วันนี้ (5 เม.ย.2565) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่

หรือจะเรียก “พฤษภาประชาธรรม” ที่มีอ้างถึงในภายหลัง ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่เกิดขึ้นที่ถนนราชดำเนิน และพื้นที่ใกล้เคียงได้ แค่หยดเลือดที่แต้มแต่งถนน ระหว่างเสียงห่ากระสุนที่พุ่งใส่อีกฝ่ายที่มีเพี
วันนี้ (1 พ.ค.2566) นายวิสัน กุดแถลง หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.45 น.ได้มีกลุ่มบุคคลปิดบังใบหน้า พร้อมอาวุธครบมือจำนวนประมาณ 30 คน และร
กรณีการรั่วไหลของ "สารแอมโมเนีย" ภายในโรงงานน้ำแข็งราชา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยแอมโมเนียฟุ้งกระจายไปในรัศมี 1 กิโลเมตร เหตุการณ์นี้ เจ้าหน้าที่เร่งอพยพประชาชนและคนงานออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย พร้อมกับสั่งห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้บริเวณเกิดเหตุ รวมทั้งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ได้รับสารเคมี ส่งโรงพยาบาลโดยด่วน ซึ่งบางรายมีอาการแสบตา แสบจมูก บางรายหมดสติ จากเหตุการณ์นี้เบื้องต้นมีผู้ประสบภัตรวจ สลากกินแบ่ง รัฐบาล 2 พฤษภาคม 2563ยกระจายรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่าง ๆจำนวน 141 คน ขณะที่ อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี จะลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกครั้ง วันนี้จะชวนมาทำความเข้าใจอันตรายของ "สารแอมโมเนีย" ให้มากขึ้น อ่าน : ระเบิดในโรงงานน้ำแข็งบางละมุง แอมโมเนียรั่ว อพยพ ปชช.วุ่น เจ็บกว่า 100 คน "สารแอมโมเนีย" เป็นสารเคมีที่ถูกจำแนกความอันตรายไว้เป็นประเภท (Class) 2.3 คือ ก๊าซพิษและกัดกร่อน และยังเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 โดยมีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างหลากหลายทั้งด้านเกษตรกรรม เช่น ปุ๋ยแอมโมเนียไนเตรท และอุตสาหกรรม เช่น ก๊าซแอมโมเนียสำหรับทำความเย็นของอุตสาหกรรมห้องเย็น โรงผลิตน้ำแข็ง ซึ่งเป็นโรงงานประเภทหนึ่ง ที่มีความเสี่ยงอันตรายจากเคมีดังกล่าว และก่อให้เกิดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม โดยหากมีการปนเปื้อนสู่แหล่งน้ำ จะส่งผลให้ปลาและสัตว์น้ำตาย "แอมโมเนีย" หากเกิดการรั่วไหลของสารแอมโมเนีย จะทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากได้รับในปริมาณมาก อาจถึงขั้นทำลาย "ปอด" "แอมโมเนีย" มีประโยชน์ในด้านอุตสาหกรรมที่หลากหลายประเภท แต่การสัมผัสกับ "แอมโมเนีย" ในปริมาณมากหรือความเข้มข้นสูง จะส่งผลให้เกิดความผิดปกติกับสุขภาพร่างกาย ได้อย่างไรบ้าง มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ "การสัมผัส" : แอมโมเนียเป็นสารเคมีที่เป็นอันตรายสูงต่อสุขภาพ หากสัมผัสหรือเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เจ็บป่วยเฉียบพลัน เมื่อก๊าซแอมโมเนียสัมผัสกับน้ำจะทำให้เกิดปฏิกิริยา มีฤทธิ์กัดกร่อนเนื้อเยื่อ เยื่อบุต่าง ๆ ของร่างกายที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการแสบตา ตาบวม น้ำตาไหล เวียนหัว ตาลาย อาเจียน ระคายเคืองผิวหนัง แสบคันตามผิวหนัง เป็นแผลไหม้ "การสูดดม" : หากสูดดมแอมโมเนีย เข้าไปทำให้ แสบจมูก แสบคอ บางรายอาจมีอาการไอ เจ็บหน้าอก ทำให้ปอดบวมน้ำ เสี่ยงหัวใจวาย หากสูดดมก๊าซที่ความเข้มข้นสูงมากจนหมดสติ จะระคายเคืองหลอดลมและถุงลมอย่างต่อเนื่อง มีอาการเหมือนเป็นหืด หรือมีอาการระคายเคืองง่ายขึ้นหลังสูดดมก๊าซ หรือฝุ่นอื่น ๆ รวมไปถึงจะส่งผลระยะยาวเป็นเดือนหรือปี ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง อาการระยะยาว ได้แก่ ผู้ที่สัมผัส (มักพบในกรณีผู้ทำงานในโรงงาน) เป็นระยะเวลานาน อาจมีอาการไอเรื้อรัง เหนื่อยขึ้น เอกซเรย์ปอดผิดปกติหรือตรวจการทำงานปอด ผิดปกติ มีรายงานการเกิดพังพืดในปอด ทั้งนี้ ในส่วนของอุบัติภัยการรั่วไหลมักจะเกิดอาการแบบเฉียบพลันเป็นส่วนใหญ่ นพ.ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา อธิบายไว้ว่า "สารแอมโมเนีย" อุบัติเหตุรั่วไหลของ "แอมโมเนีย" ในประเทศไทย ส่วนใหญ่เกิดจากการเลือกใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งาน อุปกรณ์ชำรุด เช่น วาล์วรั่ว เกิดความผิดพลาดระหว่างจัดเก็บหรือขนย้ายสารแอมโมเนีย ประเก็นรั่ว และขาดการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี วิธีป้องกัน ก๊าซแอมโมเนียรั่วไหล สำหรับผู้ประกอบการโรงงานต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ใช้อุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐานสากล ดูแลรักษา ซ่อมบำรุงอุปกรณ์อยู่เสมอ ดังนี้ ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุร้าย แต่การป้องกันและรู้วิธีการปฏิบัติที่ถูกต้อง เหมาะสมเมื่อเกิดเหตุ "ก๊าซแอมโมเนียรั่วไหล" จะทำให้เราสามารถที่จะลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ แล้วเราจะสามารถทำได้อย่างไรบ้างนั้น มีรายละเอียดดังนี้ สำหรับวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น สามารถทำได้ตามวิธีการดังต่อไปนี้ อ่านข่าวอื่น ๆ "นิวเคลียร์" จุดอ่อนอิหร่าน ทั่วโลกหวั่น "อิสราเอล" โจมตี "จุลพันธ์"ปัดตอบ-ขอตรวจสอบ"คลัง"ถือหุ้นบ.แคดเมียมตาก 10% กรมอุทยานฯ ตรวจสอบสวนสัตว์ลพบุรี แนะปรับปรุง 4 ข้อใน 60 วัน
กรณีการรั่วไหลของ "สารแอมโมเนีย" ภายในโรงงานน้ำแข็งราชา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงกลาง
นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน พูดเรื่องนี้เมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากได้พบกับ อดีตประธาน FIA ที่ฝรั่งเศส และพูดคุ
วันนี้ (31 มี.ค.2565) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุ ถึงเหตุไม่สงบที่ อ.บันนังสตา จ.ยะ
กรณีการรั่วไหลของ "สารแอมโมเนีย" ภายในโรงงานน้ำแข็งราชา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยแอมโมเนียฟุ้งกระจายไปในรัศมี 1 กิโลเมตร เหตุการณ์นี้ เจ้าหน้าที่เร่งอพยพประชาชนและคนงานออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย พร้อมกับสั่งห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้บริเวณเกิดเหตุ รวมทั้งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ได้รับสารเคมี ส่งโรงพยาบาลโดยด่วน ซึ่งบางรายมีอาการแสบตา แสบจมูก บางรายหมดสติ จากเหตุการณ์นี้เบื้องต้นมีผู้ประสบภัตรวจ สลากกินแบ่ง รัฐบาล 2 พฤษภาคม 2563ยกระจายรักษาตัวตามโรงพยาบาลต่าง ๆจำนวน 141 คน ขณะที่ อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี จะลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุอีกครั้ง วันนี้จะชวนมาทำความเข้าใจอันตรายของ "สารแอมโมเนีย" ให้มากขึ้น อ่าน : ระเบิดในโรงงานน้ำแข็งบางละมุง แอมโมเนียรั่ว อพยพ ปชช.วุ่น เจ็บกว่า 100 คน "สารแอมโมเนีย" เป็นสารเคมีที่ถูกจำแนกความอันตรายไว้เป็นประเภท (Class) 2.3 คือ ก๊าซพิษและกัดกร่อน และยังเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 โดยมีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างหลากหลายทั้งด้านเกษตรกรรม เช่น ปุ๋ยแอมโมเนียไนเตรท และอุตสาหกรรม เช่น ก๊าซแอมโมเนียสำหรับทำความเย็นของอุตสาหกรรมห้องเย็น โรงผลิตน้ำแข็ง ซึ่งเป็นโรงงานประเภทหนึ่ง ที่มีความเสี่ยงอันตรายจากเคมีดังกล่าว และก่อให้เกิดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม โดยหากมีการปนเปื้อนสู่แหล่งน้ำ จะส่งผลให้ปลาและสัตว์น้ำตาย "แอมโมเนีย" หากเกิดการรั่วไหลของสารแอมโมเนีย จะทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากได้รับในปริมาณมาก อาจถึงขั้นทำลาย "ปอด" "แอมโมเนีย" มีประโยชน์ในด้านอุตสาหกรรมที่หลากหลายประเภท แต่การสัมผัสกับ "แอมโมเนีย" ในปริมาณมากหรือความเข้มข้นสูง จะส่งผลให้เกิดความผิดปกติกับสุขภาพร่างกาย ได้อย่างไรบ้าง มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ "การสัมผัส" : แอมโมเนียเป็นสารเคมีที่เป็นอันตรายสูงต่อสุขภาพ หากสัมผัสหรือเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เจ็บป่วยเฉียบพลัน เมื่อก๊าซแอมโมเนียสัมผัสกับน้ำจะทำให้เกิดปฏิกิริยา มีฤทธิ์กัดกร่อนเนื้อเยื่อ เยื่อบุต่าง ๆ ของร่างกายที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการแสบตา ตาบวม น้ำตาไหล เวียนหัว ตาลาย อาเจียน ระคายเคืองผิวหนัง แสบคันตามผิวหนัง เป็นแผลไหม้ "การสูดดม" : หากสูดดมแอมโมเนีย เข้าไปทำให้ แสบจมูก แสบคอ บางรายอาจมีอาการไอ เจ็บหน้าอก ทำให้ปอดบวมน้ำ เสี่ยงหัวใจวาย หากสูดดมก๊าซที่ความเข้มข้นสูงมากจนหมดสติ จะระคายเคืองหลอดลมและถุงลมอย่างต่อเนื่อง มีอาการเหมือนเป็นหืด หรือมีอาการระคายเคืองง่ายขึ้นหลังสูดดมก๊าซ หรือฝุ่นอื่น ๆ รวมไปถึงจะส่งผลระยะยาวเป็นเดือนหรือปี ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง อาการระยะยาว ได้แก่ ผู้ที่สัมผัส (มักพบในกรณีผู้ทำงานในโรงงาน) เป็นระยะเวลานาน อาจมีอาการไอเรื้อรัง เหนื่อยขึ้น เอกซเรย์ปอดผิดปกติหรือตรวจการทำงานปอด ผิดปกติ มีรายงานการเกิดพังพืดในปอด ทั้งนี้ ในส่วนของอุบัติภัยการรั่วไหลมักจะเกิดอาการแบบเฉียบพลันเป็นส่วนใหญ่ นพ.ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา อธิบายไว้ว่า "สารแอมโมเนีย" อุบัติเหตุรั่วไหลของ "แอมโมเนีย" ในประเทศไทย ส่วนใหญ่เกิดจากการเลือกใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งาน อุปกรณ์ชำรุด เช่น วาล์วรั่ว เกิดความผิดพลาดระหว่างจัดเก็บหรือขนย้ายสารแอมโมเนีย ประเก็นรั่ว และขาดการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี วิธีป้องกัน ก๊าซแอมโมเนียรั่วไหล สำหรับผู้ประกอบการโรงงานต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ใช้อุปกรณ์ที่ได้รับมาตรฐานสากล ดูแลรักษา ซ่อมบำรุงอุปกรณ์อยู่เสมอ ดังนี้ ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุร้าย แต่การป้องกันและรู้วิธีการปฏิบัติที่ถูกต้อง เหมาะสมเมื่อเกิดเหตุ "ก๊าซแอมโมเนียรั่วไหล" จะทำให้เราสามารถที่จะลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ แล้วเราจะสามารถทำได้อย่างไรบ้างนั้น มีรายละเอียดดังนี้ สำหรับวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น สามารถทำได้ตามวิธีการดังต่อไปนี้ อ่านข่าวอื่น ๆ "นิวเคลียร์" จุดอ่อนอิหร่าน ทั่วโลกหวั่น "อิสราเอล" โจมตี "จุลพันธ์"ปัดตอบ-ขอตรวจสอบ"คลัง"ถือหุ้นบ.แคดเมียมตาก 10% กรมอุทยานฯ ตรวจสอบสวนสัตว์ลพบุรี แนะปรับปรุง 4 ข้อใน 60 วัน
วันนี้ (5 ธ.ค.66) พล.ต.ต.สมพร สัจพจน์ รองผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะโฆษกกองบัญชาการศึกษา เปิดเผยว่า ตามท