ปูพรมตามล่างูจงอาง จ.ตรัง แต่ยังพบ

วันนี้ (6 พ.ย.2564) จากกรณีที่ศาสตราจารย์ ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษา ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสื่อสารการเมืองและสังคม มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช หลังจากปรากฏผลโพลล์ว่า นายจุรินทร์ ลั

เมื่อวันที่ 23 ก.ย.2567 น.ส.นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว นักเขียนชื่อดัง โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุถึง 

วันนี้ (9 เม.ย.2564) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รายงานยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบเพิ่มอีก 30 คน ทำให้ขณะนี้มีผู้ป่วยจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่สะสมรวม 60 คน สำหรับ

สิงคโปร์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ยกเลิกกฎหมายความมั่นคงภายใน หลังจากมาเลเซียประกาศจะยกเลิกกฎหมายนี้ รวมทั้งจะผ่อนปรนกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการประท้วง และการรายงานข่าวของสื่อมวลชน กลุ่มสิทธิมนุษยชน และกลุ่มฝ่ายค้านระบุว่าสิงคโปร์จำเป็นต้องยกเลิกกฎหมายความมั่นคงภายใน หรือ ไอเอสเอ ซึ่งอนุญาตให้มีการควบคุมตัวโดยปราศจากการไต่สวนได้ และนักวิจารณ์มองว่ากฎหมายนี้เป็นเครื่องมือในการกำจัดผู้ที่แข็งข้อต่อรัฐบาล สิงคโปร์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันนี้ หลังจากนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะยกเลิกกฎหมายไอเอสเอ และจะผ่อนปรนกฎหมายอื่นๆ ที่ถูกมองว่าเป็นการจำกัดสิทธิพลเมือง รวมถึงกฎเกณฑ์ในการประท้วงและการต่อใบอนุญาตของสื่อมวลชน แต่สิงคโปร์ยังคงยืนกรานที่จะคงไอเอสเอไว้ต่อไป เพื่อรักษาความเป็นเอกภาพของสังคม เดิมที กฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้จัดการกับกองโจรคอมมิวนิสต์ในสมัยที่ทั้งสิงคโปร์ และมาเลเซียตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของอังกฤษในช่วงทศวรรษที่ 1960 ต่อมาสิงคโปร์เป็นอิสระจากมาเลเซียในปี 2508 และทั้ง 2 ประเทศยังบังคับใช้กฎหมายนี้ต่อไป รัฐมนตรีมหาดไทยของสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ว่า ไอเอสเอถูกใช้เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับบ่อนทำลายประเทศ ความรุนแรงด้านเชื้อชาติและศาสนา การก่อการร้าย และสายลับ แต่ไม่ได้ใช้เพื่อกำจัดผู้แข็งข้อทางการเมือง และไม่เคยมีใครถูกควบคุมตัวเพราะเหตุผลความเชื่อทางการเมือง โดยผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายอิสลาม 3 คน ซึ่งถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่สิงคโปร์ ก็กำลังถูกควบคุมตัวด้วยกฎหมายนี้ ขณะที่ผลการสำรวจความคิดเห็น และเว็บไซต์ทางการเมืองอิสระต่างๆเริ่มเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายนี้ โดยเห็นว่าสิงคโปร์จะพัฒนาด้านสิทธิมนุษยชน์อย่างก้าวกระโดด หากเลียนแบบมาเลเซียในการยกเลิกกฎหมายนี้ กลุ่มสิทธิมนุษยชน และกลุ่มฝ่ายค้านระบุว่าสิงคโปร์จำเป็นต้องยกเลิกกฎหมายความมั่นคงภายใน หรือ ไอเอสเอ ซึ่งอนุญาตให้มีการควบคุมตัวโดยปราศจากการไต่สวนได้ และนักวิจารณ์มองว่ากฎหมายนี้เป็นเครื่องมือในการกำจัดผู้ที่แข็งข้อต่อรัฐบาล สิงคโปร์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันนี้ หลังจากนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะยกเลิกกฎหมายไอเอสเอ และจะผ่อนปรนกฎหมายอื่นๆ ที่ถูกมองว่าเป็นการจำกัดสิทธิพลเมือง รวมถึงกฎเกณฑ์ในการประท้วงและการต่อใบอนุญาตของสื่อมวลชน แต่สิงคโปร์ยังคงยืนกรานที่จะคงไอเอสเอไว้ต่อไป เพื่อรักษาความเป็นเอกภาพของสังคม เดิมที กฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้จัดการกับกองโจรคอมมิวนิสต์ในสมัยที่ทั้งสิงคโปร์ และมาเลเซียตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของอังกฤษในช่วงทศวรรษที่ 1960 ต่อมาสิงคโปร์เป็นอิสระจากมาเลเซียในปี 2508 และทั้ง 2 ประเทศยังบังคับใช้กฎหมายนี้ต่อไป รัฐมนตรีมหาดไทยของสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ว่า ไอเอสเอถูกใช้เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องกับบ่อนทำลายประเทศ ความรุนแรงด้านเชื้อชาติและศาสนา การก่อการร้าย และสายลับ แต่ไม่ได้ใช้เพื่อกำจัดผู้แข็งข้อทางกยิงปลา แจกเครดิตฟรี ไม่ต้องฝากM98สมัคร สล็อต แจก เครดิต ฟรีารเมือง และไม่เคยมีใครถูกควบคุมตัวเพราะเหตุผลความเชื่อทางการเมือง โดยผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายอิสลาม 3 คน ซึ่งถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่สิงคโปร์ ก็กำลังถูกควบคุมตัวด้วยกฎหมายนี้ ขณะที่ผลการสำรวจความคิดเห็น และเว็บไซต์ทางการเมืองอิสระต่างๆเริ่มเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายนี้ โดยเห็นว่าสิงคโปร์จะพัฒนาด้านสิทธิมนุษยชน์อย่างก้าวกระโดด หากเลียนแบบมาเลเซียในการยกเลิกกฎหมายนี้

สิงคโปร์ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ยกเลิกกฎหมายความมั่นคงภายใน หลังจากมาเลเซียประกาศจะยกเลิกกฎหมายนี้ รวมทั้งจะผ่อนปรนกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการประท้วง และการรายงานข่าวของสื่อมวลชน กลุ่มสิทธิมนุษยชน และกลุ่มฝ่าย