ตามที่สื่อมวลชนหลายแขนง นำเสนอข่าว กรณีเกิดเหตุใช้อาวุธปืนกราดยิงนักเรียนและครูภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล
วันนี้ (11 ธ.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ารื้อโครงสร้างเหล็กชิ้นส่วนสะพานถล่ม ถ.พระราม 2 โดยทีมวิศวกรส่งผู้เชี่ยวชาญขึ้นกระเช้าตรวจสอบ Segment หรือแผ่นคอนกรีตอัดแรงสำเร็จรูป น้ำหนักกว่า 100 ตัน
วันนี้ (5 ก.พ.64) นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงจับขบวนการอุ้มบุญข้ามชาติ หลังตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ได้รับการประสานจากก🎢รมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ว่าพบการใช้ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ประกาศเชิญชวนรับสมัครหญิงที่ต้องการหารายได้จากการรับจ้างตั้งครรภ์แทน พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการ สอท. เปิดเผยว่า วันนี้ มีการสนธิกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 9 จุด ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หนึ่งในนั้น เปิดเป็นบริษัททำความสะอาดบังหน้าโดยใช้ชื่อหญิงชาวจีน สามารถช่วยเหลือเด็ก 2 คน อายุประมาณ 6 เดือน และ 8 เดือน ตรวจดีเอ็นเอแล้วพบว่าพ่อเด็กเป็นคนสัญชาติจีน โดยพบผู้ดูแลมีสัญชาติฟิลิปปินส์ 2 คน นอกจากนี้ ยังพบหญิงที่ยอมรับเป็นผู้อุ้มบุญ 3 คน อยู่ระหว่างการสอบสวนว่าจะเข้าข่ายการค🍓้ามนุษย์หรือเป็นการซื้อขายปลูกถ่ายอวัยวะ🐬หรือไม่ และจะต้องมีการดำเนินคดีกับแม่อุ้มบุญเพื่อให้เข็ดหลาบ พร้อมเชื่อว่าขบวนการนี้มีการกระทำมาแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งจะต้องมีการขยายผลจับกุมให้ได้ทั้งเครือข่าย สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากแพทย์จากโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง แจ้งว่ามีเด็กทารกอายุประมาณ 4 เดือน เข้ารับการรักษาตัว เนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง จากการสอบปากคำผู้ดูแลทารกดังกล่าว ยอมรับว่าเด็กเกิดจากการอุ้มบุญ และรอส่งมอบให้ผู้ว่าจ้างชาวต่างชาติ โดยจะมีนายหน้าหาแม่อุ้มบุญ ส่วนใหญ่จะมีการฝังตัวอ่อนในต่างประเทศ ก่อนกลับเข้ามาในไทย เมื่อถึงกำหนดคลอดก็จะเดินทางไปคลอดยังประเทศที่ 3 และทำการส่งมอบทารกในคราวเดียวกัน แต💻่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้แม่อุ้มบุญ ไม่สามารถเดินทางออกไปคลอดนอกประเทศได้ จึงจำเป็นที่จะต้องคลอดและส่งมอบท🔭ารกให้นายจ้างชาวต่างชาติ และจะได้ค่าตอบแทน 500,000 บาท ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรว🐢ิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า จากพัฒนาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าสำหรับผูodds alert้มีบุตรยากของไทย อาจทำให้มีนายหน้าเห็นช่องทางหาประโยชน์ จึงมีการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 นอกจากนี้ หากพบสถานพยาบาลใดหรือแพทย์คนใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการอุ้มบุญผิดกฎหมายจะมีต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่นกัน
วันนี้ (5 ก.พ.64) นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงจับขบวนการอุ้มบุญข้ามชาติ หลังตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ได้รับการประสานจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ