้แรงงานและประชาชน โดยสมาพันธ์ฯ มีข้อมูลทางวิชาการนำเสนอต่อ รมว. อุตสาหกรรม ดังนี้ 1.มีหลักฐานชัดเจนว่า แร่ใยหินไคร์โซไทล์เป็นสารก่อมะเร็งและก่ออันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ 2.เหตุผลการยกเลิกการใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ทันทีโดยไม่ต้องรอให้เกิดการระบาดอย่างรุนแรงของโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอดในประเทศไทย และ 3.ขอให้ รมว.อุตสาหกรรมเร่งรัดและติดตามมาตรการสังคมไทยไร้แร่ใยหินตามมติ ครม. วันที่ 12 เม.ย.2554 ซึ่งการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ การยกเลิกไม่ให้มีการใช้ไคร์โซไทล์ในผลิตภัณฑ์ โดยมีข้อเสนอของสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ปี 2553 จากภาคประชาชนได้เสนอมาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหินภายในปี 2555 และให้ดำเนินการควบคุมให้แร่ใยหินเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่4 อย่างเร่งด่วนภายในปี 2554 นพ.อดุลย์ กล่าวอีกว่า จากการที่คณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติเห็นชอบไม่ปรับปรุงให้แร่ใยหินไคร์โซไทล์เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้คงไว้เป็นชนิดที่ 3 เหมือนเดิม ทำให้บริษัทผู้ผลิตยังสามารถนำเข้า ผลิต และครอบครองแร่ใยหินไครโซไทล์ได้ และยืดเวลาการห้ามนำเข้าออกไปอีก 1 ปี เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการไม่ปฏิบัติตามมติครม.วันที่ 12 เม.ย. 2554 ที่ระบุว่า “ห้ามผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหินไครโซไทล์ที่ใช้วัตถุดิบอื่นหรือใช้ผลิตภัณฑ์อื่นทดแทนได้” เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ กระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้องแผ่นเรียบ กระเบื้องยาง ท่อน้ำ และผ้าเบรก เป็นกลุ่มที่ใช้แร่ใยหินเป็นวัตถุดิบมากกว่า 90% ซึ่งระบุว่ามีสารทดแทนแล้ว จะเห็นจากการที่บริษัทที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ 2 แห่งคือ บริษัทเอสซีจี จำกัดและบริษัทมหพันธ์ไฟเบอร์ซึ่งมีสัดส่วนการตลาด 70% ได้ยกเลิกการใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ในกระบวนการผลิต ทางสมาพันธ์ฯ และเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค มีความห่วงใยต่อปัญหาดังกล่าว ขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมช่วยผลักดันเชิงนโยบายให้เป็นไปตามมติครม. และกำกับให้กลุ่มธุรกิจของไทยแสดงความรับผิดชอบที่พึงมีต่อสังคม สร้างสุขภาพที่ดีให้แก่แรงงานไทย“ จากรายงานของกระทรวงสาธารณสุขปี 2551 พบผู้มีความผิดปกติที่มีอาการเข้าได้กับโรคจำนวน 39 ราย และพบผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจากเหตุอาชีพ 1 รายในปี 2553 แอสเบสโตซิส 3 ราย มีอาการเข้าได้กับแอสเบสโตซิส 7 ราย เยื่อหุ้มปอดหนา 37 ราย ที่สำคัญขณะนี้มีการตรวจพบผู้ต้องสงสัยที่อาจป่วยเป็นมะเร็งเยื่อหุ้มปอดที่มีประวัติสัมผัส สูดดมแร่ใยหินอย่างต่อเนื่องเพิ่มอีก 1 ราย ขณะนี้รอการตรวจยืนยันชิ้นเนื้อ และยังมีแรงงาน ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยที่อาจป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจอีก 1 ราย เหตุที่สถิติของอัตราการเกิดโรคยังมีน้อยอยู่นั้น เพราะขาดระบบการบันทึกประวัติการทำงาน ประวัติการสัมผัสที่ต้องเชื่อมโยงกับระบบข้อมูลสุขภาพ ส่งผลต่อระบบการวินิจฉัยโรค รวมทั้งยังขาดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวกับแร่ใยหิน” เลขาธิการสมาพันธ์ฯ กล่าว และว่า ส่วนกรณีที่ผู้ใช้น้ำประปาเกรงว่า ท่อส่งน้ำประปาที่มีส่วนประกอบจากท่อใยหินนั้น เป็นอันตรายหากนำน้ำมาบริโภค ไม่เป็นความจริง เนื่องจากโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจะเกิดจากการสูดดม สัมผัสแร่ใยหินที่ฟุ้งกระจายจากเศษวัสดุเท่านั้น นพ.อดุลย์ กล่าวว่า หากกระทรวงอุตสาหกรรม ยังไม่เร่งออกมาตรการป้องกันและยกเลิกแร่ใยหิน จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพแรงงานไทยและคนไทยอย่างมาก โดยนักวิชาการจากญี่ปุ่นได้ทำวิจัยคาดการณ์ว่าจะมีผู้ป่วยมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจากการสัมผัสแร่ใยหินไคร์โซไทล์ 1,000 รายต่อปี และอนาคตอันใกล้คาดว่าจะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากยังปล่อยให้มีการใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ จะส่งผลกระทบทั้งด้านสุขภาพ ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลมหาศาล และยังไม่นับความสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินของแรงงานไทย สุดท้ายแล้วจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของไทยต่อไป ด้านนายพงษ์เทพ จารุอำพรพรรณ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะผู้รับมอบแทน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ไม่ได้นิ่งเฉย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทำแผนศึกษาการทำลด ละ เลิกการนำเข้าแร่ใยหิน ตามมติ ครม . 12 เม.ย.54 ที่จะให้สังคมไทยไม่ต้องใช้แร่ใยหิน โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ขอเวลาในกำหนดกรอบและวางแนวทาง 6 เดือน จากนั้นจะเปิดให้ภาคีและเครือข่ายต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการยกเลิกการนำเข้าแร่ใยหินไคร์โซไทล์อย่างเป็นระบบต่อไป อย่างไรก็ขณะนี้ต้องขอเวลา เพราะมีผลิตภัณฑ์บางชนิดที่ยังไม่สามารถหาวัตถุดิบอย่างอื่นมาทดแทนแร่ใยหินไคร์โซไทล์ได้ หากประกาศให้แร่ใยหินไคร์โซไทล์เป็น วัถตุอันตรายชนิดที่ 4 ประเทศไทยจะไม่สามารถนำเข้ามาใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตได้เลย
“บ้านน้ำราบ” ชุมชนริมชายฝั่งตั้งอยู่ที่ ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง เดิมชุมชนแห่งนี้ชื่อ “บ้านน้ำรอบ” เ
สิ่งอำนวยความสะดวก
การตกแต่ง
เครื่องปรับอากาศ
ชั้นบน
เตาอบ/ไมโครเวฟ
ความสะดวกโดยรอบ
กล้องวงจรปิด
เครืองปรับอากาศ
โถงรอลิฟท์ร้านอาหาร
ทางเข้าหลัก
ยอดสินเชื่อโดยประมาณ
รายละเอียดสินเชื่อ
ยอดสินเชื่อที่ต้องชำระต่อเดือนโดยประมาณ
฿ 0 / เดือน
฿ 0 เงินต้น
฿ 0 ดอกเบี้ย
ค่าใช้จ่ายที่อาจต้องมีเบื้องต้น
เงินดาวน์ทั้งหมด
฿ 0
เงินดาวน์
จำนวนสินเชื่อ ฿ 0 ในอัตรา 0% ของสินเชื่อต่อราคาบ้าน (Loan-to-value)
Bandara Sultan Mahmud Badaruddin (SMB) II di Kota

Kota Semarang – Ketika Kita melangkah menuju tanggal 18 Oktober 2024, Kota Semarang diprediksi akan mengalamicuacayang bervariasi sepanjang hari, mulai dari langit cerah hingga berawan. Pada hari ters
ดูรายละเอียดโครงการคำถามที่พบบ่อย
Kepolisian Resor Ngawi sampai saat ini masih mencari bagian tubuh wanita korban mutilasi yang ditemu
Kota Banda Aceh dan sekitarnya – Hari ini, wilayah Kota Banda Aceh mengalami dominasicuacacerah bera
Mantan Gubernur Jawa Barat yang juga Wakil Ketua Majelis Syura PKSAhmad Heryawanmengaku mendadak dit
Atlet panjat tebingVeddriq Leonardoberhasil menyumbangkan emas perdana bagi Indonesia di Olimpiade P
Kota Denpasar, Bali dan sekitarnya menikmaticuacayang berubah-ubah sepanjang hari ini. Hari dimulai
ค้นหาประกาศอื่นรอบๆ ทุ่งพญาไท
จากสิ่งที่คุณค้นหา คุณอาจจะสนใจตัวเลือกต่อไปนี้
เว็บ slot ออนไลน์ทดลอง pg เกม ใหม่สมัคร จี คลับ 168
โปรแกรม บอล ผล บอล สดM98บ้าน ผล บอล เมื่อ คืน บ้าน ผล บอล เมื่อ คืน