UID: 25763

วันนี้ (18 มี.ค.2564) ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษา คดีประวัติศาสตร์ล้มบอลไทยลีก ฤดูกาล 2017 ที่อัยการพิเศ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมเข้ารัฐสภาตอบกระทู้ถามสดครั้งแรก มองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจเ

วันนี้ (18 มี.ค.2564) ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษา คดีประวัติศาสตร์ล้มบอลไทยลีก ฤดูกาล 2017 ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายธีรจิตร สิทธิศุข ที่เป็นผู้ช่วยผู้ตัดสิน หรือ ไลน์แมน พร้อมพวกรวม 15 คน ที่ทำการว่าจ้าง นักกีฬา กรรมการ ให้ล๊อคผลการแข่งขัน โดยวันนี้จำเลยทั้งหมดพร้อมทนายความ เดินทางมาฟังคำพิพากษา ซึ่งมีญาติและบุคคลใกล้ชิดเดินทางมาให้กำลังใจ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่าโจทก์มีพยานหลักฐานแน่นหนา ทั้งพยานบุคคล ตำรวจ หลักฐานการใช้ติดต่อโทรศัพท์ และข้อความการสนทนาทางแอปพลิเคชันวีแชท จึงพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง จึงตัดสินจำคุกนายธีรจิตร สิทธิอสุข เป็นเวลา 5 ปี ส่วนนายภุมรินทร์ คำรื่น อดีตผู้ตัดสินฟีฟ่าปี 2017 จำคุกเป็นเวลา 2 ปี ขณะที่กลุ่มนายทุนที่ประกอบด้วย นายเชิดศักดิ์ บุญชู อดีต ผอ.สโมสรศรีสะเกษเอฟซี นายภาคภูมิ พันธ์นิกุล นายมานิตย์ หรือ เศรษฐปสิทธิ์ โกมลวัฒนะ ทั้ง 3 คน ศาลตัดสินจำคุก 4 ปี ส่วน นายวัลลภ สมาน กับ นายกิตติภูมิ ปาภูงา ศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี ส่วนในกลุ่มของนักกีฬา นายวีระ เกิดพุดซา อดีตผู้รักษาประตูทีมนครราชสีมา ส.อ.ธีรชัย งามเจริญ นายทศพร เขม็งกิจ และ นายเอกพันธ์ จันดากรณ์ อดีต 3 นักเตะศรีสะเกษ เอฟซี ศาลตัดสินจำคุกคนละ 1 ปี ส่วน จ.อ.เสกสันต์ ชาวทองหลาง จ.ท.สุทธิพงษ์ เหลาพร จ.ท.สุวิทยา นำสินหลาก อดีต 3 นักเตะทีมราชนาวี กับนายณรงค์ วงษ์ทองคำ อดีตนักเตะศรีสะเกษ ศาลตัดสินจำคุกคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ภายหลังฟังคำพิพากษาเสร็จญาติและทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัวเพื่อสู้คดีระหว่างอหวย รัฐบาล 2 พ ค 63ผล ฟุตบอล ยู โลุทธรณ์ต่อไป โดยคดีนี้เกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกและฟุตบอลถ้วย ลีกคัพ จำนวน 4 นัด เมื่อปี 2017 คือ เกมระหว่าง อุบล ยูเอ็มที กับ ศรีสะเกษเอฟซี ซึ่งเป็นเกมโตโยต้าลีกคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ซึ่งอุบล ยูเอ็มที ชนะไป 3-0 เกม ไทยลีก ระหว่าง นครราชสีมา กับ สุพรรณบุรี ผลจบลงที่เสมอกัน 2-2 เกม ไทยลีก ระหว่าง ราชนาวี กับ พัทยา ยูไนเต็ด ผลจบลงที่เสมอกัน 2-2 และ เกมไทยลีก ระหว่าง ราชนาวี กับ เมืองทอง ผลจบลง ที่ราชนาวีแพ้ไป 1-2

หลังคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้คำตอบกระทรวงการคลัง ในข้อกฎหมายเรื่องการกู้เงิน 5 แสนล้านบาท ดำเนินนโยบายดิ