วันนี้ (12 พ.ค.2568) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่า

วันนี้ (8 พ.ค.2566) การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ระบุว่า "ยางพารา" เก็บกักและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดี ดังนั้น นอกจากผู้ปลูกยางพาราจะสร้างรายได้จากการขายยางพาราแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้จากการขายคา
พลังภาคีเครือข่ายตั้งศูนย์ “บ้านอาสาใจดี” ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม อบรม “EMBall-ต่อเรือแพ-เสื้อชูชีพ-ส้วมเก้าอี้” รับมือสถานการณ์ พลังภาคีเครือข่ายตั้งศูนย์ “บ้านอาสาใจดี” ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่
วันนี้ (8 พ.ค.2566) การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ระบุว่า "ยางพารา" เก็บกักและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดี ดังนั้น นอกจากผู้ปลูกยางพาราจะสร้างรายได้จากการขายยางพาราแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตอีกด้วย ปัจจุบันมีพืชเกษตรหลายชนิดที่ถูกนำมาประเมินหาปริมาณการสะสมคาร์บอนไดออกไซด์ ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ทุเรียน ลำไย และไม้ยืนต้นอื่นๆ โดย "ยางพารา" เป็นพืชเกษตรที่มีศักยภาพสูงในการกักเก็บและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อ่านข่าวอื่นๆ : "จู้หรง" รถสำรวจของจีน พบร่องรอยน้ำบนดาวอังคาร เมื่อ 4 แสนปีที่แล้ว ปีที่แล้ว กยท. จึงได้จัดทำโครงการนำร่องในพื้นที่สวนยางที่อยู่ภายใต้การดูแลของ กยท. จำนวน 6,800 ไร่ ส่วนปีนี้จะขยายไปยังพื้นที่ของเกษตรกรอีก 50,000 ไร่ และกระจายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคกลาง และ ภาคใต้ ทั้งนี้ เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราหลายคนก็มีความเข้าใจเรื่องของ "คาร์บอนเครดิต" ดีขึ้น การยางแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าจะขยายพื้นที่การดำเนินโครงการดังกล่าว ให้ครอบคลุมพื้นที่สวนยางพาราทั่วประเทศ เบื้องต้น ในอีก 5 ปีข้างหน้า จะขยายพื้นที่ให้ได้อย่างน้อย 10 ล้านไร่ หรือ ครึ่งหนึ่งของผู้ที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ปัจจุบัน การขายคาร์บอนเครดิต เป็นภาคสมัครใจ ซึ่งมีเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราหลายคน เริ่มขายคาร์บอนเครดิตแล้ว จากข้อมูลการศึกษา ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า ช่วงอายุยางพารา ที่กักเก็บและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากที่สุด หรือ เฉลี่ย 1.34 ตัน/ไร่/ปี คือ อายุ 6-10 ปี รองลงมา คืออายุ 11-1โจ๊กเกอร์เกมสล็อตboomerang5 ปี ซึ่งกักเก็บและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เฉลี่ย 1.21 ตัน/ไร่/ปี Carbon Credit Carbon Credit สำหรับ "คาร์บอนเครดิต" ถูกสร้างขึ้นโดยกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ เช่น การปลูกต้นไม้ โดยจะนำความสูง เส้นรอบวง และพันธุ์ของต้นไม้ ไปคำนวณการดูดซับก๊าซเรือนกระจก และ แปลงออกมาเป็นคาร์บอนเครดิต ขณะที่ เป้าหมายของคาร์บอนเครดิต จะมุ่งเน้นไปที่ภาคอุตสาหกรรมให้คำนึงถึงมลพิษ หรือ ก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมา พร้อมกับให้ตั้งเป้าการลดคาร์บอนไดออกไซด์ในทุกๆ ปี อ่านข่าวอื่นๆ : 8 พ.ค. วันกาชาดสากล ระลึกถึง "อังรี ดูนังต์" ในเชิงกลไกตลาด บริษัทที่ไม่ปรับตัวก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น ถ้าหากปล่อยก๊าซเรือนกระจกเกินเกณฑ์ แต่หากบริษัทใดปรับตัวได้ดี ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อย ก็สามารถนำคาร์บอนเครดิตไปขายให้กับบริษัทที่ต้องการได้อีกด้วย ทั้งนี้ ในปี 2565 ราคาขายคาร์บอนเครดิต อยู่ที่ 120.3 บาท/ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ขณะที่ปี 2561 อยู่ที่ 21.37 บาท/ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เท่านั้น ส่วนในปี2566 นี้ ราคาขายคาร์บอนเครดิต ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น "คาร์บอนเครดิต" ไม่ได้สร้างรายได้ให้คนขายเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของโลกยุคปัจจุบัน ที่ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจสีเขียว
วันนี้ (27 เม.ย.2565) เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ตรวจสอบอุบัติเหตุบริเวณใต้สะพานข้ามแยกรัชวิภา หลั
วันนี้ (6 ม.ค.2567) พล.ต.ต.สมปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เปิดเผยหลังเข้าสอบปากคำนายแบงค์ และน.ส.
เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2564 ที่ผ่านมา นายเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ข
วันนี้ (8 พ.ค.2566) การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ระบุว่า "ยางพารา" เก็บกักและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดี ดังนั้น นอกจากผู้ปลูกยางพาราจะสร้างรายได้จากการขายยางพาราแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตอีกด้วย ปัจจุบันมีพืชเกษตรหลายชนิดที่ถูกนำมาประเมินหาปริมาณการสะสมคาร์บอนไดออกไซด์ ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ทุเรียน ลำไย และไม้ยืนต้นอื่นๆ โดย "ยางพารา" เป็นพืชเกษตรที่มีศักยภาพสูงในการกักเก็บและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อ่านข่าวอื่นๆ : "จู้หรง" รถสำรวจของจีน พบร่องรอยน้ำบนดาวอังคาร เมื่อ 4 แสนปีที่แล้ว ปีที่แล้ว กยท. จึงได้จัดทำโครงการนำร่องในพื้นที่สวนยางที่อยู่ภายใต้การดูแลของ กยท. จำนวน 6,800 ไร่ ส่วนปีนี้จะขยายไปยังพื้นที่ของเกษตรกรอีก 50,000 ไร่ และกระจายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคกลาง และ ภาคใต้ ทั้งนี้ เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราหลายคนก็มีความเข้าใจเรื่องของ "คาร์บอนเครดิต" ดีขึ้น การยางแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าจะขยายพื้นที่การดำเนินโครงการดังกล่าว ให้ครอบคลุมพื้นที่สวนยางพาราทั่วประเทศ เบื้องต้น ในอีก 5 ปีข้างหน้า จะขยายพื้นที่ให้ได้อย่างน้อย 10 ล้านไร่ หรือ ครึ่งหนึ่งของผู้ที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ปัจจุบัน การขายคาร์บอนเครดิต เป็นภาคสมัครใจ ซึ่งมีเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราหลายคน เริ่มขายคาร์บอนเครดิตแล้ว จากข้อมูลการศึกษา ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า ช่วงอายุยางพารา ที่กักเก็บและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากที่สุด หรือ เฉลี่ย 1.34 ตัน/ไร่/ปี คือ อายุ 6-10 ปี รองลงมา คืออายุ 11-1โจ๊กเกอร์เกมสล็อตboomerang5 ปี ซึ่งกักเก็บและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เฉลี่ย 1.21 ตัน/ไร่/ปี Carbon Credit Carbon Credit สำหรับ "คาร์บอนเครดิต" ถูกสร้างขึ้นโดยกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ เช่น การปลูกต้นไม้ โดยจะนำความสูง เส้นรอบวง และพันธุ์ของต้นไม้ ไปคำนวณการดูดซับก๊าซเรือนกระจก และ แปลงออกมาเป็นคาร์บอนเครดิต ขณะที่ เป้าหมายของคาร์บอนเครดิต จะมุ่งเน้นไปที่ภาคอุตสาหกรรมให้คำนึงถึงมลพิษ หรือ ก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมา พร้อมกับให้ตั้งเป้าการลดคาร์บอนไดออกไซด์ในทุกๆ ปี อ่านข่าวอื่นๆ : 8 พ.ค. วันกาชาดสากล ระลึกถึง "อังรี ดูนังต์" ในเชิงกลไกตลาด บริษัทที่ไม่ปรับตัวก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น ถ้าหากปล่อยก๊าซเรือนกระจกเกินเกณฑ์ แต่หากบริษัทใดปรับตัวได้ดี ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อย ก็สามารถนำคาร์บอนเครดิตไปขายให้กับบริษัทที่ต้องการได้อีกด้วย ทั้งนี้ ในปี 2565 ราคาขายคาร์บอนเครดิต อยู่ที่ 120.3 บาท/ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ขณะที่ปี 2561 อยู่ที่ 21.37 บาท/ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เท่านั้น ส่วนในปี2566 นี้ ราคาขายคาร์บอนเครดิต ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น "คาร์บอนเครดิต" ไม่ได้สร้างรายได้ให้คนขายเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของโลกยุคปัจจุบัน ที่ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจสีเขียว
วันนี้ (5 เม.ย.2564) ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ รายหนึ่ง โพสต์วิดีโออ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรที่