กรณีครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.เชียงใหม่ อัดคลิปใ

วันนี้(26 ต.ค.2566) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท หลังการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอ
วันนี้ (14 ต.ค.2565) เมื่อเวลา 17.00 น.นางรุ่งรวี อ้นคต ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างฉบับที่ 5 ระบุว่า เมื
วันนี้(26 ต.ค.2566) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท หลังการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปที่บางประเด็นยังมีข้อขัดแย้ง ซึ่งจะเสนอให้ที่คณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธาน เคาะรายละเอียดอีกครั้งในสัปดาห์หน้า สำหรับมติที่ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน คือ กลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับสิทธิเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยมีข้อเสนอในการกำหนดกลุ่มผู้ที่จะได้รับสิทธิ ซึ่งต้องการให้ตัดกลุ่มคนรวยออก โดยมีความเห็นการแบ่งเกณฑ์การรับเงินดิจิทัล 3 แนวทาง ดังนี้ 1.จ่ายเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 15-16 ล้านคน ใช้งบประมาณ 1.6 แสนล้านบาท 2.มีรายได้เดือนละ 25,000 บาท หรือมีเงินฝากในบัญชี 1 แสนบาท จะเหลือผู้ที่ได้รับสิทธิ 43 ล้านคน ใช้งบประมาณ 4.3 แสนล้านบาท 3. ผู้ที่มีรายได้เกินเดือนละ 50,000 บาท หรือมีเงินฝากในบัญชี 5 แสนบาท จะเหลือผู้ได้รับสิทธิ 49 ล้านคน ใช้งบประมาณ 4.9 แสนล้านบาท โดยข้อ 2 และข้อ 3 จะเป็นเกณฑ์การพิจารณาตัดกลุ่มคนที่มีความพร้อมทางสังคม ส่วนเกณฑ์รัศมีการใช้จ่ายได้ในระดับอำเภอ ซึ่งไม่ได้มีขนาดใหญ่เกินไปที่จะมีการกระจุดตัวของเม็ดเงิน และยังมีร้านค้าเพียงพอให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอย โดยระบบการขึ้นเงินของร้านค้าจะต้องเป็นร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) นิติบุคคล และบุคคลธรรมดาที่อยู่ในระบบภาษีที่ประชุมมีความเห็นตรงกัน ขณะที่การยืนยันตัวตนที่ประชุมความเห็นตรงกันจะต้องดำเนินการตามกฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ผู้ที่เคยได้ใช้สิทธิโครงการของรัฐผ่านแอปพลิเคชันต่างๆไม่ต้องยืนยันตัวตน ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการต้องยืนยันตัวตน ขณะที่ร้านค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการเปิดให้ทั้งบุคคลธรรมดา นิติบุคคล กองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน รวมทั้งสินค้าสำหรับอุปโภคบริโภค เป็นต้น สำหรับการดำเนินงานในช่วงเริ่มต้นของโครงการที่จะใช้ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 นั้น อาจจะให้โครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ดำเนินการได้ล่าช้า ตามที่ร่างพ.ร.บ.งบประมาณมีผลบังคับใช้ล่าช้า จึงเป็นไปได้ว่าโครงการเติมเงินดิจิทัล จะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงเดือน เมษายน-พฤษภาคม 2567 ข่าวที่เกี่ยวข้อง: ข้อเสนอ หอการค้าฯ ใช้เงินดิจิทัลผ่านแอปเป๋าตัง "เศรษฐา" พร้อมปรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ย้ำหวังกระตุ้ufa xp และนเศรษฐกิจไม่แบ่งจ่าย 3 รอบ “ภูมิธรรม”ยันเดินหน้าแจก 10,000 บาท ชี้อย่ากังวลเกินไป
วันนี้ (29 เม.ย.2564) ผลกระทบจากการปะทะของทหารเมียนมากับกะเหรี่ยง KNU ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มีผู
วันนี้ (25 ก.พ.2564) รายงานข่าวจากที่ประชุม คณะกรรมการป้องกันและปรามปราม (ป.ป.ท.) ที่มี นายประสาท พง
วันนี้ (13 พ.ย.2567) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว
วันนี้(26 ต.ค.2566) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท หลังการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปที่บางประเด็นยังมีข้อขัดแย้ง ซึ่งจะเสนอให้ที่คณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธาน เคาะรายละเอียดอีกครั้งในสัปดาห์หน้า สำหรับมติที่ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน คือ กลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับสิทธิเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยมีข้อเสนอในการกำหนดกลุ่มผู้ที่จะได้รับสิทธิ ซึ่งต้องการให้ตัดกลุ่มคนรวยออก โดยมีความเห็นการแบ่งเกณฑ์การรับเงินดิจิทัล 3 แนวทาง ดังนี้ 1.จ่ายเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 15-16 ล้านคน ใช้งบประมาณ 1.6 แสนล้านบาท 2.มีรายได้เดือนละ 25,000 บาท หรือมีเงินฝากในบัญชี 1 แสนบาท จะเหลือผู้ที่ได้รับสิทธิ 43 ล้านคน ใช้งบประมาณ 4.3 แสนล้านบาท 3. ผู้ที่มีรายได้เกินเดือนละ 50,000 บาท หรือมีเงินฝากในบัญชี 5 แสนบาท จะเหลือผู้ได้รับสิทธิ 49 ล้านคน ใช้งบประมาณ 4.9 แสนล้านบาท โดยข้อ 2 และข้อ 3 จะเป็นเกณฑ์การพิจารณาตัดกลุ่มคนที่มีความพร้อมทางสังคม ส่วนเกณฑ์รัศมีการใช้จ่ายได้ในระดับอำเภอ ซึ่งไม่ได้มีขนาดใหญ่เกินไปที่จะมีการกระจุดตัวของเม็ดเงิน และยังมีร้านค้าเพียงพอให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอย โดยระบบการขึ้นเงินของร้านค้าจะต้องเป็นร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) นิติบุคคล และบุคคลธรรมดาที่อยู่ในระบบภาษีที่ประชุมมีความเห็นตรงกัน ขณะที่การยืนยันตัวตนที่ประชุมความเห็นตรงกันจะต้องดำเนินการตามกฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ผู้ที่เคยได้ใช้สิทธิโครงการของรัฐผ่านแอปพลิเคชันต่างๆไม่ต้องยืนยันตัวตน ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการต้องยืนยันตัวตน ขณะที่ร้านค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการเปิดให้ทั้งบุคคลธรรมดา นิติบุคคล กองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน รวมทั้งสินค้าสำหรับอุปโภคบริโภค เป็นต้น สำหรับการดำเนินงานในช่วงเริ่มต้นของโครงการที่จะใช้ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 นั้น อาจจะให้โครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ดำเนินการได้ล่าช้า ตามที่ร่างพ.ร.บ.งบประมาณมีผลบังคับใช้ล่าช้า จึงเป็นไปได้ว่าโครงการเติมเงินดิจิทัล จะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงเดือน เมษายน-พฤษภาคม 2567 ข่าวที่เกี่ยวข้อง: ข้อเสนอ หอการค้าฯ ใช้เงินดิจิทัลผ่านแอปเป๋าตัง "เศรษฐา" พร้อมปรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ย้ำหวังกระตุ้ufa xp และนเศรษฐกิจไม่แบ่งจ่าย 3 รอบ “ภูมิธรรม”ยันเดินหน้าแจก 10,000 บาท ชี้อย่ากังวลเกินไป
วันที่ 1 ธ.ค. ของทุกปี องค์การอนามัยโลกกำหนดเป็น "วันเอดส์โลก" เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของก