Home
|
ทดลอง เล่น spinomenalแคน ดี้ เบิ ร์ ส

ความคืบหน้ากรณีตำรวจกองปราบปรามดำเนินการตรวจสอบเอา

ทดลอง เล่น spinomenalแคน ดี้ เบิ ร์ ส

วันนี้ (18 ก.พ.2565) ในการอภิปรายทั่วไป เวลา 22.35 น. นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายประเด็นรถไฟชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ก่อสร้าง 14 ปี มูลค่า 104,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 สัญญา โดย

เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2567 นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้รวบรวมผลการตรวจวิเคราะห์น้ำกระท่อมที่ส่งตรวจ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ที่เริ่มมีการปลดล็อค "

วันนี้ (24 มี.ค.2568) สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง เรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาควบคุมราคาค่ารักษาพยาบาลและเวชภัณฑ์ของ รพ.เอกชน หลังพบว่ามีการตั้งราคาสูงเกินจริงอย่างน่าตกใจ โดยยกตัวอย่างเวชภัณฑ์ 4 ชนิดที่เปรียบเทียบราคาท้องตลาดกับราคาที่ รพ.เอกชน เรียกเก็บ ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาที่ผู้บริโภคต้องเผชิญมานาน มีการเปิดเผยข้อมูล ดังนี้ ข้อมูลเหล่านี้มาจากใบเสร็จที่ผู้บริโภคนำมาร้องเรียนกับสภาฯ แสดงให้เห็นว่าราคาค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนกำลังสร้างภาระหนักให้ประชาชน ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ย้อนไปเมื่อวันที่ 20 มี.ค.2568 สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ยื่นหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อขอให้ทบทวนนโยบาย "ร่วมจ่าย" (Co-payment) ในสัญญาประกันภัยสุขภาพ เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากบ่นว่าการต้องร่วมจ่ายร้อยละ 30-50 นั้นสูงเกินไป โดยนายภัทรกร ทีปบุญรัตน์ รองหัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค อธิบายว่า ตามคำสั่งของ คปภ. หากผู้เอาประกันเคลมสินไหมเกินร้อยละ 200 ของเบี้ยประกัน หรือเคลมเกิน 3 ครั้งในโรคที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล จะต้องเริ่ม "ร่วมจ่าย" ในปีถัดไป และถ้าเคลมเกินร้อยละ 400 ในโรคทั่วไป (ไม่นับผ่าตัดใหญ่) จะต้องจ่ายร้อยละ 30 หรือสูงสุดร้อยละ 50 หากเข้าเงื่อนไขทั้ง 2 กรณี ปัญหาคือ เมื่อรวมกับราคาค่ารักษาและเวชภัณฑ์ที่สูงเกินจริงจาก รพ.เอกชน ผู้บริโภคยิ่งแบกรับภาระหนักเข้าไปอีก วันถัดมา วันที่ 21 มี.ค.2568 สภาฯ ได้จัดรายการ "สภาผู้บริโภค LIVE" ผ่านเพจเฟซบุ๊ก เพื่อเปิดเวทีพูดคุยในหัวข้อ "เคลียร์ชัด Co-payment เคลมเยอะ ต้องร่วมจ่าย เพราะ รพ.เอกชนแพง บัตรทองคือทางรอด" โดยนายภัทรกรชี้ว่า การที่ รพ.เอกชน คิดราคาค่ารักษาและเวชภัณฑ์สูงเกินจริง เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ค่ารักษาพุ่ง และการผลักภาระให้ผู้บริโภคร่วมจ่ายไม่ใช่คำตอบที่ยุติธรรม โดยตั้งคำถามว่า ทำไมไม่แก้ที่ต้นเหตุ ทำไมกระทรวงพาณิชย์ไม่เข้ามาควบคุมราคาค่ารักษาและเวชภัณฑ์ที่แพงเกินจริง แทนที่จะปล่อยให้ประชาชนต้องจ่ายแพงขึ้นเรื่อยๆ ที่ผ่านมา สภาฯ พยายามผลักดันให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามากำกับราคาค่ารักษาพยาบาลและเวชภัณฑ์ในโรงพยาบาลเอกชน แต่ไม่ได้รับการตอบรับ โดยกระทรวงฯ อ้างว่าเวชภัณฑ์เหล่านี้ไม่ใช่สินค้าควบคุม และไม่สามารถจัดการได้เหมือนยาในโรงพยาบาล สถานการณ์นี้ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากรู้สึกว่าถูกทิ้งให้เผชิญปัญหาคนเดียว โดยเฉพาะเมื่อต้องจ่ายค่ารักษาที่สูงเกินสมควรควบคู่กับนโยบายร่วมจ่ายจากประกัน ทั้งนี้ สภาองค์กรของผู้บริโภค ยังเรียกร้องให้ประชาชนที่เจอปัญหาค่ารักษาแพงเกินจริงเก็บใบเสร็จและหลักฐานต่าง ๆ มาร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1502 เพื่อรวบรวมข้อมูลและผลักดันการแก้ไขอย่างเป็นระบบต่อไป "เราต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่ปล่อยให้ผู้บริโภคแบกภาระต่อไป" นายภัทรกรย้ำ อ่านข่าวอื่น : "พิชัย" ลุยมาตรการ "ซื้อหนี้ประชาชนฯ" หวังคิกออฟก่อน มิ.ย.นี้ อาจารย์ชาวอเมริกันตกตึทดลอง เล่น spinomenalแคน ดี้ เบิ ร์ สกชั้น 26 ย่านปทุมวัน ตร.คาดเครียดหนัก

แม้คำตอบของ นายเศรษฐา ทวีสิน จะไม่ฟันธงถึงการปรับ ครม.เศรษฐา 1 จะเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่ แต่ส่งสัญญาณชั

เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2567 แม่ของ "อเลกซี นาวาลนี" แกนนำฝ่ายค้านรัสเซียที่เสียชีวิตในทัณฑนิคม ซึ่งตั้งอ

วันนี้ (24 มี.ค.2568) สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง เรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย

วันนี้ (24 มี.ค.2568) สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง เรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาควบคุมราคาค่ารักษาพยาบาลและเวชภัณฑ์ของ รพ.เอกชน หลังพบว่ามีการตั้งราคาสูงเกินจริงอย่างน่าตกใจ โดยยกตัวอย่างเวชภัณฑ์ 4 ชนิดที่เปรียบเทียบราคาท้องตลาดกับราคาที่ รพ.เอกชน เรียกเก็บ ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาที่ผู้บริโภคต้องเผชิญมานาน มีการเปิดเผยข้อมูล ดังนี้ ข้อมูลเหล่านี้มาจากใบเสร็จที่ผู้บริโภคนำมาร้องเรียนกับสภาฯ แสดงให้เห็นว่าราคาค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนกำลังสร้างภาระหนักให้ประชาชน ภาพประกอบข่าว ภาพประกอบข่าว ย้อนไปเมื่อวันที่ 20 มี.ค.2568 สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ยื่นหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อขอให้ทบทวนนโยบาย "ร่วมจ่าย" (Co-payment) ในสัญญาประกันภัยสุขภาพ เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากบ่นว่าการต้องร่วมจ่ายร้อยละ 30-50 นั้นสูงเกินไป โดยนายภัทรกร ทีปบุญรัตน์ รองหัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค อธิบายว่า ตามคำสั่งของ คปภ. หากผู้เอาประกันเคลมสินไหมเกินร้อยละ 200 ของเบี้ยประกัน หรือเคลมเกิน 3 ครั้งในโรคที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล จะต้องเริ่ม "ร่วมจ่าย" ในปีถัดไป และถ้าเคลมเกินร้อยละ 400 ในโรคทั่วไป (ไม่นับผ่าตัดใหญ่) จะต้องจ่ายร้อยละ 30 หรือสูงสุดร้อยละ 50 หากเข้าเงื่อนไขทั้ง 2 กรณี ปัญหาคือ เมื่อรวมกับราคาค่ารักษาและเวชภัณฑ์ที่สูงเกินจริงจาก รพ.เอกชน ผู้บริโภคยิ่งแบกรับภาระหนักเข้าไปอีก วันถัดมา วันที่ 21 มี.ค.2568 สภาฯ ได้จัดรายการ "สภาผู้บริโภค LIVE" ผ่านเพจเฟซบุ๊ก เพื่อเปิดเวทีพูดคุยในหัวข้อ "เคลียร์ชัด Co-payment เคลมเยอะ ต้องร่วมจ่าย เพราะ รพ.เอกชนแพง บัตรทองคือทางรอด" โดยนายภัทรกรชี้ว่า การที่ รพ.เอกชน คิดราคาค่ารักษาและเวชภัณฑ์สูงเกินจริง เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ค่ารักษาพุ่ง และการผลักภาระให้ผู้บริโภคร่วมจ่ายไม่ใช่คำตอบที่ยุติธรรม โดยตั้งคำถามว่า ทำไมไม่แก้ที่ต้นเหตุ ทำไมกระทรวงพาณิชย์ไม่เข้ามาควบคุมราคาค่ารักษาและเวชภัณฑ์ที่แพงเกินจริง แทนที่จะปล่อยให้ประชาชนต้องจ่ายแพงขึ้นเรื่อยๆ ที่ผ่านมา สภาฯ พยายามผลักดันให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามากำกับราคาค่ารักษาพยาบาลและเวชภัณฑ์ในโรงพยาบาลเอกชน แต่ไม่ได้รับการตอบรับ โดยกระทรวงฯ อ้างว่าเวชภัณฑ์เหล่านี้ไม่ใช่สินค้าควบคุม และไม่สามารถจัดการได้เหมือนยาในโรงพยาบาล สถานการณ์นี้ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากรู้สึกว่าถูกทิ้งให้เผชิญปัญหาคนเดียว โดยเฉพาะเมื่อต้องจ่ายค่ารักษาที่สูงเกินสมควรควบคู่กับนโยบายร่วมจ่ายจากประกัน ทั้งนี้ สภาองค์กรของผู้บริโภค ยังเรียกร้องให้ประชาชนที่เจอปัญหาค่ารักษาแพงเกินจริงเก็บใบเสร็จและหลักฐานต่าง ๆ มาร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1502 เพื่อรวบรวมข้อมูลและผลักดันการแก้ไขอย่างเป็นระบบต่อไป "เราต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่ปล่อยให้ผู้บริโภคแบกภาระต่อไป" นายภัทรกรย้ำ อ่านข่าวอื่น : "พิชัย" ลุยมาตรการ "ซื้อหนี้ประชาชนฯ" หวังคิกออฟก่อน มิ.ย.นี้ อาจารย์ชาวอเมริกันตกตึทดลอง เล่น spinomenalแคน ดี้ เบิ ร์ สกชั้น 26 ย่านปทุมวัน ตร.คาดเครียดหนัก

วันนี้ (17 ก.พ.2566) นายธานินทร์ ทิพย์คูนอก เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.ชัยภูมิ ยังถูกควบคุ