Home
|
เ”ด็ด บอˆล 69

เด็ด บอล 69วันนี้ (🎪🏉🤺⛹️‍♂️27 ก.พ.256🎃7) นา🍧ยสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีก🍦ร🏆ม

เ”ด็ด บอˆล 69

วันที่ 28 ก.พ.2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “การรับมือและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสู่ความมั่นคงของมนุษย์” พร้อมมอบนโยบาย ในการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับชาติด้านการรับมือและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสู่ความมั่นคงของมนุษย์ ภายใต้โครงการพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายการคุ้มครองทางสังคมที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Responsive Social Protection : CRSP) โดยความร่วมมือของ กระทรวง พม. กับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) มี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมแล€ะความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) ดร.วิจารณ์ สิมะฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวง พม. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมในงาน นายวราวุธ กล่าวว่า การจัดอันดับดัชนีความเสี่ยงด้านภูมิอากาศ ปี 2568 (Climate Risk Index 2025) โดย German Watch ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 30 ประเทศเสี่ยงสูงที่จ›ç”ะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งในระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ชัดเจนขึ้น ทั้งพายุ น้ำท่วม ภัยแล้ง และอุณหภูมิที่ผันแปร สร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชากร เศรษฐกิจ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รวมถึงเกิดการย้ายถิ่นฐาน นอกจากนี้ คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change : IPCC) ก่อตั้งโดยองค์กรอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) และโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ยังพบว่า สภาวะสุดขั้วของลมฟ้าอากาศ มีแนวโน้มที่จะเกิดบ่อยครั้งขึ้นและทวีความรุนแรงมากขึ้น ตามการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิพื้นผิวโลก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นับเป็นภัยคุกคามที่ส่งผลต่อความมั่นคงของมนุษย์โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ที่มีข้อจำกัดในการปรับตัว (Adaptive Capacity) ได้แก่ 1.กลุ่มเด็ก ซึ่งกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ระบุว่า เมื่อปี 2564 ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 50 จาก 163 ประเทศ ที่เด็กมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบ 2.กลุ่มผู้สูงอายุและคนพิการ มีข้อจำกัดทางการเคลื่อนไหวและสุขภาพส่งผลให้ตกอยู่ในภาวะเสี่ยงเมื่อเกิดภัยพิบัติ และเป็นกลุ่มเปราะบางมีสัดส่วนสูงสุดที่จะได้รับผลกระทบ ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตประชากรที่เด็กเกิดน้อย วัยทำงานขาดแคลน แต่ผู้สูงอายุจำนวนมากต้องการการดูแล 3.กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งขาดแคลนในทุกมิติ อาทิ ทรัพยากรทางการเงิน ทำให้ไม่สามารถย้ายที่อยู่อาศัยไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย ไม่สามารถเข้าถึงโครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ที่มีคุณภาพ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากมีศักยภาพในการรับมือน้อย สำหรับแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (Thailand’s National Adaptation Plan : NAP) ประกอบด้วยสาขาหลัก 6 สาขา ได้แก่ 1) การจัดการน้ำ 2) การเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร 3) การท่องเที่ยว 4) สาธารณสุข 5) การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และ 6) การตั้งถิ่นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวง พม. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องในสาขาการตั้งถิ่นฐาน และความมั่นคงของมนุษย์ และให้ความสำคัญในเรื่องความมั่นคงของมนุษย์ มีการจัดตั้งกลไกในการดูแลกลุ่มคนเปราะบางจากภัยพิบัติที่มีชื่อว่า “ศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) หรือ Disaster Care Center for the Vulnerable : DCCV” ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยเริ่มนำร่องใน 14 จังหวัดภาคใต้ และภาคเหนือ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือ ปรับตัว และการให้ความช่วยเหลือดูแลเยียวยากลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ การให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ อาทิ ภาคใต้ มีการสั่งการผ่านระบบปฏิบัติการออนไลน์ (Online Operation System : OOS) อีกทั้ง เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2568 ที่ผ่านมา กระทรวง พม. ยังได้ร่วมลงนาม MOU การดำเนินงานด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำหรับการดำเนินงานของกระทรวง พม. ในระยะต่อไปนั้น มีการออกแบบระบบที่สนับสนุนให้กลุ่มเปราะบางสามารถเข้าถึงระบบความช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม การยกระดับการคุ้มครองทางสังคม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงที่อยู่อาศัย การสร้างความตระหนักรู้ให้แก่กลุ่มเปราะบาเด็ด บอล 69งเข้าใจถึงความเสี่ยงและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาขีดความสามารถของชุมชนให้มีความเข้มแข็ง สามารถปรับต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งยังได้มีความร่วมมือกับ ธนาคารโลก (World Bank) ซึ่งกระทรวง พม. ขับเคลื่อนงานด้านมิติทางสังคมของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Social Dimensions of Climate Change) เพื่อเตรียมการรองรับผลกระทบทางสั€ƒงคมที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางให้สามารถรับมือและปรับตัวได้ต่อสถานการณ์ต่าง ๆ อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยการดำเนินงานที่สำคัญคือ การจัดทำแผนที่ภัยพิบัติ 5 ด้าน ประกอบด้วย 1) แผนที่ภัยพิบัติ และการบูรณาการข้อมูล 2) การคำนวณมูลค่าผลกระทบต่อกลุ่มเปราะบาง 3) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 4) การจัดทำแผนปฏิบัติการในพื้นที่ภัยพิบั”ติศึกษาแผนปฏิบัติการของจังหวัดกับท้องถิ่น และ 5) การเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากร พม. อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีนโยบายระยะยาวสำหรับการดูแลกลุ่มเปราะบาง ไม่เฉพาะแต่กรณีที่เกิดเหตุขึ้นฉับพลัน ในลักษณะภัยพิบัติเท่านั้น แต่รวมถึงเหตุการณ์ที่ค่อย ๆ เกิดขึ้น (Slow Onset Events) เช่น อุณหภูมิค่อย ๆ สูงขึ้น หรือระดับน้ำทะเลค่อย ๆ ยกระดับขึ้น หรือสภาพอากาศร้อน หนาว ฝน แล้ง ค่อย ๆ ปรับรูปแบบ หรือค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้น โดยการยกระดับการคุ้มครองทางสังคมผ่านกลไกต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้ว หรือสร้างขึ้นใหม่ เช่น การปฏิบัติงานของอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) หรือผู้บริบาลผู้สูงอายุ หรือหน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. (สถาน - บ้าน - นิคม) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงที่อยู่อาศัย ที่สนับสนุนให้กลุ่มเปราะบางสามารถรับมือและปรับตัวได้ และการคิดค้นวิธีการรับมือและสร้างความตระหนักรู้ให้กับกลุ่มเปราะบาง อาทิ การพัฒนาระบบข้อมูล และการใช้ AI เข้ามาช่วย ซึ่งสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) ได้นำกลไกของห้องปฏิบัติการนโยบาย (Policy Lab) เข้ามาช่วย ทำให้แนวทางในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อดูแลกลุ่มเปราะบางในประเทศไทยมีความชัดเจนยิ่งขึ้น อ่านข่าว : สำรวจ "เมืองโอร์เสม็ด" ถูกจับตา อาจเป็นฐาน "คอลเซนเตอร์แห่งใหม่" ชายแดนไทย กทม.ติดกล้อง CCTV เพิ่มแยกราชประสงค์ - ตร.เข้มศาลท้าว​มหาพรหม สธ.แจง "ไข้ดำแดง" ไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ พบ 2 เดือนป่วย 455 คน