วันนี้ (12 พ.ค.2564) กรมราชทัณฑ์ ออกแถลงการณ์ชี้แจง กรณีมีสื่อตั้งข้อสงสัยว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อ

วันนี้ (9 ก.พ.2564) นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นายปฏิวัฒน์ สาหร่ายแย้ม แกนนำกลุ่ม "ขอนแก่นพอกันที" และนายอานนท์ นำภา พร้อมนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ "เพนกวิน" แกนนำกลุ่ม "ราษฎร" ทยอยเดินทางเข้าสำสำนักงานอัยกา

วันนี้ (12 พ.ค.2564) กรมราชทัณฑ์ ออกแถลงการณ์ชี้แจง กรณีมีสื่อตั้งข้อสงสัยว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในเรือนจำได้อย่างไร และมีการปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์การรักษาผู้ติดเชื้อหรือไม่ กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 มีการกระจายเป็นวงกว้างในทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงเรือนจำและทัณฑสถานที่ต้องรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ และนำผู้ต้องขังออกศาลอยู่เสมอ จึงอาจมีการหลุดรอดของเชื้อเข้าสู่เรือนจำได้ อย่างไรก็ดี กรมราชทัณฑ์ได้ป้องกันอย่างเต็มที่ด้วยมาตรการเชิงรุก คือ แยกกักตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่อย่างน้อย 21 วัน พร้อมตรวจหาเชื้อ COVID-19 จำนวน 2 ครั้ง ก่อนผู้ต้องขังพ้นระยะแยกกักโรค ซึ่งการตรวจพบการติดเชื้อของผู้ต้องขังที่ผ่านมา ถือว่าเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ สำหรับผู้ต้องขังที่ตรวจพบเชื้อจะได้รับการรักษาโดยการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ ทั้งในโรงพยาบาลสนามเรือนจำ และโรงพยาบาลแม่ข่าย ตามลักษณะอาการป่วยของแต่ละคน กรมราชทัณฑ์ขอยืนยันว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เเกมซื้อโบนัสรือนจำทัณฑสถานทุกแห่งมีมาตรการอย่างเคร่งครัด เพราะมีการควบคุมบับเบิ้ล แอนด์ ซีล เช่น กรณีเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ที่มีผู้ต้องขังติดเชื้อก็สามารถดูแลรักษาจนหาย และไม่มียอดผู้ติดเชื้ออยู่ในเรือนจำอีก กรมราชทัณฑ์ได้ตรวจเชิงรุก เจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง100% ซึ่งได้พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ของเรือนจำ/ทัณฑสถาน ที่พบการติดเชื้อ ได้แก่ ทัณฑสถานหญิงกลาง มียอดผู้ติดเชื้อรวม 1,040 คน และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มียอดผู้ติดเชื้อรวม 1,795 คน ซึ่งทุกคนอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หากในบางคนมีอาการหนักจะได้มีการย้ายออก เพื่อรับการรักษายังโรงพยาบาลภายนอก เชื่อว่ามาตรฐานการดำเนินการของกรมราชทัณฑ์กับกระทรวงสาธารณสุข จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ได้ ไม่ขยายตัวไปสู่วงกว้าง เวลานี้ได้มีแดนกักโรคและโรงพยาบาลสนาม โดยมีแพทย์และพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด และการให้ยารักษาและการดูแลทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานของสาธารณสุข รวมทั้งมีการวางแผนเพื่อฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขังด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างรอการจัดสรรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ทั้งนี้ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อ COVID-19 เชิงรุกในเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง ซึ่งในส่วนของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้ตรวจคัดกรองเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ไปแล้วกว่า 17,000 ครั้ง ทำให้คัดแยกผู้ติดเชื้อไปรักษาได้รวดเร็ว สามารถแยกผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยงออกมากักตัวเพื่อสังเกตอาการได้เป็นอย่างดี ซึ่งต้องขอขอบคุณกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่เข้ามาช่วยดูแลและทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี ข่าวที่เกี่ยวข้อง 7 นักโทษทางการเมืองติด COVID-19 ในเรือนจำ กางสถิติ! โควิด "เรือนจำ" ทั่วโลกเกิน 8 แสน ไทยพบติดเชื้อ 357 คน

วันนี้ (22 ก.พ.2568) บรรยากาศการส่งตัวชาวจีนจากธุรกิจจีนเทา ที่กลุ่ม BGF ควบคุมตัวได้จากเมืองชเวก๊กโก่ จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้าย กระบวนการทุกอย่างยัง