วันนี้ (7 ก.ค.2565) น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจ
5 สิงหาคม 2025 - 02:30
วันนี้ (15 ก.ค.2566) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประ
5 สิงหาคม 2025 - 02:30

งานวิจัยชี้แต่งงานอายุ 28-32 ปี ชีวิตคู่จะยืนยาว นักสังคมวิทยา มหาวิทยาลัยยูทาห์ สหรัฐอเมริกา เผยผลศึกษาพบว่า ช่วงอายุระหว่าง 28-32 ปี เป็นวัยที่เหมาะสมต่อการแต่งงานมากที่สุด เพราะเป็นช่วงวัยที่เท่าทั

การยกพลชุดใหญ่พรรคประชาชน นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงขึ้นเวทีปราศรัยหาช่วย นายจำรูญ สวยดี ผู้สมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี ที่ลานนิคมอุตสาหกรรม 304 เมื่อ 2

งานวิจัยชี้แต่งงานอายุ 28-32 ปี ชีวิตคู่จะยืนยาว นักสังคมวิทยา มหาวิทยาลัยยูทาห์ สหรัฐอเมริกา เผยผลศึกษาพบว่า ช่วงอายุระหว่าง 28-32 ปี เป็นวัยที่เหมาะสมต่อการแต่งงานมากที่สุด เพราะเป็นช่วงวัยที่เท่าทันความรู้สึกของตัวเอง พบทางเดินชีวิตและมีความรับผิดชอบในระดับหนึ่ง งานวิจัยพบด้วยว่าผู้ที่แต่งงานหลังอายุ 32 ปี อัตราหย่าร้างเพิ่มขึ้น ขณะที่คู่รักวัยรุ่นอายุ 15-19 ปื เลิกรากันมากที่สุด งานวิจัยชี้แต่งงานอายุ 28-32 ปี ชีวิตคู่จะยืนยาว เว็บไซต์นิตยสารไทม์รายงานผลการศึกษาของ นิค วูล์ฟฟิงเกอร์ นักสังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยยูทาห์ สหรัฐฯ พบว่า ช่วงอายุที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นชีวิตคู่คือ 28-32 ปี โดยผู้วิจัยนำข้อมูลการสำรวจสภาวะครอบครัวชาวอเมริกันระหว่างปี 2006-2010 และ 2011-2013 มาวิเคราะห์ และพบว่าคู่แต่งงานที่อยู่ในช่วงวัยนี้มีอัตราการหย่าร้างต่ำกว่าผู้ที่แต่งงานในช่วงวัยอื่น โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรกหลังจากแต่งงานมีอัตราการแยกทางน้อยมาก ไทม์ระบุว่าผลการวิจัยซึ่งได้รับการเผยแพร่ในเว็บไซต์ Family Studies ของสถาบันวิชาการด้านการศึกษาสภาวะครอบครัว เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2558 ถือเป็นองค์ความรู้ใหม่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ เพราะที่ผ่านมาเรามักเชื่อกันว่าการแต่งงานช้าจะนำไปสู่ชีวิตคู่ที่ยั่งยืน วูล์ฟฟิงเกอร์อธิบายว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า อัตราการหย่าร้างจะสูงขึ้นในช่วงอายุปลาย 30 ถึงต้น 40 โดยหลังจากอายุ 32 ปี โอกาสที่จะเกิดการหย่าร้างจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ต่อปี เขาชี้ว่าเหตุผลที่คนวัย 28-32 ปี เหมาะที่จะแต่งงานนั้นมีหลายข้อ เช่น -คนวัยนี้โตพอที่จะรู้เท่าทันความรู้สึกของตัวเองว่าเข้ากับอีกฝ่ายหนึ่งได้จริงหรือเป็นแค่ความพลุ่งพล่านของฮอร์โมน -เขาหรือเธอได้เลือกเส้นทางชีวิตที่ตัวเองต้องการแล้ว และเริ่มมีความรับผิดชอบต่อเรื่องต่างๆ -มีความมั่นคงทางการเงินในระดับหนึ่ง -ยังไม่แก่เกินไปที่จะปรับตัว ปรับนิสัย ไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตประจำวัน ฯลฯ ให้เข้ากับอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในการใช้ชีวิตคู่ -ส่วนมากคนวัยนี้ยังไม่เคยแต่งงานหรือมีลูกติดทำให้ไม่ต้องแบ่งเวลาเพื่อไปดูแลลูก "บางคนอาจเรียกการศึกษานี้ว่าเป็น ‘ทฤษฏีโกลดิล็อคส์ของการแต่งงาน’ ที่คู่แต่งงานต้องไม่เด็กหรือแก่จนเกินไป นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายเหตุผลสนับสนุนว่าช่วงอายุ 20 ตอนปลาย และ 30 ตอนต้น เป็นระยะที่ดีในการเริ่มต้นชีวิตคู่กับใครสักคน” นักสังคมวิทยาจาก มหาวิทยาลัยยูทาห์ สหรัฐฯ กล่าว วูล์ฟฟิงเกอร์กล่าวอีกว่า คู่แต่งงานที่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ ส่วนมากมักเป็นคู่ที่รู้นิสัยใจคอกัน ขณะที่ ฟิลลิป โคเฮน นักสังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ กลับมีข้อมูลที่ต่างออกไป เขาอ้างข้อมูลจากการสำรวจสภาพสังคมอเมริกันที่ชื่อ American Community Survey ที่พบว่าคู่แต่งงานสูงวัยมักมีการเปลี่ยนแปลงชีวิตแต่งงานน้อยที่สุด โดยอายุที่เหมาะสมแก่การมีชีวิตคู่และเลิกรากันน้อยที่สุดคือช่วงวัย 45-49 ปี แต่ช่วงวัย 15-19 จะเกิดการหย่าร้างมากที่สุด รองลงมาคือช่วงวัย 20-24 ปี 25-29 ปี และ 35-39 ปี ตามลำดับ นอกจากนี้ ปัจจัยที่โคเฮนเชื่อว่าช่วยให้ชีวิตคู่ยืนยาวยังได้แก่ ความมั่นคงด้านการเงิน การศึกษาที่ดี การหมั้นก่อนย้ายมาอยู่ด้วยกัน และการแต่งงานก่อนมีบุตร ล้วนมีส่วนทำให้คู่แต่งงานมีชีวิตคู่ที่ยืนยาว สิรินภา อิ่มศิริ แปลและเรียบเรียงจาก http://time.com/3966588/marriage-wedding-best-age/ เว็บไซต์นิตยสารไทม์รายงานผลการศึกษาของ นิค วูล์ฟฟิงเกอร์ นักสังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยยูทาห์ สหรัฐฯ พบว่า ช่วงอายุที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มต้นชีวิตคู่คือ 28-32 ปี โดยผู้วิจัยนำข้อมูลการสำรวจสภาวะครอบครัวชาวอเมริกันระหว่างปี 2006-2010 และ 2011-2013 มาวิเคราะห์ และพบว่าคู่แต่งงานที่อยู่ในช่วงวัยนี้มีอัตราการหย่าร้างต่ำกว่าผู้ที่แต่งงานในช่วงวัยอื่น โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรกหลังจากแต่งงานมีอัตราการแยกทางน้อยมาก ไทม์ระบุว่าผลการวิจัยซึ่งได้รับการเผยแพร่ในเว็บไซต์ Family Studies ของสถาบันวิชาการด้านการศึกษาสภาวะครอบครัว เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2558 ถือเป็นองค์ความรู้ใหม่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ เพราะที่ผ่านมาเรามักเชื่อกันว่าการแต่งงานช้าจะนำไปสู่ชีวิตคู่ที่ยั่งยืน วูล์ฟฟิงเกอร์อธิบายว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า อัตราการหย่าร้างจะสูงขึ้นในช่วงอายุปลาย 30 ถึงต้น 40 โดยหลังจากอายุ 32 ปี โอกาสที่จะเกิดการหย่าร้างจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ต่อปี เขาชี้ว่าเหตุผลที่คนวัย 28-32 ปี เหมาะที่จะแต่งงานนั้นมีหลายข้อ เช่น -คนวัยนี้โตพอที่จะรู้เท่าทันความรู้สึกของตัวเองว่าเข้ากับอีกฝ่ายหนึ่งได้จริงหรือเป็นแค่ความพลุ่งพล่านของฮอร์โมน -เขาหรือเธอได้เลือกเส้นทางชีวิตที่ตัวเองต้องการแล้ว และเริ่มมีความรับผิดชอบต่อเรื่องต่างๆ -มีความมั่นคงทางการเงินในระดับหนึ่ง -ยังไม่แก่เกินไปที่จะปรับตัว ปรับนิสัย ไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิตประจำวัน ฯลฯ ให้เข้ากับอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในการใช้ชีวิตคู่ -ส่วนมากคนวัยนี้ยังไม่เคยแต่งงานหรือมีลูกติดทำให้ไม่ต้องแบ่งเวลาเพื่อไปดูแลลูก "บางคนอาจเรียกการศึกษานี้ว่าเป็น ‘ทฤษฏีโกลดิล็อคส์ของการแต่งงาน’ ที่คู่แต่งงานต้องไม่เด็กหรือแก่จนเกินไป นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายเหตุผลสนับสนุนว่าช่วงอายุ 20 ตอนปลาย และ 30 ตอนต้น เป็นระยะที่ดีในการเริ่มต้นชีวิตคู่กับใครสักคน” นักสังคมวิทยาจาก มหาวิทยาลัยยูทาห์ สหรัฐฯ กล่าว วูล์ฟฟิงเกอร์กล่าวอีกว่า คู่แต่งงานที่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ ส่วนมากมักเป็นคู่ที่รู้นิสัยใจคอกัน ขณะที่ ฟิลลิป โคเฮน นักสังคมวิทยาจากมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ กลับมีข้อมูลที่ต่างออกไป เขาอ้างข้อมูลจากการสำรวจสภาพสังคมอเมริกันที่ชื่อ American Community Survey ที่พบว่าคู่แต่งงานสูงวัยมักมีการเปลี่ยนแปลงชีวิตแต่งงานน้อยที่สุด โดยอายุที่เหมาะสมแก่การมีชีวิตคู่และเลิกรากันน้อยที่สุดคือช่วงวัย 45-49 ปี แต่ช่วงวัย 15-19 จะเกิดการหย่าร้างมากที่สุด รองลงมาคือช่วงวัย 20-24 ปี 25-29 ปี และ 35-39 ปี ตามลำดับ นอกจากนี้ ปัจจัยที่โคเฮนเชื่อว่าช่วยให้ชีวิตคู่ยืนยาวยังได้แก่ ความมั่นคงด้านกาwinner98 เครดิต ฟรีรเงิน การศึกษาที่ดี การหมั้นก่อนย้ายมาอยู่ด้วยกัน และการแต่งงานก่อนมีบุตร ล้วนมีส่วนทำให้คู่แต่งงานมีชีวิตคู่ที่ยืนยาว สิรินภา อิ่มศิริ แปลและเรียบเรียงจาก http://time.com/3966588/marriage-wedding-best-age/

ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกภาพความเสียหายของอาคารในเมืองปอลตาวา ทางตอนกลางของยูเครน หลังรัสเซียยิงขีปนาวุธ 2 ลูกโจมตีพื้นที่ดังกล่าวเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ก.ย.2567 ตามเวลาท้องถิ่น ล่าสุดโวโลดิมีร์ เซเลนสกี

วันนี้ (25 ต.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเพจพิสูจน์บั้งไฟพญานาค นำรายชื่ออ้างว่าเป็น 10 หมู่