การปล่อยให้ฝูงควายวิ่งเล่น และกินอาหารตามท้องทุ่งอย่างอิสระ แล้วตอนเย็นพากลับเข้าคอกmajor slot เป็นกิจวัตรประจำวันของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์อนุรักษ์วัว-ควายไทย ต.ท่าตุ้ม อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ที่นายประสิทธิ์
เปิดม่านเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิสที่เปิดงานไปเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยครั้งนี้มีผลงานของผู้กำกับชาวชาวไทยเข้าร่วมประกวดถึง 3 เรื่อง ในปีที่ภาพยนตร์ในภาษาอังกฤษถูกรับเชิญเข้าร
การปล่อยให้ฝูงควายวิ่งเล่น และกินอาหารตามท้องทุ่งอย่างอิสระ แล้วตอนเย็นพากลับเข้าคอกmajor slot เป็นกิจวัตรประจำวันของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์อนุรักษ์วัว-ควายไทย ต.ท่าตุ้ม อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ที่นายประสิทธิ์ มณีวรรณ์ ก่อตั้งศูนย์ฯ แห่งนี้ขึ้นมาเมื่อประมาณ 6 ปีก่อน ทั้งนี้เพื่อต้องการอนุรักษ์ควายสายพันธุ์ไทยแท้เอาไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชม ถึงคุณค่าที่คนในอดีตใช้ควายเป็นในการสัญจรเดินทาง รวมถึงเป็นแรงงานไถนาปลูกข้าว และทำการเกษตร นายประสิทธิ์ บอกว่า ปัจจุบันจำนวนควายในประเทศไทยลดลงต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงต้องการอนุรักษ์ควายไทยเอาไว้ ด้วยการหาสายพันธุ์ที่ดีจากต่างจังหวัดเข้ามาผสมพันธุ์ และคัดตัวที่ดีเอาไว้ ไม่ให้ควายไทยต้องสูญพันธุ์ นายสัมพันธ์ มณีวรรณ์ ผู้จัดการศูนย์อนุรักษ์วัว-ควายไทย จ.ลำพูน บอกว่า ควายเป็นสัตว์ที่สามารถรับรู้ถึงความรู้สึก คนเลี้ยง ฉลาด และเชื่อฟัง การเลี้ยงที่นี่จะปล่อยให้อยู่อย่างอิสระ ตามทุ่งหญ้าที่เตรียมไว้ เมื่อเลี้ยงไปนานๆ จะมีความรัก และผู้พันธ์เหมือนคนในครอบครัว ปัจจุบันศูนย์อนุรักษ์วัว-ควายไทย จ.ลำพูน เลี้ยงควายอยู่ทั้งหมด 84 ตัว ซึ่งถือเป็นศูนย์ฯ ที่เลี้ยง และอนุรักษ์ควายที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ แต่ละปีสามารถให้ลูกได้ปีละ 20-30 ตัว พอเลี้ยงให้โต ก็จะส่งไปพื้นที่อื่นๆ และนำควายจากต่างจังหวัดเข้ามา เพื่อป้องกันปัญหากรณีเลือดชิด อาจได้สายพันธุ์ที่ไม่ดี โดยไม่มีการส่งเข้าโรงฆ่าสัตว์โดยเด็ดขาด นอกจากนั้น ยังอาสาเลี้ยงควายกลุ่มที่มีการไถ่ชีวิตมาดูแลด้วย ขณะเดียวกันยังมีการเลี้ยงวัว และพัฒนาสายพันธุ์วัวควบคู่ไปด้วย ซึ่งขณะนี้มีวัวที่ดูแลอยู่อีกกว่า 70 ตัว
วันที่ 2 ม.ค.2565 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์
นักวิชาการชี้นโยบาย นักวิชาการ ชี้ว่า นโยบายบ้านหลังแรกเอื้อประโยชน์ต่อผู้มีรายได้สูง พร้อมแนะรัฐบาล