UID: 64521

วันนี้ (8 ก.พ.2564) ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษา กรณีที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมศิลปากร ได้รายงานความคืบหน้าผล

จากกรณีปรากฏคลิปภาพเหตุการณ์ครูผู้ดูแลหอพักของโรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ทำโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ ซึ่งครูผู้หญิงในโรงเรียนนำมาโพสต์ในเฟซบุ๊ก เพราะรับไม่ได้ และต้องการให้ระบบเหล่านี้หมดสิ้นไป เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ครูชายใช้ไม้เรียวสอบสวนความผิดเด็กนักเรียนชาย 4 คน กรณีขนมในห้องพักครูหายไป แต่การสอบสวนมีลักษณะท่าทีข่มขู่ จะใช้เท้าเหยียบ และวิเคราะห์ บอล สปอร์ต พูลถีบนักเรียนจนล้มลง ก่อนใช้ไม้ตีเด็กชายอีก 1 คน และใช้เท้าเตะจนล้มคว่ำ ภายหลังเด็ก 1 คนที่ถูกทำร้ายไม่กลับมาโรงเรียนอีกเลย นอกจากนี้ ครูผู้หญิงยังโพสต์ข้อความระบุถึงกรณีผู้บริหารและครูบางคนเบิกเงินในกองทุนช่วยเหลือเด็กไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ อ้างว่าไปราชการที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา มีทั้งค่าโดยสารเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเหมารถ ค่าน้ำมันรถ รวมเป็นเงินกว่า 37,100 บาท แต่ความจริงเป็นการเดินทางไปส่งผู้บริหารระดับเขตคนหนึ่ง อีกทั้งยังเบิกเงินจากกองทุนเดินทางไปที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อซื้อโซล่าเซลล์ แต่กลับนำเงินบางส่วนไปเที่ยวคาราโอเกะ โดยทราบว่าก่อนเปิดเทอมมีเงินบริจาคในกองทุนประมาณ 200,000 บาท แต่ขณะนี้เหลือเพียง 30,000 กว่าบาท ล่าสุดนายอุทัย เลิศกุลทิพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแม่แมะ ได้พานักเรียนและครูผู้ชายที่ก่อเหตุ เข้าพบ พ.ต.ท.ธงชัย เอื้อแท้ รอง ผกก.สอบสวน สภ.เชียงดาว เพื่อให้ข้อมูลเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มาร่วมซักถามข้อมูลเบื้องต้น ผอ.โรงเรียนบ้านแม่แมะ เปิดเผยว่า กรณีคลิปภาพทำร้ายเด็กเกิดขึ้นก่อนจะมารับตำแหน่ง โดยจะตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องถูกกล่าวหานำเงินบริจาคไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ชี้แจงว่าเดินทางไปพร้อมครู 2 คน เพื่อซื้อโซล่าเซลล์นำมาลดค่าไฟของโรงเรียน ส่วนการกินข้าวในร้านอาหาร ยืนยันว่าใช้เงินส่วนตัวจ่าย ขณะที่ครูที่ก่อเหตุ ยอมรับว่า วันเกิดเหตุเป็นคนเตะเด็กจริง เพราะอารมณ์ชั่ววูบ หลังทราบว่าเด็กมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ขโมยของในโรงเรียนและนอกโรงเรียนบ่อยครั้ง จึงอยากจะอบรมสั่งสอนให้ลูกศิษย์กลับมาเป็นคนดี แต่ยอมรับว่ากระทำการรุนแรง รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากขอโทษเด็กและผู้ปกครอง และทุก ๆ คน หลังจากนี้พร้อมน้อมรับคำตัดสิน นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 (สพป.ชม. 3) สอบพฤติกรรมครูที่ทำโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ โดยขอให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพบความผิดต้องลงโทษตามระเบียบและกฎหมาย พร้อมชื่นชมคุณครูที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ไม่ปกปิดหรือนิ่งต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น เบื้องต้น สพป.ชม. 3 ทำรายงานถึงยังผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่าได้มอบหมายกลุ่มกฎหมายและคดีบันทึกผลการสืบสวน และดําเนินการตามระเบียบทางวินัย รวมถึงมอบหมายกลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา โดยนักจิตวิทยาดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด ส่วนกรณีข้อร้องเรียนว่าใช้เงินบริจาคไม่ถูกวัตถุประสงค์นั้น เบื้องต้นได้มอบหน่วยตรวจสอบภายในตรวจสอบการเงินบัญชีอย่างละเอียดทุกรายการ

จากกรณีปรากฏคลิปภาพเหตุการณ์ครูผู้ดูแลหอพักของโรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ทำโทษนักเรียน