ลิเวอร์พูล บอ ร์ น ส มั ธ สด
Klub Liga 1Persikabo1973 mendatangkan kembali pela
฿97057
บาท7
ห้องนอน
97
ห้องน้ำ
632
ตร.ม.
฿ 9735
/ ตารางเมตร
ลิเวอร์พูล บอ ร์ น ส มั ธ สด
Kementerian Luar NegeriYamanpada Selasa mengumumka
UID: 79440
พท.เตรียมส่งชื่อเลขาฯรมต.วันอังคารนี้ พรรคประชาธิปัตย์ระบุการแต่งตั้งบุคคลเข้ารับตำแหน่งข้าราชการการ
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มุ่งขับเคลื่
วันนี้ (3 ก.พ.2566) สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออก แถลงการณ์คัดค้านร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. … ตามที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติผ่านร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .… และเสนอเข้าสู่วาระการประชุมของรัฐสภาแบบเร่งด่วนในวันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ตามข้อเสนอของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำหนังสือถึงประธานรัฐสภาขณะที่อยู่ในตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 6 ก.ย. พ.ศ. 2565 ขอให้นำร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .…เข้าสู่การพิจารณาแบบเร่งด่วน โดยอ้างถึงร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .… เป็นกฎหมายปฏิรูปประเทศตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ในหมวดที่ 16 1. ว่าด้วยหลักการและเหตุผลในการร่าง พ.ร.บ. ตามที่ได้มีอ้างถึงเหตุผลการร่าง พ.ร.บ. ว่าผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนมีสิทธิและเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารหรือการแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพให้ครอบคลุมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน แต่ให้คำนึงถึงวัตถุประสงค์และภารกิจของหน่วยงานที่ตนสังกัดด้วย แค่เหตุผลในการร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ก็ย้อนแย้งยากต่อการปฏิบัติของสื่อมวลชนภายใต้สังกัดของรัฐบาลทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งได้มีการระบุขยายความไว้อย่างชัดเจนในหมวด 1 มาตรา 5 ย่อหน้า 5 ที่ระบุว่า “ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐมีสิทธิปฏิเสธการปฏิบัติตามคำสั่งใด ที่จะมีผลให้เป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมสื่อมวลชนโดยมิให้ถือว่าเป็นการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่การใช้สิทธิดังกล่าวต้องคำนึงถึงวัตถุปรลิเวอร์พูล บอ ร์ น ส มั ธ สดะสงค์และภารกิจของหน่วยงานที่ตนสังกัดอยู่ด้วย” ซึ่งทำให้วัตถุประสงค์และภารกิจของหน่วยงานอยู่เหนือเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและการแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ 2. หมวด 2 สภาวิชาชีพสื่อมวลชน ว่าด้วยมาตรา 6 การจัดตั้งสภาวิชาชีพสื่อมวลชนตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นการจัดตั้งองค์กรที่ทำงานทับซ้อนกับการทำงานขององค์กรวิชาชีพสื่อแขนงต่างๆ และการกำกับดูแลสื่อของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กสทช. ซึ่งมีบทบาทในการกำกับดูแลทั้งด้าน กฎหมายตามมาตรา 37 - 39 และระเบียบข้อบังคับทางจริยธรรมอยู่แล้ว 3. ว่าด้วยมาตรา 8 ให้สภามีรายได้ ดังต่อไปนี้ (1) ให้รัฐบาลจ่ายให้เป็นทุนประเดิม และ (2) ให้ได้รับจัดสรรตามมาตรา 9 ซึ่งระบุว่าให้คณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กสทช.จัดสรรเงินจากกองทุนดังกล่าวเป็นรายปี ซึ่งก็มีกำหนดอยู่ในการทำงานของ กสทช.อยู่แล้วในรูปแบบของการให้ทุนสนับสนุนต่อผู้ที่ยื่นขอและมีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ แม้ไม่มีการจัดตั้งสภาวิชาชีพสื่อมวลชน ทาง กสทช.ก็ต้องทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว อนึ่งในมาตรา 8 ( 1-2 ) คนในวิชาชีพสื่อมวลชนจะมีหลักประกันอะไรได้ว่า หากคนในวิชาชีพสื่อมวลชนตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในอนาคต ซึ่งอาจจะไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้ สภาวิชาชีพสื่อที่ถูกตั้งขึ้นในรัฐบาลนี้จะไม่ถูกตัดงบสนับสนุนทั้งในทางตรงและทางอ้อม โดยรวมแล้ว ถ้าพิจารณาตามมาตราที่ 8 และ 9 ของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวที่กำหนดแหล่งรายได้ของสภาวิชาชีพสื่อมวลชนมาจากหลายช่องทาง ซึ่งมีเงินจากรัฐบาลจะจ่ายให้เป็นทุนประเดิม, เงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี และเงินที่ได้รับการจัดสรรโดยคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ไม่ต่ำกว่าปีละ 25 ล้านบาท แต่หลักการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนจะต้องเป็นผู้ตรวจสอบการดำเนินการของภาครัฐ ถ้าเป็นดังที่ร่าง พ.ร.บ.บัญญัติไว้ สภาวิชาชีพสื่อมวลชนที่ถูกตั้งขึ้นจะเป็นอิสระจากภาครัฐได้อย่างไร 4. หมวด 3 คณะกรรมการสภาวิชาชีพสื่อมวลชน ว่าด้วยมาตรา 15 กำหนดให้มีการจัดตั้ง ‘สภาวิชาชีพสื่อมวลชน’ ขึ้นมาทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานจริยธรรมของสื่อมวลชน พร้อมกำกับดูแลการทำงานของสื่อมวลชนให้เป็นไปตามมาตรฐานจริยธรรมนั้น โดยประกอบด้วยตัวแทนองค์กรวิชาชีพสื่อในปัจจุบัน 5 คน ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านต่างๆ อีก 5 คน ซึ่งผ่านการคัดเลือกโดยคณะกรรมการสรรหา พร้อมกับผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง อีก 1 คน รวม 11 คน ในกระบวนการดังกล่าวไม่ได้ยึดโยงกับทั้งสื่อมวลชนและประชาชนผู้บริโภคสื่ออย่างชัดเจน แต่กลับมีอำนาจในการคัดเลือกคณะกรรมการสภาวิชาชีพสื่อมวลชนซึ่งจะมีบทบาทหน้าที่สำคัญ กำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมสื่อมวลชน รวมถึงพิจารณาการขอจดแจ้งและเพิกถอนการจดแจ้งขององค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน เป็นต้น ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางและความเป็นไปของสภาวิชาชีพสื่อมวลชนว่าจะไปในทิศทางใด หมวด 5 จริยธรรมสื่อมวลชน ว่าด้วยมาตรา 13 การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมสื่อมวลชนมีโทษดังต่อไปนี้(1) ตักเตือน (2) ภาคทัณฑ์ ( 3 ) ตำหนิโดยเปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งบทลงโทษและระยะเวลาในการพิจารณาโทษ ก็มีเป็นระเบียบบังคับอยู่ในองค์กรวิชาชีพสื่ออยู่แล้ว ยิ่งไปพิจารณาต่อในมาตรา 41 ที่ได้ขยายความบทลงโทษไว้อย่างละเอียดจะเห็นได้ชัดว่าไม่แตกต่างจากระเบียบข้อบังคับขององค์กรวิชาชีพสื่อแต่อย่างใด และที่สำคัญอื่นใดรัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานปฏิรูปสื่อขึ้นมาและมีคณะอนุกรรมการปฏิรูปสื่อมาเป็นกลไกในการขับเคลื่อนสื่อ จากการติดตามการทำงานของคณะกรรมการดังกล่าวทำให้ทราบว่าในคณะอนุกรรมการปฏิรูปสื่อที่รัฐบาลตั้งขึ้น ได้มีการประชุมกัน 3 ครั้ง และมีมติไม่ต้องมีกฎหมายปฏิรูปสื่อแต่อย่างใด แต่ขอให้มีกลไกการส่งเสริมจัดการในการดำเนินการตามกฎหมายและหลักจริยธรรมขององค์กรวิชาชีพสื่อที่มีอยู่แล้วอย่างเข้มงวด แต่ปรากฏว่ากลับมีร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ส่งเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และได้ผ่านมติของการประชุมบรรจุเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ดังนั้นทางสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย จึงไม่เห็นความจำเป็นในการที่จะมีร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .…ฉบับนี้ ให้สิ้นเปลืองงบประมาณและทำหน้าที่ทับซ้อนกับองค์กรวิชาชีพสื่อและองค์กรที่ทำหน้าที่กำกับดูแลสื่อของภาครัฐ ถ้ารัฐเห็นความสำคัญในการส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชนตามที่ระบุไว้ในหลักการและเหตุผล รัฐควรส่งเสริมกลไกใช้สิทธิของประชาชนในการตรวจสอบสื่อทั้งในภาคจริยธรรมและกฎหมาย รวมไปจนถึงให้เสรีภาพในนำเสนอข้อมูลตรวจสอบการทำงานของรัฐอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อคนในวิชาชีพสื่อทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ รวมไปจนถึงการปกป้องผู้บริโภคสื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ไม่ได้คำนึงถึงจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน ในการนำเสนอข่าว 3 กุมภาพันธ์ 2566สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
วันนี้ (3 ก.พ.2566) สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออก แถลงการณ์คัดค้านร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจ
พท.เตรียมส่งชื่อเลขาฯรมต.วันอังคารนี้ พรรคประชาธิปัตย์ระบุการแต่งตั้งบุคคลเข้ารับตำแหน่งข้าราชการการ
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มุ่งขับเคลื่
วันนี้ (3 ก.พ.2566) สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออก แถลงการณ์คัดค้านร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. … ตามที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติผ่านร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .… และเสนอเข้าสู่วาระการประชุมของรัฐสภาแบบเร่งด่วนในวันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ตามข้อเสนอของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำหนังสือถึงประธานรัฐสภาขณะที่อยู่ในตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 6 ก.ย. พ.ศ. 2565 ขอให้นำร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .…เข้าสู่การพิจารณาแบบเร่งด่วน โดยอ้างถึงร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .… เป็นกฎหมายปฏิรูปประเทศตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ในหมวดที่ 16 1. ว่าด้วยหลักการและเหตุผลในการร่าง พ.ร.บ. ตามที่ได้มีอ้างถึงเหตุผลการร่าง พ.ร.บ. ว่าผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนมีสิทธิและเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารหรือการแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพให้ครอบคลุมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน แต่ให้คำนึงถึงวัตถุประสงค์และภารกิจของหน่วยงานที่ตนสังกัดด้วย แค่เหตุผลในการร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ก็ย้อนแย้งยากต่อการปฏิบัติของสื่อมวลชนภายใต้สังกัดของรัฐบาลทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งได้มีการระบุขยายความไว้อย่างชัดเจนในหมวด 1 มาตรา 5 ย่อหน้า 5 ที่ระบุว่า “ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐมีสิทธิปฏิเสธการปฏิบัติตามคำสั่งใด ที่จะมีผลให้เป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมสื่อมวลชนโดยมิให้ถือว่าเป็นการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่การใช้สิทธิดังกล่าวต้องคำนึงถึงวัตถุปรลิเวอร์พูล บอ ร์ น ส มั ธ สดะสงค์และภารกิจของหน่วยงานที่ตนสังกัดอยู่ด้วย” ซึ่งทำให้วัตถุประสงค์และภารกิจของหน่วยงานอยู่เหนือเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและการแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ 2. หมวด 2 สภาวิชาชีพสื่อมวลชน ว่าด้วยมาตรา 6 การจัดตั้งสภาวิชาชีพสื่อมวลชนตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นการจัดตั้งองค์กรที่ทำงานทับซ้อนกับการทำงานขององค์กรวิชาชีพสื่อแขนงต่างๆ และการกำกับดูแลสื่อของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กสทช. ซึ่งมีบทบาทในการกำกับดูแลทั้งด้าน กฎหมายตามมาตรา 37 - 39 และระเบียบข้อบังคับทางจริยธรรมอยู่แล้ว 3. ว่าด้วยมาตรา 8 ให้สภามีรายได้ ดังต่อไปนี้ (1) ให้รัฐบาลจ่ายให้เป็นทุนประเดิม และ (2) ให้ได้รับจัดสรรตามมาตรา 9 ซึ่งระบุว่าให้คณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กสทช.จัดสรรเงินจากกองทุนดังกล่าวเป็นรายปี ซึ่งก็มีกำหนดอยู่ในการทำงานของ กสทช.อยู่แล้วในรูปแบบของการให้ทุนสนับสนุนต่อผู้ที่ยื่นขอและมีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ แม้ไม่มีการจัดตั้งสภาวิชาชีพสื่อมวลชน ทาง กสทช.ก็ต้องทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว อนึ่งในมาตรา 8 ( 1-2 ) คนในวิชาชีพสื่อมวลชนจะมีหลักประกันอะไรได้ว่า หากคนในวิชาชีพสื่อมวลชนตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในอนาคต ซึ่งอาจจะไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้ สภาวิชาชีพสื่อที่ถูกตั้งขึ้นในรัฐบาลนี้จะไม่ถูกตัดงบสนับสนุนทั้งในทางตรงและทางอ้อม โดยรวมแล้ว ถ้าพิจารณาตามมาตราที่ 8 และ 9 ของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวที่กำหนดแหล่งรายได้ของสภาวิชาชีพสื่อมวลชนมาจากหลายช่องทาง ซึ่งมีเงินจากรัฐบาลจะจ่ายให้เป็นทุนประเดิม, เงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี และเงินที่ได้รับการจัดสรรโดยคณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ไม่ต่ำกว่าปีละ 25 ล้านบาท แต่หลักการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนจะต้องเป็นผู้ตรวจสอบการดำเนินการของภาครัฐ ถ้าเป็นดังที่ร่าง พ.ร.บ.บัญญัติไว้ สภาวิชาชีพสื่อมวลชนที่ถูกตั้งขึ้นจะเป็นอิสระจากภาครัฐได้อย่างไร 4. หมวด 3 คณะกรรมการสภาวิชาชีพสื่อมวลชน ว่าด้วยมาตรา 15 กำหนดให้มีการจัดตั้ง ‘สภาวิชาชีพสื่อมวลชน’ ขึ้นมาทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานจริยธรรมของสื่อมวลชน พร้อมกำกับดูแลการทำงานของสื่อมวลชนให้เป็นไปตามมาตรฐานจริยธรรมนั้น โดยประกอบด้วยตัวแทนองค์กรวิชาชีพสื่อในปัจจุบัน 5 คน ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านต่างๆ อีก 5 คน ซึ่งผ่านการคัดเลือกโดยคณะกรรมการสรรหา พร้อมกับผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง อีก 1 คน รวม 11 คน ในกระบวนการดังกล่าวไม่ได้ยึดโยงกับทั้งสื่อมวลชนและประชาชนผู้บริโภคสื่ออย่างชัดเจน แต่กลับมีอำนาจในการคัดเลือกคณะกรรมการสภาวิชาชีพสื่อมวลชนซึ่งจะมีบทบาทหน้าที่สำคัญ กำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมสื่อมวลชน รวมถึงพิจารณาการขอจดแจ้งและเพิกถอนการจดแจ้งขององค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน เป็นต้น ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางและความเป็นไปของสภาวิชาชีพสื่อมวลชนว่าจะไปในทิศทางใด หมวด 5 จริยธรรมสื่อมวลชน ว่าด้วยมาตรา 13 การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมสื่อมวลชนมีโทษดังต่อไปนี้(1) ตักเตือน (2) ภาคทัณฑ์ ( 3 ) ตำหนิโดยเปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งบทลงโทษและระยะเวลาในการพิจารณาโทษ ก็มีเป็นระเบียบบังคับอยู่ในองค์กรวิชาชีพสื่ออยู่แล้ว ยิ่งไปพิจารณาต่อในมาตรา 41 ที่ได้ขยายความบทลงโทษไว้อย่างละเอียดจะเห็นได้ชัดว่าไม่แตกต่างจากระเบียบข้อบังคับขององค์กรวิชาชีพสื่อแต่อย่างใด และที่สำคัญอื่นใดรัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานปฏิรูปสื่อขึ้นมาและมีคณะอนุกรรมการปฏิรูปสื่อมาเป็นกลไกในการขับเคลื่อนสื่อ จากการติดตามการทำงานของคณะกรรมการดังกล่าวทำให้ทราบว่าในคณะอนุกรรมการปฏิรูปสื่อที่รัฐบาลตั้งขึ้น ได้มีการประชุมกัน 3 ครั้ง และมีมติไม่ต้องมีกฎหมายปฏิรูปสื่อแต่อย่างใด แต่ขอให้มีกลไกการส่งเสริมจัดการในการดำเนินการตามกฎหมายและหลักจริยธรรมขององค์กรวิชาชีพสื่อที่มีอยู่แล้วอย่างเข้มงวด แต่ปรากฏว่ากลับมีร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ส่งเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และได้ผ่านมติของการประชุมบรรจุเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ดังนั้นทางสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย จึงไม่เห็นความจำเป็นในการที่จะมีร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ. .…ฉบับนี้ ให้สิ้นเปลืองงบประมาณและทำหน้าที่ทับซ้อนกับองค์กรวิชาชีพสื่อและองค์กรที่ทำหน้าที่กำกับดูแลสื่อของภาครัฐ ถ้ารัฐเห็นความสำคัญในการส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชนตามที่ระบุไว้ในหลักการและเหตุผล รัฐควรส่งเสริมกลไกใช้สิทธิของประชาชนในการตรวจสอบสื่อทั้งในภาคจริยธรรมและกฎหมาย รวมไปจนถึงให้เสรีภาพในนำเสนอข้อมูลตรวจสอบการทำงานของรัฐอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อคนในวิชาชีพสื่อทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ รวมไปจนถึงการปกป้องผู้บริโภคสื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ไม่ได้คำนึงถึงจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน ในการนำเสนอข่าว 3 กุมภาพันธ์ 2566สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
วันนี้ (3 ก.พ.2566) สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออก แถลงการณ์คัดค้านร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมจ
สิ่งอำนวยความสะดวก
การตกแต่ง
เครื่องปรับอากาศ
ชั้นบน
เตาอบ/ไมโครเวฟ
ความสะดวกโดยรอบ
กล้องวงจรปิด
เครืองปรับอากาศ
โถงรอลิฟท์ร้านอาหาร
ทางเข้าหลัก
ยอดสินเชื่อโดยประมาณ
รายละเอียดสินเชื่อ
ยอดสินเชื่อที่ต้องชำระต่อเดือนโดยประมาณ
฿ 0 / เดือน
฿ 0 เงินต้น
฿ 0 ดอกเบี้ย
ค่าใช้จ่ายที่อาจต้องมีเบื้องต้น
เงินดาวน์ทั้งหมด
฿ 0
เงินดาวน์
จำนวนสินเชื่อ ฿ 0 ในอัตรา 0% ของสินเชื่อต่อราคาบ้าน (Loan-to-value)
Topan Gaemi yang menyebabkan hujan lebat dan banji

MANAMA – Bahrain, negara yang tim nasional sepakbolanya menahan imbang Timnas Indonesia secara kontroversial pada Kamis (11/10/2024) malam ternyata punya juga sejarah kemesraan dengan Israel. Negara i
ดูรายละเอียดโครงการคำถามที่พบบ่อย
Kota Jakarta dan sekitarnya. Hari ini, kondisicuacadi wilayah Jakarta didominasi oleh awan dengan se
PT Botani Seed Indonesia, perusahaan milikIPBUniversity, mengembangkan benihpadicerdas iklim yang da
Kepala Dinas Kesehatan Provinsi Riau, Sri Sadono Mulyanto, mengatakan dari 12 kabupaten dan kota se-
Presiden Suriah Bashar al-Assad dilaporkan meninggalkan Damaskus usai kelompok-kelompok oposisi bers
Pemerintah Kota (Pemkot) Jayapura, Papua, menyiapkan sembilan sekolah di daerah itu untuk menjalanka
ค้นหาประกาศอื่นรอบๆ ทุ่งพญาไท
จากสิ่งที่คุณค้นหา คุณอาจจะสนใจตัวเลือกต่อไปนี้
ยูสเซอร์ ฟรีเว็บ ฝาก ถอน ออ โต้ เว็บ บอล ฝาก 100 ฟรี 100
true premier football hd2