วันนี้ (11 พ.ค.2566) นางราตรี คงอยู่ เกษตรกรในพื้นที่ หมู่ 5 ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งประแพนด้า สล็อตçmafia333 v1
วันนี้ (10 เม.ย.2566) พล.ต.หญิง ศิริจันทร์ งาทçอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวการตรวจเลือกทหาร กรณีผู้çที่ไม่มารายงานตัวเข้ารับการตรวจเลือกตามหมายเรียกของทางäราชการ รวมทั้ง,,,กรณี พระเนติวิ
ดร.พญ.ฉันทนา ผดุงทศ แพทย์เชี่ยวชาญกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอส ถึงสิ่งที่ควรเฝ้าระวัง และสิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานที่ซอยกิ่งแก้ว 21 จะว่าไปแล้วก็เป็นสาธารณภัยหรือภัยพิบัติแล้วแต่จะเรียก ซึ่งมีสิ่งที่เรียกว่าเป็นวงจรการจัดการสาธารณภัย หรือ 2P2R เริ่มจาก Prevention คือ การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้น Preparedness คือ การเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือหากเกิดเหตุการณ์ขึ้น Response คือการรับมือหรือการตอบโต้เหตุการณ์ และ Recovery คือ การฟื้นฟู จริงๆ แล้วเราควรจะขึ้นต้นด้วยการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุและเตรียมความพร้อมไว้ เพื่อที่ว่าเมื่อเกิดเหตุขึ้นมาอีก เราจะได้รับมือหรือตอบโต้ได้ดีที่สุด มีประสิทธิภาพที่สุด และเมื่อตอบโต้ฟื้นฟูเสร็จแล้ว ประเด็นสำคัญคือต้องมีการถอดบทเรียนและนำกลับไปทบทวนว่า กระบวนการป้องกันหรือเตรียมความพร้อมของเรานั้น มีความผิดพลาดหรือไม่เหมาะสม ไม่มีประสิทธิภาพตรงไหน เพื่อว่าคราวต่อไปเราจะได้รับมือเหตุการณ์ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อพูดถึงการป้องกันกรณีเหตุการณ์โรงงานระเบิด เนื่องจากโรงงานประเภทนี้เป็นโรงงานอันตราย ซึ่งเจ้าของโรงงานก็ทราบดีว่า วันหนึ่งอาจจะเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้หรือเหตุระเบิดได้ ซึ่งภายใต้พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 ได้มีการออกประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องการประเมินความเสี่ยง โดยกำหนดให้ 12 ประเภทกิจการ จะต้องมีการประเมินความเสี่ยงว่า มันอาจจะเกิดเหตุไฟไหม้หรือเหตุระเบิดหรือไม่ และจะต้องมีการวางมาตรการไว้ว่าจะทำอะไร เรื่องใครมาก่อนนั้น เราไม่อาจไปแก้ไขหรือย้อนอะไรได้ตอนนี้ แต่สิ่งที่ควรทำตอนนี้คือ ประกาศกระทรวงที่กำหนดให้ต้องประเมินความเสี่ยงได้ออกมาบังคับใช้ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2532 ยังไงก็ต้องย้อนไปมีผลบังคับต่อเกือบทุกโรงงานที่เป็นประเภทนี้ โรงงานก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า แม้ตั้งมาก่อนแต่ก็ต้องประเมินความเสี่ยง เพราะสิ่งที่อยู่ในโรงงานเป็นของอันตราย หากเปรียบเทียบกับเรื่องสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่น การทำเหมือง หรือโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ก็จะมีรายงาน EIA เพื่อประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและต่อสุขภาพ กรณีนี้ก็ถือเป็นรายงานประเภทเดียวกัน ก็คือ การวิเคราะห์ความเสี่ยงและวางมาตรการป้องกัน ซึ่งกรณีนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเตรียมความพร้อมที่ดี และการตอบโต้ที่เหมาะสม กรณีนี้ ถ้าดูจากเวลาเกิดเหตุตั้งแต่ตีสาม จนถึงตีสี่ของอีกวัน การรับมือ หรือ Respond เป็นยังไง? โดยทั่วไปเมื่อเกิดเหตุสาธารณภัย จะมีการใช้สิ่งที่เรียกว่า ICS หรือ Incident Command System คือระบบบัญชาการเหตุการณ์ ซึ่งระบบนี้ก็ต้องมีผู้บัญชาการเหตุการณ์ เพราะต้องการให้เกิด Single Command เพื่อทำทุกอย่างให้มีประสิทธิภาพที่สุด ถ้าระดับเล็ก ก็คือนายอำเภอ ถัดมาก็เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด จากนั้นก็เป็นรมว.มหาดไทย และสุดท้ายก็คือนายกรัฐมนตรี ในเหตุการณ์นี้ มีงาน 3 ชิ้นใหญ่ๆ ที่ต้องทำขนานไป อันที่หนึ่งคือ งานระงับเหตุ ก็คือทีมที่จะเข้าไปดับไฟ ปิดวาวล์ ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้ที่เราเห็นก็คือทีมกู้ภัยที่ทำ ซึ่งกรมที่เกี่ยวข้องกับการระงับเหตุโดยตรง คือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย งานที่สองที่ขอย้ำว่าต้องทำขนานกันไปด้วยคือ การดูแลปกป้องสภาพแวดล้อม และรวมทั้งวิเคราะห์ว่าปนเปื้อนแค่ไหน จะออกแบบการจัดการอย่างไร เพื่อให้สภาพแวดล้อมกลับมาปลอดภัยอีกครั้ง และส่วนที่สามคือ การดูแลสุขภาพ ซึ่งจะมีคน 3 กลุ่มใหญ่ที่เราต้องดูแล กลุ่มแรก คือพนักงานโรงงาน เพราะเขาอาจจะได้รับผลกระทบจากสารเคมีนี้ กลุ่มที่สองคือกลุ่มทีมกู้ภัยหรือ First Responder ที่เข้าไปจัดการ และกลุ่มที่สาม คือประชาชน ซึ่งหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้ ก็ต้องเป็นสาธารณสุข ถ้าลงไปหน่วยย่อยก็คือ สาธารณสุขจังหวัด เหตุการณ์นี้กว่าจะรู้ว่ามีสารอะไรบ้างที่ถูกไฟไหม้ ก็ประมาณ 1 ทุ่ม จากข้อมูลที่โรงงานเป็นคนบอก แต่จะยืนยันได้ไหมว่า สารที่โรงงานบอกจะเป็นอย่างนั้นจริง? ตอนที่ทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม จะต้องพูดถึงวัตถุดิบหลักและวัตถุดิบรองที่มีอยู่ในโรงงาน เข้าใจว่าสิ่งที่เจ้าของโรงงานได้ให้ข้อมูลนั้นเป็นวัตถุดิบหลัก เพราะเขาเป็นโรงงานผลิตโฟม ก็จะต้องใช้สไตรีนโมโนเมอร์เป็นวัตถุดิบหลัก แต่แค่สารนี้ตัวเดียวไม่พอ ก็ควรจะต้องมีสารอื่นๆ อีกที่มาใช้ ซึ่งถ้าโรงงานนี้มีสารเคมี 100 ชนิด ก็ต้องมาจำแนกว่า แต่ละชนิดมีคุณสมบัติอะไร และแพนด้า สล็อตmafia333 v1แยกเก็บให้ชัดเจน เพราะอาจเกิดประกายไฟและเป็นปฏิกิริยากันเอง ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้อาจจะมาตอนท้ายก็ได้ แต่มีตัวอื่นที่ทำให้เกิดปฏิกิริยา ข้อมูลเหล่านี้จะอยู่รายงานประเมิน และจะทำให้เราสามารถรู้ได้ว่า ตอนที่เข้าไปเผชิญเหตุ เราจะเจอกับอะไร เพราะตอนแรกที่ทีมกู้ภัยเข้าไปคิดว่าเป็นแค่ไฟไหม้โรงงานธรรมดา ก็เลยใช้น้ำดับไฟ? นี่คือสิ่งที่อยากเน้นว่า เมื่อเกิดเหตุอย่างนี้ ควรจะใช้เวลาซักนิดในการหาข้อมูลให้ได้ ถ้ามีรายงานวิเคราะห์ความเสี่ยงที่ว่านี้ ก็เอามาเป็นจุดวิเคราะห์ความเสี่ยงตั้งต้น ขณะเดียวกันก็ต้องคิดถึงสารเคมีอื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้ถูกเขียนในรายงาน แต่มีผลกระทบด้วย ซึ่งถ้าวิเคราะห์แล้วก็จะรู้แต่ต้นเลยว่า ควรจะใช้น้ำหรือไม่ เพราะสารเคมีหลายชนิดถ้าดูที่ฉลากจะมี W ที่มาจากคำว่า water และมีเส้นขีดตรงกลาง แบบนี้แปลว่าถ้าเกิดเหตุห้ามใช้น้ำดับไฟ เพราะน🥺้ำจะทำให้ไฟยิ่งหนักขึ้นไปอีก ก็ควรจะต้องมีการวิเคราะห์ตรงนี้ เพื่อตัดสินใจว่าจะใช้โฟมแต่ต้น หรือใช้น้ำ ถ้าเรามีการประชุมก่อนดับเพลิงว่า อะไรที่เราจะต้องดับ ดับด้วยอะไร วิธีไหน น่าจะทำให้ลดการสูญเสียลงไปได้ และเหตุการณ์ก็อาจจะไม่ลุกลามขนาดนี้ ต้องพิจารณาผลกระทบสุขภาพจากเหตุการณ์นี้ จะมี 2 สาเหตุใหญ่ อันแรกคือ สารเคมีที่ติดไฟและทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ และอันที่สองคือ การเกิดไฟไหม้อย่างรุนแรงซึ่งทำให้เกิดฝุ่นควันและไอความร้อนที่ทำให้เกิดอันตรายได้ เพราะฉะนั้นในระยะแรกที่เกิดไฟไหม้ ก็จะต้องดูเรื่องของการสำลักควัน ไฟลวก หรือระเบิดและทำให้เกิดการบาดเจ็บ เป็นผลกระทบต่อสุขภาพตรงจุดเกิดเหตุ ในกรณีพิษเฉียบพลัน ทั่วๆ ไปก็จะมีผลกระทบต่อ 3 ระบบใหญ่ของร่างกาย อันที่หนึ่ง อาจจะมีอาการแสบคัน ระคายเยื่อบุ อันที่สองคือ บางคนอาจมีผลต่อทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ที่อาจจะระคายคอ ไอจาม มีน้ำมูกเสมหะ บางคนอาจถึงขั้นหายใจไม่ออก และอันที่สามคือ กระทบต่อระบบประสาทและสมอง จะทำให้เกิดอาการมึนเวียนศรีษะ คลื่นไส้อาเจียน ส่วนในระยะยาว ก็จะมีทั้งยาวแบบเป็นเดือนและเป็นปี กรณีแบบเป็นเดือน โดยทั่วไปที่เห็นคือ จะเกิดอาการหลอดลมอักเสบเรื้อรัง เหมือนมีเสมหะอยู่ตลอดเวล🦋า ไออยู่เรื่อยๆ บางทีก็เจ็บหน้าอก หรือบางคนก็เกิดภาวะที่เรียกว่า หลอดลมไวเกิน หมายความว่า หลังจากนี้หากเราเจอสารเคมีหรือฝุ่น ก็จะระคายตลอด 🎻และสุดท้าย กรณีเป็นปี อย่างที่เราทราบกันว่า เบนซีน เป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งหลักๆ ที่พบคือ มะเร็งเม็ดเลือดขาว โดยทั่วไปถ้าได้รับสารเคมีในปริมาณที่สูงพอ ก็จะใช้เวลาประมาณ 5-10 ปี ที่จะเกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาว คำถามคือ แล้วจะดูแลยังไง ก็จะต้องมีการขึ้นทะเบียนผู้สัมผัส เราควรจะรู้ว่าพนักงานโรงงานมีกี่คน สมมุติว่ามี 1 พันคน มีกี่คนที่อพยพไปแล้วและไม่น่าจะได้สารเคมี หรือมีอยู่ 100 คนที่ยังอยู่ในโรงงานและทำงานคู่กับทีมกู้ภัย และได้รับสารเคมีเยอะเช่นกัน ส่วนทีมกู้ภัยที่เข้าไปทำกิจกรรมมีกี่คน มีคนที่อยู่แถวหน้าที่รับสารเคมีเข้าไปเต็มๆ หน้ากากไม่ทันได้ใส่ และประชาชนมีกี่คนที่อยู่ติดรั้วโรงงาน ในเรื่องการพยากรณ์ว่า สารเคมีจะรั่วไหลไปทางไหน เรามีโปรแกรมคอมพ์พิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่ ซึ่งเวลาคาดการณ์ก็ต้องขึ้นกับข้อมูลอุตุนิยมวิทยาที่ใส่เข้าไปด้วยว่า มีข้อมูลท✨ี่เพียงพอหรือเปล่า เพราะต้องอาศัยความเร็วลม ทิศทางลม ความชื้นในอากาศ รวมทั้งอุณหภูมิด้วย ทิศทางลมหลักของประเทศไทยคือลมมรสุม เรามีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ดังนั้น อะไรก็ตามที่อยู่ในทิศนี้ ก็จะพัดกลับไปมาอยู่อย่างนี้ ประเด็นคือ การที่สารเคมีพัดไปมา ซึ่งการดับไฟยากง่ายก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่สำคัญที่จะมีผลต่อคนคือ จุดอพยพ คือเราไม่ควรจะชะล่าใจว่า ลมกำลังพัดไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ แล้วเราอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ แปลว่าเราอยู่ใต้ลมแน่ๆ ไม่อยู่เหนือลม เพราะถ้าลมพัดกลับมาเมื่อไหร่ ก็จะกลับมาหาเราทันที ดังนั้น จุดอพยพที่ปลอดภัยควรจะตั้งฉาก คือควรอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หรือตะวันตกเฉียงใต้กับทิศทางลม จะได้ไม่มารบกวน🐏🚨แน่ๆ แต่คำถามว่าควรจะอยู่ห่างกี่กิโลเมตร อันนี้เป็นไปได้หมด เพราะสารเคมีมีหลายประเภท บางชนิดลอยต่ำ บางชนิดลอยสูง อย่างที่เห็นในเหตุการณ์นี้ ช่วงแรกควันจะลอยขึ้นข้างบน แต่ต่อมาควันจะหนักและอยู่ข้างล่าง แสดงว่ามีสารเคมีหลายชนิด เพราะลักษณะกลุ่มควันที่แตกต่างกัน แต่ถ้าเป็นภาวะพิษเรื้อรังระยะยาว เช่น มะเร็ง บางคนได้รับสารเคมีแค่ครั้งเดียว ก็เป็นมะเร็งเลย บางคนได้รับหลายครั้ง แต่ร่างกายมีกา🦋รจัดการได้ ก็ไม่เป็นมะเร็ง เพียงแต่ว่าเราไม่รู้ว่าเราเป็นประเภทไหน ใช่ นี่จึงเป็นเหตุผลว่า เราต้องขึ้นทะเบียนผู้สัมผัสในเหตุการณ์ครั้งนี้ ถ้าเราเป็นประชาชนธรรมดาเราต้องถามตัวเองว่า ตลอด 25 ชั่วโมงที่ไฟไหม้ เราอยู่ตรงไหน เราอยู่ริมรั้วโรงงานประมาณ 5 ชั่วโมง เสร็จแล้วเราเคลื่อนย้ายตัวเองไปที่จุดอพยพ และอยู่ตรงนั้นตลอด 20 ชั่วโมงที่เหลือ และเราก็อยู่ตรงนั้นประมาณ 2 วัน ถึงได้กลับบ้านตอนที่หน่วยงานบอกว่ากลับได้แล้ว คือเราต้องเข้าใจตัวเองก่อนว่า สัมผัสมากน้อยแค่ไหน อยู่ตรงไหน และถ้าจะต้องมีการช่วยเหลือจากภาครัฐและการดูแลทั้งหมด ก็จะต้องมีระบบขึ้นทะเบียน ซึ่งเราอาจจจะให้ประชาชนลงทะเบียนในแอพ ถ้าหมอพร้อมใช้ได้ ขอยืมมาใช้ลงทะเบียนกรณีนี้ได้ไหม หรือทางฝั่งท้องถิ่นที่จะรู้ทะเบียนบ้านของประชาชนอยู่แล้วว่ามีกี่หลังคาเรือน มีใครบ้าง ก็อาจจะทำให้รวบรวมข้อมูลได้เร็วขึ้น หรือกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อำนวยความสะดวกและได้รับควันเต็มที่ ก็เป็นมะเร็งที่ต่อมไทมัส ทั้ง 2 เคสนี้ในชีวิตไม่ได้สัมผัสเหตุการณ์อะไรที่ก่อมะเร็งนอกจากเหตุการณ์ครั้งนั้น กรณีทะเลสีดำหรือเหตุการณ์น้ำมันรั่วที่เกาะเสม็ด เราพบว่า กำลังพลของกองทัพเรือประมาณ 2,000 กว่านาย ที่สัมผัสน้ำมันในครั้งนั้น ก็อาจจะมีใครบางคนที่ถึงขั้นเป็นมะเร็ง ดังนั้น เราก็จะบอกเขาว่า ในอนาคตถ้าเขาเป็นมะเร็ง ตอนที่ไปหาหมอให้บอกหมอด้วยว่า เขาเคยมีประวัติแบบนี้ เพราะบางทีหมออาจจะไม่ถาม แต่เราก็ต้องบอก timeline ของเรา ดังนั้น คนที่เจอเหตุการณ์โรงงานระเบิดครั้งนี้ ก็ต้องถือเป็นจุดสำคัญของชีวิตที่จะต้องมาร์กเอาไว้ว่า ถ้าในอนาคตข้างหน้าแล้วเขาเกิดเป็นมะเร็ง หรือมีความเจ็บป่วยเรื้อรัง จะต้องคิดถึงว่า อาจจะเกิดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ สุดท้ายอาจจะต้องกลับไปที่ประชาชนที่จะต้องดูแลตัวเอง เพราะอย่างกรณีคลองเตย ภาครัฐให้ความสนใจอยู่ประมาณ 2 ปี หลังจากนั้นก็เงียบไป เหตุการณ์น้ำมันรั่วที่เกาะเสม็ด กองทัพเรือไปดูแลกำลังพลได้แค่ประมาณปีครึ่ง แล้วทุกคนก็ปลดระวางไป ส่วนกรณีไฟไหม้บ่อขยะแพรกษา ก็มีการดูแลทีมดับเพลิง โดยโรงพยาบาลของ กทม. ร่วมมือกันดูแล ก็ทำได้ประมาณ 6 เดือนแล้วก็หายไป ถามหามาตลอดว่า ควรจะเป็นความรับผิดชอบของใคร ถ้าเป็นฝั่งของพนักงานโรงงานหรือทีมกู้ภัย กรณีนี้ยังมีโอกาสที่จะได้รับเงินจากกองทุนเงินทดแทน แต่สำหรับประชาชนแล้ว ทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่มีกองทุนไหนมาดูแล เคยบอกว่าโรงงานก็ควรมีกองทุน คล้ายกับกองทุนดูแลชุมชนรอบโรงไฟฟ้า โรงงานสารเคมีที่มีความเสี่ยงสามารถผูกโยงให้ต้องมาประกันสร้างระบบเฝ้าระวังระยะยาว ไม่ใช่แค่ประกันความเสียหาย แต่ต้องมีเงินมาทำให้ภาครัฐสามารถดูแลประชาชนได้ 2 R ที่คุณหมอสะท้อนชัดว่า มีข้อจำกัดแน่ๆ พอมาฟื้นฟูแล้วก็มีบทเรียนที่ทำบ้างไม่ทำบ้าง และกรณีแบบนี้ไม่ได้มีโรงงานเดียว เหมือนมีระเบิดเวลาวางไว้ แล้วเราจะทำยังไง? ก็สุดท้ายระหว่างรัฐบาลกลาง ท้องถิ่น และภาคประชาชน เราจะเชียร์ใครมากกว่ากัน เราจะเชียร์ให้ประชาชนเข้มแข็งและลุกขึ้นมาทำแผนที่และระบุไปว่า โรงงานนี้ระเบิดได้แน่ๆ เราก็ควรจะต้องพยายามไม่อยู่ใกล้ๆ หรือถ้าเกิดเหตุขึ้นมา จะมีจุดรวมพลยังไง หรือจะเชียร์ท้องถิ่นให้ผู้ว่าราชการจังหวัด อปท. ทวงถามถึงความปลอดภัยของชุมชน และใช้กฎหมายท้องถิ่นหรืออำนาจในการกำกับดูแลของท้องถิ่นเข้าไปจัดการให้เกิดความปลอดภัยขึ้น หรือเชียร์กรมโรงงานให้ออกกฎหมายใหม่ หรือหน่วยงานส่วนกลางที่จะออกกฎใหม่เพื่อจัดการเรื่องเหล่านี้ คงไม่ตอบคำถาม แต่ตั้งคำถาม เต็ม 10 ได้ 5 เพราะทำได้ดีกว่านี้ สงสารน้องกู้ภัยที่ต้องเสียชีวิต แต่คิดว่านอกจากทำให้เขาเป็นวีรบุรุษแล้ว เราก็ต้องทวงถามว่า มันเป็นการเสียชีวิตที่น่าจะป้องกันได้ ทำไมเราไม่ป้องกัน สงสารน้องกู้ภัยที่ต้องเสียชีวิต แต่คิดว่านอกจากทำให้เขาเป็นวีรบุรุษแล้ว เราก็ต้องทวงถามว่า มันเป็นการเสียชีวิตที่น่าจะป้องกันได้ ทำไมเราไม่ป้องกัน
ในงานเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กระบวนการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพในกลุ่มผู้สูงอายุพฤตพลัง ภายใต้โครงกา
วันนี้ (25 ส.ค.2564) ผู้สื่อข่🪐าวรายงานว่า ที🎤มสำรวจถ้ำหลวง นำโด🎈ย เวิ🌟ร์🍐🌈🎤น อ😂ันสเวิร์ธ เข้าสำรวจถ้ำหลวงคร
แพนด้า สล็อตmafia333 v1 -Polisi Dalami Motif Tersangka Predator Seks 31 Anak di Jepara
วันนี้ (11 พ.ค.2566) นางราตรี คงอยู่ เกษตรกรในพื้นที่ หมู่ 5 ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งประแพนด้า สล็อตçmafia333 v1
วันนี้ (10 เม.ย.2566) พล.ต.หญิง ศิริจันทร์ งาทçอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวการตรวจเลือกทหาร กรณีผู้çที่ไม่มารายงานตัวเข้ารับการตรวจเลือกตามหมายเรียกของทางäราชการ รวมทั้ง,,,กรณี พระเนติวิ
ดร.พญ.ฉันทนา ผดุงทศ แพทย์เชี่ยวชาญกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอส ถึงสิ่งที่ควรเฝ้าระวัง และสิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานที่ซอยกิ่งแก้ว 21 จะว่าไปแล้วก็เป็นสาธารณภัยหรือภัยพิบัติแล้วแต่จะเรียก ซึ่งมีสิ่งที่เรียกว่าเป็นวงจรการจัดการสาธารณภัย หรือ 2P2R เริ่มจาก Prevention คือ การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้น Preparedness คือ การเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือหากเกิดเหตุการณ์ขึ้น Response คือการรับมือหรือการตอบโต้เหตุการณ์ และ Recovery คือ การฟื้นฟู จริงๆ แล้วเราควรจะขึ้นต้นด้วยการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุและเตรียมความพร้อมไว้ เพื่อที่ว่าเมื่อเกิดเหตุขึ้นมาอีก เราจะได้รับมือหรือตอบโต้ได้ดีที่สุด มีประสิทธิภาพที่สุด และเมื่อตอบโต้ฟื้นฟูเสร็จแล้ว ประเด็นสำคัญคือต้องมีการถอดบทเรียนและนำกลับไปทบทวนว่า กระบวนการป้องกันหรือเตรียมความพร้อมของเรานั้น มีความผิดพลาดหรือไม่เหมาะสม ไม่มีประสิทธิภาพตรงไหน เพื่อว่าคราวต่อไปเราจะได้รับมือเหตุการณ์ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อพูดถึงการป้องกันกรณีเหตุการณ์โรงงานระเบิด เนื่องจากโรงงานประเภทนี้เป็นโรงงานอันตราย ซึ่งเจ้าของโรงงานก็ทราบดีว่า วันหนึ่งอาจจะเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้หรือเหตุระเบิดได้ ซึ่งภายใต้พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 ได้มีการออกประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องการประเมินความเสี่ยง โดยกำหนดให้ 12 ประเภทกิจการ จะต้องมีการประเมินความเสี่ยงว่า มันอาจจะเกิดเหตุไฟไหม้หรือเหตุระเบิดหรือไม่ และจะต้องมีการวางมาตรการไว้ว่าจะทำอะไร เรื่องใครมาก่อนนั้น เราไม่อาจไปแก้ไขหรือย้อนอะไรได้ตอนนี้ แต่สิ่งที่ควรทำตอนนี้คือ ประกาศกระทรวงที่กำหนดให้ต้องประเมินความเสี่ยงได้ออกมาบังคับใช้ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2532 ยังไงก็ต้องย้อนไปมีผลบังคับต่อเกือบทุกโรงงานที่เป็นประเภทนี้ โรงงานก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า แม้ตั้งมาก่อนแต่ก็ต้องประเมินความเสี่ยง เพราะสิ่งที่อยู่ในโรงงานเป็นของอันตราย หากเปรียบเทียบกับเรื่องสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่น การทำเหมือง หรือโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ก็จะมีรายงาน EIA เพื่อประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและต่อสุขภาพ กรณีนี้ก็ถือเป็นรายงานประเภทเดียวกัน ก็คือ การวิเคราะห์ความเสี่ยงและวางมาตรการป้องกัน ซึ่งกรณีนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเตรียมความพร้อมที่ดี และการตอบโต้ที่เหมาะสม กรณีนี้ ถ้าดูจากเวลาเกิดเหตุตั้งแต่ตีสาม จนถึงตีสี่ของอีกวัน การรับมือ หรือ Respond เป็นยังไง? โดยทั่วไปเมื่อเกิดเหตุสาธารณภัย จะมีการใช้สิ่งที่เรียกว่า ICS หรือ Incident Command System คือระบบบัญชาการเหตุการณ์ ซึ่งระบบนี้ก็ต้องมีผู้บัญชาการเหตุการณ์ เพราะต้องการให้เกิด Single Command เพื่อทำทุกอย่างให้มีประสิทธิภาพที่สุด ถ้าระดับเล็ก ก็คือนายอำเภอ ถัดมาก็เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด จากนั้นก็เป็นรมว.มหาดไทย และสุดท้ายก็คือนายกรัฐมนตรี ในเหตุการณ์นี้ มีงาน 3 ชิ้นใหญ่ๆ ที่ต้องทำขนานไป อันที่หนึ่งคือ งานระงับเหตุ ก็คือทีมที่จะเข้าไปดับไฟ ปิดวาวล์ ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้ที่เราเห็นก็คือทีมกู้ภัยที่ทำ ซึ่งกรมที่เกี่ยวข้องกับการระงับเหตุโดยตรง คือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย งานที่สองที่ขอย้ำว่าต้องทำขนานกันไปด้วยคือ การดูแลปกป้องสภาพแวดล้อม และรวมทั้งวิเคราะห์ว่าปนเปื้อนแค่ไหน จะออกแบบการจัดการอย่างไร เพื่อให้สภาพแวดล้อมกลับมาปลอดภัยอีกครั้ง และส่วนที่สามคือ การดูแลสุขภาพ ซึ่งจะมีคน 3 กลุ่มใหญ่ที่เราต้องดูแล กลุ่มแรก คือพนักงานโรงงาน เพราะเขาอาจจะได้รับผลกระทบจากสารเคมีนี้ กลุ่มที่สองคือกลุ่มทีมกู้ภัยหรือ First Responder ที่เข้าไปจัดการ และกลุ่มที่สาม คือประชาชน ซึ่งหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้ ก็ต้องเป็นสาธารณสุข ถ้าลงไปหน่วยย่อยก็คือ สาธารณสุขจังหวัด เหตุการณ์นี้กว่าจะรู้ว่ามีสารอะไรบ้างที่ถูกไฟไหม้ ก็ประมาณ 1 ทุ่ม จากข้อมูลที่โรงงานเป็นคนบอก แต่จะยืนยันได้ไหมว่า สารที่โรงงานบอกจะเป็นอย่างนั้นจริง? ตอนที่ทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม จะต้องพูดถึงวัตถุดิบหลักและวัตถุดิบรองที่มีอยู่ในโรงงาน เข้าใจว่าสิ่งที่เจ้าของโรงงานได้ให้ข้อมูลนั้นเป็นวัตถุดิบหลัก เพราะเขาเป็นโรงงานผลิตโฟม ก็จะต้องใช้สไตรีนโมโนเมอร์เป็นวัตถุดิบหลัก แต่แค่สารนี้ตัวเดียวไม่พอ ก็ควรจะต้องมีสารอื่นๆ อีกที่มาใช้ ซึ่งถ้าโรงงานนี้มีสารเคมี 100 ชนิด ก็ต้องมาจำแนกว่า แต่ละชนิดมีคุณสมบัติอะไร และแพนด้า สล็อตmafia333 v1แยกเก็บให้ชัดเจน เพราะอาจเกิดประกายไฟและเป็นปฏิกิริยากันเอง ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้อาจจะมาตอนท้ายก็ได้ แต่มีตัวอื่นที่ทำให้เกิดปฏิกิริยา ข้อมูลเหล่านี้จะอยู่รายงานประเมิน และจะทำให้เราสามารถรู้ได้ว่า ตอนที่เข้าไปเผชิญเหตุ เราจะเจอกับอะไร เพราะตอนแรกที่ทีมกู้ภัยเข้าไปคิดว่าเป็นแค่ไฟไหม้โรงงานธรรมดา ก็เลยใช้น้ำดับไฟ? นี่คือสิ่งที่อยากเน้นว่า เมื่อเกิดเหตุอย่างนี้ ควรจะใช้เวลาซักนิดในการหาข้อมูลให้ได้ ถ้ามีรายงานวิเคราะห์ความเสี่ยงที่ว่านี้ ก็เอามาเป็นจุดวิเคราะห์ความเสี่ยงตั้งต้น ขณะเดียวกันก็ต้องคิดถึงสารเคมีอื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้ถูกเขียนในรายงาน แต่มีผลกระทบด้วย ซึ่งถ้าวิเคราะห์แล้วก็จะรู้แต่ต้นเลยว่า ควรจะใช้น้ำหรือไม่ เพราะสารเคมีหลายชนิดถ้าดูที่ฉลากจะมี W ที่มาจากคำว่า water และมีเส้นขีดตรงกลาง แบบนี้แปลว่าถ้าเกิดเหตุห้ามใช้น้ำดับไฟ เพราะน🥺้ำจะทำให้ไฟยิ่งหนักขึ้นไปอีก ก็ควรจะต้องมีการวิเคราะห์ตรงนี้ เพื่อตัดสินใจว่าจะใช้โฟมแต่ต้น หรือใช้น้ำ ถ้าเรามีการประชุมก่อนดับเพลิงว่า อะไรที่เราจะต้องดับ ดับด้วยอะไร วิธีไหน น่าจะทำให้ลดการสูญเสียลงไปได้ และเหตุการณ์ก็อาจจะไม่ลุกลามขนาดนี้ ต้องพิจารณาผลกระทบสุขภาพจากเหตุการณ์นี้ จะมี 2 สาเหตุใหญ่ อันแรกคือ สารเคมีที่ติดไฟและทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ และอันที่สองคือ การเกิดไฟไหม้อย่างรุนแรงซึ่งทำให้เกิดฝุ่นควันและไอความร้อนที่ทำให้เกิดอันตรายได้ เพราะฉะนั้นในระยะแรกที่เกิดไฟไหม้ ก็จะต้องดูเรื่องของการสำลักควัน ไฟลวก หรือระเบิดและทำให้เกิดการบาดเจ็บ เป็นผลกระทบต่อสุขภาพตรงจุดเกิดเหตุ ในกรณีพิษเฉียบพลัน ทั่วๆ ไปก็จะมีผลกระทบต่อ 3 ระบบใหญ่ของร่างกาย อันที่หนึ่ง อาจจะมีอาการแสบคัน ระคายเยื่อบุ อันที่สองคือ บางคนอาจมีผลต่อทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ที่อาจจะระคายคอ ไอจาม มีน้ำมูกเสมหะ บางคนอาจถึงขั้นหายใจไม่ออก และอันที่สามคือ กระทบต่อระบบประสาทและสมอง จะทำให้เกิดอาการมึนเวียนศรีษะ คลื่นไส้อาเจียน ส่วนในระยะยาว ก็จะมีทั้งยาวแบบเป็นเดือนและเป็นปี กรณีแบบเป็นเดือน โดยทั่วไปที่เห็นคือ จะเกิดอาการหลอดลมอักเสบเรื้อรัง เหมือนมีเสมหะอยู่ตลอดเวล🦋า ไออยู่เรื่อยๆ บางทีก็เจ็บหน้าอก หรือบางคนก็เกิดภาวะที่เรียกว่า หลอดลมไวเกิน หมายความว่า หลังจากนี้หากเราเจอสารเคมีหรือฝุ่น ก็จะระคายตลอด 🎻และสุดท้าย กรณีเป็นปี อย่างที่เราทราบกันว่า เบนซีน เป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งหลักๆ ที่พบคือ มะเร็งเม็ดเลือดขาว โดยทั่วไปถ้าได้รับสารเคมีในปริมาณที่สูงพอ ก็จะใช้เวลาประมาณ 5-10 ปี ที่จะเกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาว คำถามคือ แล้วจะดูแลยังไง ก็จะต้องมีการขึ้นทะเบียนผู้สัมผัส เราควรจะรู้ว่าพนักงานโรงงานมีกี่คน สมมุติว่ามี 1 พันคน มีกี่คนที่อพยพไปแล้วและไม่น่าจะได้สารเคมี หรือมีอยู่ 100 คนที่ยังอยู่ในโรงงานและทำงานคู่กับทีมกู้ภัย และได้รับสารเคมีเยอะเช่นกัน ส่วนทีมกู้ภัยที่เข้าไปทำกิจกรรมมีกี่คน มีคนที่อยู่แถวหน้าที่รับสารเคมีเข้าไปเต็มๆ หน้ากากไม่ทันได้ใส่ และประชาชนมีกี่คนที่อยู่ติดรั้วโรงงาน ในเรื่องการพยากรณ์ว่า สารเคมีจะรั่วไหลไปทางไหน เรามีโปรแกรมคอมพ์พิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่ ซึ่งเวลาคาดการณ์ก็ต้องขึ้นกับข้อมูลอุตุนิยมวิทยาที่ใส่เข้าไปด้วยว่า มีข้อมูลท✨ี่เพียงพอหรือเปล่า เพราะต้องอาศัยความเร็วลม ทิศทางลม ความชื้นในอากาศ รวมทั้งอุณหภูมิด้วย ทิศทางลมหลักของประเทศไทยคือลมมรสุม เรามีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ดังนั้น อะไรก็ตามที่อยู่ในทิศนี้ ก็จะพัดกลับไปมาอยู่อย่างนี้ ประเด็นคือ การที่สารเคมีพัดไปมา ซึ่งการดับไฟยากง่ายก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ที่สำคัญที่จะมีผลต่อคนคือ จุดอพยพ คือเราไม่ควรจะชะล่าใจว่า ลมกำลังพัดไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ แล้วเราอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ แปลว่าเราอยู่ใต้ลมแน่ๆ ไม่อยู่เหนือลม เพราะถ้าลมพัดกลับมาเมื่อไหร่ ก็จะกลับมาหาเราทันที ดังนั้น จุดอพยพที่ปลอดภัยควรจะตั้งฉาก คือควรอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หรือตะวันตกเฉียงใต้กับทิศทางลม จะได้ไม่มารบกวน🐏🚨แน่ๆ แต่คำถามว่าควรจะอยู่ห่างกี่กิโลเมตร อันนี้เป็นไปได้หมด เพราะสารเคมีมีหลายประเภท บางชนิดลอยต่ำ บางชนิดลอยสูง อย่างที่เห็นในเหตุการณ์นี้ ช่วงแรกควันจะลอยขึ้นข้างบน แต่ต่อมาควันจะหนักและอยู่ข้างล่าง แสดงว่ามีสารเคมีหลายชนิด เพราะลักษณะกลุ่มควันที่แตกต่างกัน แต่ถ้าเป็นภาวะพิษเรื้อรังระยะยาว เช่น มะเร็ง บางคนได้รับสารเคมีแค่ครั้งเดียว ก็เป็นมะเร็งเลย บางคนได้รับหลายครั้ง แต่ร่างกายมีกา🦋รจัดการได้ ก็ไม่เป็นมะเร็ง เพียงแต่ว่าเราไม่รู้ว่าเราเป็นประเภทไหน ใช่ นี่จึงเป็นเหตุผลว่า เราต้องขึ้นทะเบียนผู้สัมผัสในเหตุการณ์ครั้งนี้ ถ้าเราเป็นประชาชนธรรมดาเราต้องถามตัวเองว่า ตลอด 25 ชั่วโมงที่ไฟไหม้ เราอยู่ตรงไหน เราอยู่ริมรั้วโรงงานประมาณ 5 ชั่วโมง เสร็จแล้วเราเคลื่อนย้ายตัวเองไปที่จุดอพยพ และอยู่ตรงนั้นตลอด 20 ชั่วโมงที่เหลือ และเราก็อยู่ตรงนั้นประมาณ 2 วัน ถึงได้กลับบ้านตอนที่หน่วยงานบอกว่ากลับได้แล้ว คือเราต้องเข้าใจตัวเองก่อนว่า สัมผัสมากน้อยแค่ไหน อยู่ตรงไหน และถ้าจะต้องมีการช่วยเหลือจากภาครัฐและการดูแลทั้งหมด ก็จะต้องมีระบบขึ้นทะเบียน ซึ่งเราอาจจจะให้ประชาชนลงทะเบียนในแอพ ถ้าหมอพร้อมใช้ได้ ขอยืมมาใช้ลงทะเบียนกรณีนี้ได้ไหม หรือทางฝั่งท้องถิ่นที่จะรู้ทะเบียนบ้านของประชาชนอยู่แล้วว่ามีกี่หลังคาเรือน มีใครบ้าง ก็อาจจะทำให้รวบรวมข้อมูลได้เร็วขึ้น หรือกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อำนวยความสะดวกและได้รับควันเต็มที่ ก็เป็นมะเร็งที่ต่อมไทมัส ทั้ง 2 เคสนี้ในชีวิตไม่ได้สัมผัสเหตุการณ์อะไรที่ก่อมะเร็งนอกจากเหตุการณ์ครั้งนั้น กรณีทะเลสีดำหรือเหตุการณ์น้ำมันรั่วที่เกาะเสม็ด เราพบว่า กำลังพลของกองทัพเรือประมาณ 2,000 กว่านาย ที่สัมผัสน้ำมันในครั้งนั้น ก็อาจจะมีใครบางคนที่ถึงขั้นเป็นมะเร็ง ดังนั้น เราก็จะบอกเขาว่า ในอนาคตถ้าเขาเป็นมะเร็ง ตอนที่ไปหาหมอให้บอกหมอด้วยว่า เขาเคยมีประวัติแบบนี้ เพราะบางทีหมออาจจะไม่ถาม แต่เราก็ต้องบอก timeline ของเรา ดังนั้น คนที่เจอเหตุการณ์โรงงานระเบิดครั้งนี้ ก็ต้องถือเป็นจุดสำคัญของชีวิตที่จะต้องมาร์กเอาไว้ว่า ถ้าในอนาคตข้างหน้าแล้วเขาเกิดเป็นมะเร็ง หรือมีความเจ็บป่วยเรื้อรัง จะต้องคิดถึงว่า อาจจะเกิดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ สุดท้ายอาจจะต้องกลับไปที่ประชาชนที่จะต้องดูแลตัวเอง เพราะอย่างกรณีคลองเตย ภาครัฐให้ความสนใจอยู่ประมาณ 2 ปี หลังจากนั้นก็เงียบไป เหตุการณ์น้ำมันรั่วที่เกาะเสม็ด กองทัพเรือไปดูแลกำลังพลได้แค่ประมาณปีครึ่ง แล้วทุกคนก็ปลดระวางไป ส่วนกรณีไฟไหม้บ่อขยะแพรกษา ก็มีการดูแลทีมดับเพลิง โดยโรงพยาบาลของ กทม. ร่วมมือกันดูแล ก็ทำได้ประมาณ 6 เดือนแล้วก็หายไป ถามหามาตลอดว่า ควรจะเป็นความรับผิดชอบของใคร ถ้าเป็นฝั่งของพนักงานโรงงานหรือทีมกู้ภัย กรณีนี้ยังมีโอกาสที่จะได้รับเงินจากกองทุนเงินทดแทน แต่สำหรับประชาชนแล้ว ทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่มีกองทุนไหนมาดูแล เคยบอกว่าโรงงานก็ควรมีกองทุน คล้ายกับกองทุนดูแลชุมชนรอบโรงไฟฟ้า โรงงานสารเคมีที่มีความเสี่ยงสามารถผูกโยงให้ต้องมาประกันสร้างระบบเฝ้าระวังระยะยาว ไม่ใช่แค่ประกันความเสียหาย แต่ต้องมีเงินมาทำให้ภาครัฐสามารถดูแลประชาชนได้ 2 R ที่คุณหมอสะท้อนชัดว่า มีข้อจำกัดแน่ๆ พอมาฟื้นฟูแล้วก็มีบทเรียนที่ทำบ้างไม่ทำบ้าง และกรณีแบบนี้ไม่ได้มีโรงงานเดียว เหมือนมีระเบิดเวลาวางไว้ แล้วเราจะทำยังไง? ก็สุดท้ายระหว่างรัฐบาลกลาง ท้องถิ่น และภาคประชาชน เราจะเชียร์ใครมากกว่ากัน เราจะเชียร์ให้ประชาชนเข้มแข็งและลุกขึ้นมาทำแผนที่และระบุไปว่า โรงงานนี้ระเบิดได้แน่ๆ เราก็ควรจะต้องพยายามไม่อยู่ใกล้ๆ หรือถ้าเกิดเหตุขึ้นมา จะมีจุดรวมพลยังไง หรือจะเชียร์ท้องถิ่นให้ผู้ว่าราชการจังหวัด อปท. ทวงถามถึงความปลอดภัยของชุมชน และใช้กฎหมายท้องถิ่นหรืออำนาจในการกำกับดูแลของท้องถิ่นเข้าไปจัดการให้เกิดความปลอดภัยขึ้น หรือเชียร์กรมโรงงานให้ออกกฎหมายใหม่ หรือหน่วยงานส่วนกลางที่จะออกกฎใหม่เพื่อจัดการเรื่องเหล่านี้ คงไม่ตอบคำถาม แต่ตั้งคำถาม เต็ม 10 ได้ 5 เพราะทำได้ดีกว่านี้ สงสารน้องกู้ภัยที่ต้องเสียชีวิต แต่คิดว่านอกจากทำให้เขาเป็นวีรบุรุษแล้ว เราก็ต้องทวงถามว่า มันเป็นการเสียชีวิตที่น่าจะป้องกันได้ ทำไมเราไม่ป้องกัน สงสารน้องกู้ภัยที่ต้องเสียชีวิต แต่คิดว่านอกจากทำให้เขาเป็นวีรบุรุษแล้ว เราก็ต้องทวงถามว่า มันเป็นการเสียชีวิตที่น่าจะป้องกันได้ ทำไมเราไม่ป้องกัน
ในงานเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กระบวนการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพในกลุ่มผู้สูงอายุพฤตพลัง ภายใต้โครงกา
วันนี้ (25 ส.ค.2564) ผู้สื่อข่🪐าวรายงานว่า ที🎤มสำรวจถ้ำหลวง นำโด🎈ย เวิ🌟ร์🍐🌈🎤น อ😂ันสเวิร์ธ เข้าสำรวจถ้ำหลวงคร