วันนี้ (23 มี.ค.2568) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุ
จนท.ศุลกากรจับชาวปากีสถานลักลอบขนเฮโรอีน เจ้าหน้าที่ศุลกากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสามารถจับกุมชาวปากีสถานได้พร้อมเฮโรอีน น้ำหนักกว่า 1 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหาลักลอบโดยใช้วิธีกลืนลงท้
วันนี้ 20 ม.ค.2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการเดินหน้ากำหนดทิศทางกฎหมายควบคุมยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามความในประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564 เป็
จนท.ศุลกากรจับชาวปากีสถานลักลอบขนเฮโรอีน เจ้าหน้าที่ศุลกากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสามารถจับกุมชาวปากีสถานได้พร้อมเฮโรอีน น้ำหนักกว่า 1 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหาลักลอบโดยใช้วิธีกลืนลงท้อง จนท.ศุลกากรจับชาวปากีสถานลักลอบขนเฮโรอีน เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 1 ส่วนสืบสวนปราบปราม 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุม นายนูร อีลาฮี อายุ 34 ปี ชาวปากีสถาน พร้อมของกลางเฮโรอีน บรรจุในถุงยางหุ้มด้วยเทปกาว 110 ก้อน น้ำหนักรวมกว่า 1 กิโลกรัม ขณะเดินทางเข้าประเทศไทย นายเสรี ไทยจงรักษ์ ผู้อำนวยการ สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลการ ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับ เป็นผู้ที่มีสัญชาติที่ถูกเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะว่ามีข้อมูลสถิติว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายต้องสงสัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติกรรมอย่างเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่พบนายอีลาฮี ขณะเดินทางมาจาก เมืองเปซาวา ประเทศปากีสถาน ที่อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในลักษณะมีพิรุธ แม้การตรวจค้นตัวและสัมภาระจะไม่พบสิ่งใด แต่หลังนำตัวไปตรวจด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ กลับพบสิ่งแปลกปลอมในท้องจำนวนมาก เมื่อถ่ายออกมาก็พบวัตถุเป็นแท่ง ทรงแคปซูล บรรจุอยเกม คา สิ โน เครดิต ฟรีู่ในถุงหุ้มด้วยเทปกาวถึง 110 ก้อน น้ำหนักกว่า 1 กิโลกรัม หลังตรวจด้วยน้ำยาทดสอบพบว่าเป็นเฮโรอีน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวน นายอีลาฮี สารภาพว่า รับจ้างเดินทางมาประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 เพื่อนำเฮโรอีนมาส่งให้ลูกค้า โดยจะเดินทางเข้าเขต กรุงเทพมหานคร เพื่อหาที่พักก่อนจะขับถ่ายเอายาเสพติดออกมา และโทรศัพท์ไปบอกผู้ว่าจ้างที่ประเทศปากีสถาน เพื่อให้แจ้งกลับมายังลูกค้าในประเทศไทยให้มารับ โดยจะได้ค่าจ้าง 500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 45,000 บาท ทันทีที่เดินทางกลับไปถึงปากีสถาน เบื้องต้น นายอีลาฮีถูกนำตัวส่งไปดำเนินคดี ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เฮโรอีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 1 ส่วนสืบสวนปราบปราม 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุม นายนูร อีลาฮี อายุ 34 ปี ชาวปากีสถาน พร้อมของกลางเฮโรอีน บรรจุในถุงยางหุ้มด้วยเทปกาว 110 ก้อน น้ำหนักรวมกว่า 1 กิโลกรัม ขณะเดินทางเข้าประเทศไทย นายเสรี ไทยจงรักษ์ ผู้อำนวยการ สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลการ ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับ เป็นผู้ที่มีสัญชาติที่ถูกเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะว่ามีข้อมูลสถิติว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายต้องสงสัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติกรรมอย่างเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่พบนายอีลาฮี ขณะเดินทางมาจาก เมืองเปซาวา ประเทศปากีสถาน ที่อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในลักษณะมีพิรุธ แม้การตรวจค้นตัวและสัมภาระจะไม่พบสิ่งใด แต่หลังนำตัวไปตรวจด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ กลับพบสิ่งแปลกปลอมในท้องจำนวนมาก เมื่อถ่ายออกมาก็พบวัตถุเป็นแท่ง ทรงแคปซูล บรรจุอยู่ในถุงหุ้มด้วยเทปกาวถึง 110 ก้อน น้ำหนักกว่า 1 กิโลกรัม หลังตรวจด้วยน้ำยาทดสอบพบว่าเป็นเฮโรอีน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวน นายอีลาฮี สารภาพว่า รับจ้างเดินทางมาประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 เพื่อนำเฮโรอีนมาส่งให้ลูกค้า โดยจะเดินทางเข้าเขต กรุงเทพมหานคร เพื่อหาที่พักก่อนจะขับถ่ายเอายาเสพติดออกมา และโทรศัพท์ไปบอกผู้ว่าจ้างที่ประเทศปากีสถาน เพื่อให้แจ้งกลับมายังลูกค้าในประเทศไทยให้มารับ โดยจะได้ค่าจ้าง 500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 45,000 บาท ทันทีที่เดินทางกลับไปถึงปากีสถาน เบื้องต้น นายอีลาฮีถูกนำตัวส่งไปดำเนินคดี ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เฮโรอีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (13 มี.ค.2564) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณียื่นคำร้องยุบ
กลายเป็นกระแสชื่นชมในสื่อสังคมออนไลน์ หลังมีการส่งต่อภาพบัณฑิตมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช
เช้าวันนี้ (6 ก.พ.2567) บริเวณปางช้างแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ควาญช้างที่ดูแลพังดัมนี่ พร้อมเจ้
จนท.ศุลกากรจับชาวปากีสถานลักลอบขนเฮโรอีน เจ้าหน้าที่ศุลกากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสามารถจับกุมชาวปากีสถานได้พร้อมเฮโรอีน น้ำหนักกว่า 1 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท ซึ่งผู้ต้องหาลักลอบโดยใช้วิธีกลืนลงท้อง จนท.ศุลกากรจับชาวปากีสถานลักลอบขนเฮโรอีน เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 1 ส่วนสืบสวนปราบปราม 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุม นายนูร อีลาฮี อายุ 34 ปี ชาวปากีสถาน พร้อมของกลางเฮโรอีน บรรจุในถุงยางหุ้มด้วยเทปกาว 110 ก้อน น้ำหนักรวมกว่า 1 กิโลกรัม ขณะเดินทางเข้าประเทศไทย นายเสรี ไทยจงรักษ์ ผู้อำนวยการ สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลการ ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับ เป็นผู้ที่มีสัญชาติที่ถูกเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะว่ามีข้อมูลสถิติว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายต้องสงสัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติกรรมอย่างเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่พบนายอีลาฮี ขณะเดินทางมาจาก เมืองเปซาวา ประเทศปากีสถาน ที่อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในลักษณะมีพิรุธ แม้การตรวจค้นตัวและสัมภาระจะไม่พบสิ่งใด แต่หลังนำตัวไปตรวจด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ กลับพบสิ่งแปลกปลอมในท้องจำนวนมาก เมื่อถ่ายออกมาก็พบวัตถุเป็นแท่ง ทรงแคปซูล บรรจุอยเกม คา สิ โน เครดิต ฟรีู่ในถุงหุ้มด้วยเทปกาวถึง 110 ก้อน น้ำหนักกว่า 1 กิโลกรัม หลังตรวจด้วยน้ำยาทดสอบพบว่าเป็นเฮโรอีน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวน นายอีลาฮี สารภาพว่า รับจ้างเดินทางมาประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 เพื่อนำเฮโรอีนมาส่งให้ลูกค้า โดยจะเดินทางเข้าเขต กรุงเทพมหานคร เพื่อหาที่พักก่อนจะขับถ่ายเอายาเสพติดออกมา และโทรศัพท์ไปบอกผู้ว่าจ้างที่ประเทศปากีสถาน เพื่อให้แจ้งกลับมายังลูกค้าในประเทศไทยให้มารับ โดยจะได้ค่าจ้าง 500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 45,000 บาท ทันทีที่เดินทางกลับไปถึงปากีสถาน เบื้องต้น นายอีลาฮีถูกนำตัวส่งไปดำเนินคดี ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เฮโรอีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายสืบสวนปราบปรามที่ 1 ส่วนสืบสวนปราบปราม 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุม นายนูร อีลาฮี อายุ 34 ปี ชาวปากีสถาน พร้อมของกลางเฮโรอีน บรรจุในถุงยางหุ้มด้วยเทปกาว 110 ก้อน น้ำหนักรวมกว่า 1 กิโลกรัม ขณะเดินทางเข้าประเทศไทย นายเสรี ไทยจงรักษ์ ผู้อำนวยการ สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลการ ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับ เป็นผู้ที่มีสัญชาติที่ถูกเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะว่ามีข้อมูลสถิติว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายต้องสงสัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามพฤติกรรมอย่างเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่พบนายอีลาฮี ขณะเดินทางมาจาก เมืองเปซาวา ประเทศปากีสถาน ที่อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในลักษณะมีพิรุธ แม้การตรวจค้นตัวและสัมภาระจะไม่พบสิ่งใด แต่หลังนำตัวไปตรวจด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ กลับพบสิ่งแปลกปลอมในท้องจำนวนมาก เมื่อถ่ายออกมาก็พบวัตถุเป็นแท่ง ทรงแคปซูล บรรจุอยู่ในถุงหุ้มด้วยเทปกาวถึง 110 ก้อน น้ำหนักกว่า 1 กิโลกรัม หลังตรวจด้วยน้ำยาทดสอบพบว่าเป็นเฮโรอีน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปสอบสวน นายอีลาฮี สารภาพว่า รับจ้างเดินทางมาประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 เพื่อนำเฮโรอีนมาส่งให้ลูกค้า โดยจะเดินทางเข้าเขต กรุงเทพมหานคร เพื่อหาที่พักก่อนจะขับถ่ายเอายาเสพติดออกมา และโทรศัพท์ไปบอกผู้ว่าจ้างที่ประเทศปากีสถาน เพื่อให้แจ้งกลับมายังลูกค้าในประเทศไทยให้มารับ โดยจะได้ค่าจ้าง 500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 45,000 บาท ทันทีที่เดินทางกลับไปถึงปากีสถาน เบื้องต้น นายอีลาฮีถูกนำตัวส่งไปดำเนินคดี ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เฮโรอีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2566 รัฐสภานิวซีแลนด์สั่งห้ามใช้งานแอปพลิเคชัน TikTok บนเครื่องมือสื่อสารของรัฐท