นอกจากปริมาณอาหาร ส่วนประกอบต่างๆ อีกหนึ่งข้อมูลบนผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะตรวจสอบก่อนซื้อเสมอ
สภาเภสัชกรรม ร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) บริการดูแลโรคทั่วไปหรือการเจ็บป่วยเล็กน้อย (Common Illness ) ให้แก่ผู้มีสิทธิบัตรทอง ที่ไปรับบริการที่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ
สภาเภสัชกรรม ร่วมมือกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) บริการดูแลโรคทั่วไปหรือการเจ็บป่วยเล็กน้อย (Common Illness ) ให้แก่ผู้มีสิทธิบัตรทอง ที่ไปรับบริการที่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช อุปนายกสภาเภสัชกรรม คนที่ 2 เปิดเผยว่า ในส่วนของ Common Illness ที่เภสัชกรร้านยาสามารถให้การดูแลผู้ป่วยได้ จะมี 16 กลุ่มอาการ ซึ่งเป็นอาการที่ผู้ป่วยส่วนมากมักจะเลือกมาที่ร้านยาแทนการไปโรงพยาบาล🚀 ดังนั้น เมื่อมีร้านยาที่เข้ามาเป็นหน่วยบริการในระบบของ สปสช.แล้ว ผู้ป่วยก็สามารถใช้สิทธิบัตรทองรับบริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการของประชาชน เมื่อเจ็บป่วยเล็กน้อยก็สามารถไปที่ร้านยาได้ทันที 1. ปวดหัว2. เวียนหัว3. ปวดข้อ 4. เจ็บกล้ามเนื้อ5. ไข้6. ไอ7. เจ📝็บคอ8. ปวดท้🍔อง9. ท้องผูก10. ท้องเสีย11. ถ่ายปัสสาวะขัด, ปัสสาวะลำบาก, ปัสสาวะเจ็บ12. ตกขาวผิดปกติ13. อาการทางผิวหนัง ผื่น คัน14. บาดแผล15. ความผิดปกติต่างๆที่เกิดขึ้นกับตา16. ความผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับหู สำหรับขั้นสมัคร สมาชิก fifa55SLOTตอนการเข้ารับบริการ ผู้ป่วยสามารถไปที่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ โดยตรวจสอบรายชื่อร้านยาได้ที่เว็บไซต์ สปสช. หรือสังเกตจากสติ๊กเกอร์ “ร้านยาค🎪ุณภาพของฉัน ให้บริการดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย” เมื่อเข้าไปแล้ว เภสัชกรจะขอบัตรประชาชนไปเสียบเ🦕ครื่องอ่าน เพื่อตรวจสอบว่าเป็นสิทธิบ🍄ัตรทองหรือไม่ จากนั้นจะซักประวัติและจ่ายยา พร้อมให้คำแนะนำการใช้ยาและการปฏิบัติตัวต่างๆ แต่หากเป็นอาการที่ไม่อยู่ใน 16 กลุ่มอาการ เภสัชกรจะแนะนำให้ไปพบแพทย์ที่คลินิกหรือโรงพยาบาล ภก.ปรีชา กล่าวอีกว่า การดำเนินการดังกล่าวจะเน้นเรื่องการให้บริการที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ นอกจากต้องผ่านมาตรฐาน GPP ของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว จะต้องเข้าร่วมเป็นร้านยาคุณภาพตามเกณฑ์ที่สภาเภสัชกรรมกำหนด เมื่อขึ้นทะเบียนร้านยาคุณภาพแล้ว ต้องเข้ารับการอบรมในการดูแลผู้ป่วยและต้องสอบให้ผ่านเกณฑ์ จึงจะได้ใบประกาศนียบัตรรับรองและสามารถให้บริการดูแลโรคทั่วไปได้ ขณะนี้มีร้านยาผ่านการอบรมแล้ว 800 แห่ง นำรายชื่อขึ้นเว็บไซต์แล้วประมาณ 500 แห่งและจะทยอยขึ้นจนครบ และในเร็วๆ นี้จะมีร้านยาที่ผ่านการอบรมรอบที่ 2 อีกกว่า 1,000 แห่ง รวมแล้วในอนาคตจะมีร้านยาที่ให้บริการโรคทั่วไปกว่า 1,500 แห่งทั่วประเทศ
วันนี้ (16 ต.ค.2564) เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูลราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดรายละเอียดการจองวัคซีนทางเลือก เข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Booster Dose) สำหรับองค์กรนิติบุคคล และโรงพยาบาลที่ให้บริการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม