Presiden Prabowo Subianto memimpin rapat terbatas

เพราะความเคลื่อนไหวของฝ่ายที่คัดค้านไม่เห็นด้วย ได้ขยายวงอย่างต่อเนื่อง และพุ่งเป้าไปที่เรื่องทางกฎหมายเป็นหลัก หลังจากก่อนหน้านี้ การรวมตัวของนักเศรษฐศาสตร์ 99 คน ที่นำโดยอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเท
วันนี้ (9 ม.ค.2564) นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยลูกจ้างผู้ใช้แรงงาน พร้อมสั่งการมาที่ตนให้ติดตามปัญหาต่างๆ
แต่หลายจังหวัด ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) เดินหน้าแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในจังหวัดมาก่อนแล้ว หนึ่งในนั้น คือ "ขอนแก่น" จังหวัดที่ได้รับการยอมรับว่า สามารถระดมความร่วมมือจากหลายภาคส่วนมาช่วยกันแก้ปัญหาเด็กยากจน-ด้อยโอกาส และเด็กนอกระบบให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผลงานล่าสุด คือ การสร้างบ้านใหม่ให้ "บุญรอด" เด็กหญิงดรุณี หวานเหย ไทยพีบีเอสพูดคุยกับ "อุทัยรัตน์ อนุสุเรนทร์" ผอ.กลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผล ศธจ.ขอนแก่น หนึ่งในกำลังสำคัญ หรือ Core team ตัวแทนจาก 4 กระทรวงหลัก ว่าอะไรคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ จ.ขอนแก่น เดินมาไกลขนาดนี้ และอะไรคือโจทย์ที่ต้องทำต่อ อ่านข่าวเกี่ยวข้อง บ้านหลังใหม่ของ "บุญรอด" ฟื้นชีวิตผู้หญิงตัวเล็กๆ และครอบครัว อุทัยรัตน์ อนุสุเรนทร์ หรือแม่อู๋ ของเด็กๆ บอกว่า ความสำเร็จมาจากทั้ง 4 กระทรวงหลักที่ทำงานร่วมกัน ได้แก่ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัด มีเครือข่ายคนทำงานในพื้นที่ เช่น ครู อปท. กำนันผู้ใหญ่บ้าน อสม. อพม.ที่ทำงานใกล้ชิดกับเด็กอยู่แล้ว แต่ความยาก คือ การเข้าถึงตัวเด็กที่มีปัญหา เพราะเกือบทุกกรณีจะมีปม หรือ ร่องรอยบาดแผลทั้งทางร่างกายและจิตใจ การลงพื้นที่ไปพบปะพูดคุยหลายๆ ครั้ง จึงเป็นขั้นตอนการทำงานที่สำคัญที่สุด ถ้าเด็กเปิดใจ ก็จะเป็นต้นทางการระดมความช่วยเหลือให้ตรงกับปัญหาและความต้องการ แต่จะทำอย่างนี้ได้ อุทัยรัตน์ ย้ำว่า คนทำงานต้องตระหนักว่า "เรากับเขาเท่ากัน" ไม่ใช่ว่าเรามาจากราชการแล้วจะไปสั่งเขาได้ เพราะแน่นอนสูตร บา คา ร่า เซียนว่าไม่มีใครต้องการประโยคคำสั่ง ส่วน เวลาทำงานก็ต้องปรับไปตามสภาพ ถ้าเด็กเริ่มเปิดใจคุย ก็จำเป็นต้องตัดคำว่า "เวลา" ออกไป เมื่อเปิดใจคุยกันได้ สิ่งที่ได้กลับมา คือ "ข้อมูล" ที่คนทำงานจะประมวล และส่งต่อมาให้ Core team จังหวัด มาร่วมกันคัดกรองและจัดลำดับความรุนแรงของปัญหาว่า ใครหนักเบา เพื่อจะได้ช่วยเหลือตามแผนที่ผู้จัดการรายกรณี (Case Manager-CM) วางไว้ อุทัยรัตน์ บอกว่า ข้อมูลจากพื้นที่จะช่วยเติมความสมบูรณ์ให้กับฐานข้อมูลที่มีอยู่ แต่ก็ต้องมีการจัดการให้เป็นระบบและให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ง่าย เพราะที่ผ่านมา ทีมงานต้องใช้เวลาอย่างมากในการตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่ง การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ผ่านการค้นหา ช่วยเหลือ และดูแลเด็กเป็นรายกรณี เป็นงานยาก มีความสลับซับซ้อน ต้องใช้ทั้งพลังกายและพลังใจมากกว่าการทำงานตามหน้าที่ปกติ แต่ละหน่วยงานในจังหวัด มีแนวทางการพัฒนาคนทำงานตามหน้าที่แตกต่างกัน สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ที่เป็นหน่วยประสานความร่วมมือและมีต้นทุนทางความรู้ ต้องทำหน้าที่เสริมความแข็งแกร่งให้คนทำงานในพื้นที่ที่อยู่ใกล้ชิดเด็ก 2-3 ปีที่ผ่านมา ขอนแก่น สร้างเครือข่ายคนทำงานด้านนี้ไว้ในหลายพื้นที่ แต่ปัญหาไม่ได้หยุดนิ่ง ข้อมูลล่าสุดจาก กสศ.ระบุว่า หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 จังหวัดขอนแก่น มีเด็กนักเรียนชั้น ป.1 ถึง ม.3 ที่มีฐานะยากจนถึงยากจนพิเศษมากถึง 64,887 คน จากทั้งหมด 214,453 คน ในจำนวนนี้ เป็นเด็กเปราะบาง ตามนิยามของ พม. ไม่น้อยกว่า 14,000 คน อุทัยรัตน์ มองว่า การสร้างคนทำงานเพื่อรองรับสถานการณ์ใหม่ คือ โจทย์เร่งด่วนของจังหวัด ในฐานะพี่ใหญ่ของทีม อุทัยรัตน์ ย้ำว่า การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในระดับจังหวัด คนทำงานจากทุกหน่วยงานต้องก้าวข้ามจากความเชื่อเดิมว่า "งานนี้ไม่ใช่หน้าที่เรา" เพราะถ้าเราไม่ช่วยกันแก้ ท้ายที่สุด ปัญหาก็จะส่งผลมาถึงตัวเรา
แต่หลายจังหวัด ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) เดินหน้าแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึ
กลุ่มเปราะบาง-คนพิการ 14.5 ล้านคน เตรียมรับเงิน 10,000 บาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประ
วันนี้ ( 19 พ.ค.2567) นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวถึง เหตุ
แต่หลายจังหวัด ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) เดินหน้าแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในจังหวัดมาก่อนแล้ว หนึ่งในนั้น คือ "ขอนแก่น" จังหวัดที่ได้รับการยอมรับว่า สามารถระดมความร่วมมือจากหลายภาคส่วนมาช่วยกันแก้ปัญหาเด็กยากจน-ด้อยโอกาส และเด็กนอกระบบให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผลงานล่าสุด คือ การสร้างบ้านใหม่ให้ "บุญรอด" เด็กหญิงดรุณี หวานเหย ไทยพีบีเอสพูดคุยกับ "อุทัยรัตน์ อนุสุเรนทร์" ผอ.กลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผล ศธจ.ขอนแก่น หนึ่งในกำลังสำคัญ หรือ Core team ตัวแทนจาก 4 กระทรวงหลัก ว่าอะไรคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ จ.ขอนแก่น เดินมาไกลขนาดนี้ และอะไรคือโจทย์ที่ต้องทำต่อ อ่านข่าวเกี่ยวข้อง บ้านหลังใหม่ของ "บุญรอด" ฟื้นชีวิตผู้หญิงตัวเล็กๆ และครอบครัว อุทัยรัตน์ อนุสุเรนทร์ หรือแม่อู๋ ของเด็กๆ บอกว่า ความสำเร็จมาจากทั้ง 4 กระทรวงหลักที่ทำงานร่วมกัน ได้แก่ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัด มีเครือข่ายคนทำงานในพื้นที่ เช่น ครู อปท. กำนันผู้ใหญ่บ้าน อสม. อพม.ที่ทำงานใกล้ชิดกับเด็กอยู่แล้ว แต่ความยาก คือ การเข้าถึงตัวเด็กที่มีปัญหา เพราะเกือบทุกกรณีจะมีปม หรือ ร่องรอยบาดแผลทั้งทางร่างกายและจิตใจ การลงพื้นที่ไปพบปะพูดคุยหลายๆ ครั้ง จึงเป็นขั้นตอนการทำงานที่สำคัญที่สุด ถ้าเด็กเปิดใจ ก็จะเป็นต้นทางการระดมความช่วยเหลือให้ตรงกับปัญหาและความต้องการ แต่จะทำอย่างนี้ได้ อุทัยรัตน์ ย้ำว่า คนทำงานต้องตระหนักว่า "เรากับเขาเท่ากัน" ไม่ใช่ว่าเรามาจากราชการแล้วจะไปสั่งเขาได้ เพราะแน่นอนสูตร บา คา ร่า เซียนว่าไม่มีใครต้องการประโยคคำสั่ง ส่วน เวลาทำงานก็ต้องปรับไปตามสภาพ ถ้าเด็กเริ่มเปิดใจคุย ก็จำเป็นต้องตัดคำว่า "เวลา" ออกไป เมื่อเปิดใจคุยกันได้ สิ่งที่ได้กลับมา คือ "ข้อมูล" ที่คนทำงานจะประมวล และส่งต่อมาให้ Core team จังหวัด มาร่วมกันคัดกรองและจัดลำดับความรุนแรงของปัญหาว่า ใครหนักเบา เพื่อจะได้ช่วยเหลือตามแผนที่ผู้จัดการรายกรณี (Case Manager-CM) วางไว้ อุทัยรัตน์ บอกว่า ข้อมูลจากพื้นที่จะช่วยเติมความสมบูรณ์ให้กับฐานข้อมูลที่มีอยู่ แต่ก็ต้องมีการจัดการให้เป็นระบบและให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ง่าย เพราะที่ผ่านมา ทีมงานต้องใช้เวลาอย่างมากในการตรวจสอบข้อมูลจากหลายแหล่ง การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ผ่านการค้นหา ช่วยเหลือ และดูแลเด็กเป็นรายกรณี เป็นงานยาก มีความสลับซับซ้อน ต้องใช้ทั้งพลังกายและพลังใจมากกว่าการทำงานตามหน้าที่ปกติ แต่ละหน่วยงานในจังหวัด มีแนวทางการพัฒนาคนทำงานตามหน้าที่แตกต่างกัน สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ที่เป็นหน่วยประสานความร่วมมือและมีต้นทุนทางความรู้ ต้องทำหน้าที่เสริมความแข็งแกร่งให้คนทำงานในพื้นที่ที่อยู่ใกล้ชิดเด็ก 2-3 ปีที่ผ่านมา ขอนแก่น สร้างเครือข่ายคนทำงานด้านนี้ไว้ในหลายพื้นที่ แต่ปัญหาไม่ได้หยุดนิ่ง ข้อมูลล่าสุดจาก กสศ.ระบุว่า หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 จังหวัดขอนแก่น มีเด็กนักเรียนชั้น ป.1 ถึง ม.3 ที่มีฐานะยากจนถึงยากจนพิเศษมากถึง 64,887 คน จากทั้งหมด 214,453 คน ในจำนวนนี้ เป็นเด็กเปราะบาง ตามนิยามของ พม. ไม่น้อยกว่า 14,000 คน อุทัยรัตน์ มองว่า การสร้างคนทำงานเพื่อรองรับสถานการณ์ใหม่ คือ โจทย์เร่งด่วนของจังหวัด ในฐานะพี่ใหญ่ของทีม อุทัยรัตน์ ย้ำว่า การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในระดับจังหวัด คนทำงานจากทุกหน่วยงานต้องก้าวข้ามจากความเชื่อเดิมว่า "งานนี้ไม่ใช่หน้าที่เรา" เพราะถ้าเราไม่ช่วยกันแก้ ท้ายที่สุด ปัญหาก็จะส่งผลมาถึงตัวเรา
แรงงานร้องรัฐบาลปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 360 บาท จี้เลิกค่าจ้างแบบแบ่งเขตเพราะไม่เท่าเทียม คณะกรรมการสมานฉ