น้ำตาที่ไหลอาบแก้มของ “ขวัญ” ขวัญสุดา พวงกิจจา หลั

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2565 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้อง ไม่รับการขอทุเลาชั่วคราวของนายณภัทร วินิจฉัยกุล ที่ยื่นศาลปกครองกลาง ฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโท
วันนี้ (28 ก.พ.2568) นางอังคณา นีลไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ได้กล่าวหลังจากที่ได
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2565 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้อง ไม่รับการขอทุเลาชั่วคราวของนายณภัทร วินิจฉัยกุล ที่ยื่นศาลปกครองกลาง ฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ระบุว่า ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม ลงวันที่ 4 ธ.ค.2560 (“ประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ”) ไม่ชอบด้วยกฎหมายและได้ยื่นคำขอเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้มีคำสั่งทุเลาการบังคับหรือหยุดใช้ประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ โดยเร่งด่วน ทั้งนี้ ศาลฯ พิจารณาว่า การกล่าวอ้างของนายณภัทรไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และไม่ได้เกิดความเสียหายอย่างที่กล่าวอ้าง ศาลปกครองกลางจึงมีคำสั่งยกคำร้องของนายณภัทร โดยพิจารณาแล้วเห็นว่า ประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม ลงวันที่ 4 ธ.ค. 2560 ชอบด้วยกฎหมาย และจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ทรูและดีแทคยังอยู่ระหว่างดำเนินการจดทะเบียนให้เกิดเป็นนิติบุคคลใหม่ ซึ่งมีผลเป็นการรวมธุรกิจ ดังนั้นจึงไม่มีความเสียหายร้ายแรงที่ยากแก่การแก้ไขในภายหลัง ตามที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างแต่อย่างใด นอกจากนี้ การให้ทุเลาการบังคับหรือหยุดใช้ประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ อาจเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของ กสทช. ด้วยเช่นกัน ซึ่งคำสั่งของศาลปกครองที่ยกคำขอวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดีดังกล่าวเป็นที่สุดและไม่สามารถอุทธรณ์ ทั้งนี้ กสทช. ได้ดำเนินการตามโรดแมปที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ คาดว่าจะระบุผลการพิจารณาในกรณีมีเงื่อนไขเพิ่มเติม เพื่อแจ้งให้ทรูและดีแทคทราบ ซึ่งยังคงเป็นไปตามประกาศปี 2561 โดยยังคงเป็นไปตามแผนการดำเนินการที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน กสทช. หรือซูเปอร์บอผล อี สปอร์ต สดร์ด กสทช. ชี้แจงว่า กรณีที่นายณภัทรได้ยื่นหนังสือถึง กสทช. กรณีควบรวมทรู-ดีแทคเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวซูเปอร์บอร์ด โดยนายณภัทรเป็นหนึ่งในซูเปอร์บอร์ด กสทช. รับผิดชอบเฉพาะกิจการกระจายเสียง และไม่เคยนำเรื่องควบรวมดังกล่าวมาหารือที่ประชุม อ่านข่าวอื่นๆ คลังปัดฝุ่นเก็บ "ภาษีลาภลอย" ขายอสังหาฯ อานิสงส์โครงการรัฐ รับมือค่าไฟ กกพ.คาดขึ้นค่า Ft งวดสิ้นปีมากกว่า 40 สตางค์
ชัดแล้วว่า 2 พ่อลูก ตระกูลช่างเหลา คนพ่อ "เอกราช" เป็นหัวหน้าทีมผู้สมัครส.ส.พปชร.ภาคอิสานตอนกลาง ในก
3 ประเทศตกลงขยายพื้นที่ค้นหาเครื่องบิน MH370 การค้นหาเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์ เที่ยว
วันนี้ (7 มิ.ย.2568) นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.25
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2565 ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้อง ไม่รับการขอทุเลาชั่วคราวของนายณภัทร วินิจฉัยกุล ที่ยื่นศาลปกครองกลาง ฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ระบุว่า ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม ลงวันที่ 4 ธ.ค.2560 (“ประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ”) ไม่ชอบด้วยกฎหมายและได้ยื่นคำขอเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้มีคำสั่งทุเลาการบังคับหรือหยุดใช้ประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ โดยเร่งด่วน ทั้งนี้ ศาลฯ พิจารณาว่า การกล่าวอ้างของนายณภัทรไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และไม่ได้เกิดความเสียหายอย่างที่กล่าวอ้าง ศาลปกครองกลางจึงมีคำสั่งยกคำร้องของนายณภัทร โดยพิจารณาแล้วเห็นว่า ประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม ลงวันที่ 4 ธ.ค. 2560 ชอบด้วยกฎหมาย และจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ทรูและดีแทคยังอยู่ระหว่างดำเนินการจดทะเบียนให้เกิดเป็นนิติบุคคลใหม่ ซึ่งมีผลเป็นการรวมธุรกิจ ดังนั้นจึงไม่มีความเสียหายร้ายแรงที่ยากแก่การแก้ไขในภายหลัง ตามที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างแต่อย่างใด นอกจากนี้ การให้ทุเลาการบังคับหรือหยุดใช้ประกาศเรื่องการรวมธุรกิจฯ อาจเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของ กสทช. ด้วยเช่นกัน ซึ่งคำสั่งของศาลปกครองที่ยกคำขอวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดีดังกล่าวเป็นที่สุดและไม่สามารถอุทธรณ์ ทั้งนี้ กสทช. ได้ดำเนินการตามโรดแมปที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ คาดว่าจะระบุผลการพิจารณาในกรณีมีเงื่อนไขเพิ่มเติม เพื่อแจ้งให้ทรูและดีแทคทราบ ซึ่งยังคงเป็นไปตามประกาศปี 2561 โดยยังคงเป็นไปตามแผนการดำเนินการที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน กสทช. หรือซูเปอร์บอผล อี สปอร์ต สดร์ด กสทช. ชี้แจงว่า กรณีที่นายณภัทรได้ยื่นหนังสือถึง กสทช. กรณีควบรวมทรู-ดีแทคเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวซูเปอร์บอร์ด โดยนายณภัทรเป็นหนึ่งในซูเปอร์บอร์ด กสทช. รับผิดชอบเฉพาะกิจการกระจายเสียง และไม่เคยนำเรื่องควบรวมดังกล่าวมาหารือที่ประชุม อ่านข่าวอื่นๆ คลังปัดฝุ่นเก็บ "ภาษีลาภลอย" ขายอสังหาฯ อานิสงส์โครงการรัฐ รับมือค่าไฟ กกพ.คาดขึ้นค่า Ft งวดสิ้นปีมากกว่า 40 สตางค์
การเรียนออนไลน์ช่วยขับเคลื่อนการเรียนการสอนในช่วงวิฤตโควิด แต่อาจไม่เหมาะกับบางกลุ่มวิชาชีพที่ต้องฝึ