Bank DKI meluncurkan programMasjid JakOne Abankunt

วันนี้ (15 ก.พ.2566) น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายในการประชุมสภาวันแรก ทวงถามการดำเนินนโยบาย ตามนโยบายข้อที่ 8 เรื่องการแก้ไขปัญหาทุจริตของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แถลงไว้ต่อร
สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) และ Volleyball World ประกาศว่า "ประเทศไทย" จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกปี 2025 ซึ่งข้อตกลงนี้ลงนามโดย ดร.อารีย์ กาซา ประธานของสหพันธ์ฯ และนายสมพ
ไม่ใช่หวังให้เป็นภาพแห่งความทรงจำของการประชุม ครม.รักษาการนัดแรกหลังยุบสภา และไม่ใช่เพียงสวมกอดเป็นของขวัญวันคล้ายวันเกิด “บิ๊กตู่” เท่านั้น หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีดีลจับมือกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพรรคพลังประชารัฐ เป็นสัญญาใจร่วมกันตั้งรัฐบาลแบบไม่ทิ้งกัน คล้ายกับที่เคยประกาศจับมือผนึกกับพรรคประชาธิปัตย์แบบ ไปไหนไปด้วยกัน หลังเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งขณะนั้น การตั้งรัฐบาลส่อเค้าเป็นปัญหาเพราะเสียงปริ่มน้ำ เหมือนในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร สมัยที่ 2 หลังเลือกตั้งปี 2548 ที่พรรคไทยรักไทยแลนด์สไลด์ ได้ ส.ส.377 คน ตั้งรัฐบาลพตาราง ฟุตบอล โลกรรคเดียว ก็เคยมีภาพนายเนวิน ชิดชอบ หนึ่งในครม.ของนายทักษิณขณะนั้น สวมกอดนายทักษิณอย่างแนบแน่นที่ทำเนียบรัฐบาลเช่นกัน ในช่วงที่นายทักษิณ ขอลาพักการปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกฯปี 2549 จึงปรากฏภาพกอดให้กำลังใจดังกล่าว เป็นภาพจำหนึ่งกระทั่งจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าในเวลาต่อมา ปี 2551 หลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชน นายเนวินและกลุ่มเพื่อนเนวินจะโบกมือลา แยกไปตั้งอยู่พรรคภูมิใจไทย และร่วมสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะนั้น จากผู้นำฝ่ายค้าน ไปเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมกับวลีที่ถูกจดจำและเล่าขานกันต่อ ๆ มา ว่า “มันจบแล้วครับนาย” แม้ในความเป็นจริง คนที่รู้ดีที่สุดว่ามีคำพูดนี้หรือไม่ คือนายทักษิณ กับนายเนวิน เพราะแม้แต่กับนายทักษิณ นายอนุทินไม่เคยตอบโต้หรือวิพากษ์รุนแรง ตรงกันข้ามกลับยอมรับว่าเป็นผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือ เช่นเดียวกับที่ไม่เคยวิพากษ์ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในทางลบเลย ขณะที่ในช่วงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพักการทำหน้าที่นายกฯ ขณะรอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินปมการเป็นนายกฯ 8 ปี ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว นายอนุทิน ไม่พลาดกับการไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ พาหมอไปรักษาอาการหลังมือเป็นสะเก็ด และไปนั่งกินข้าวกระเพราไก่ ที่กระทรวงกลาโหมด้วย เช่นเดียวกับเรื่องคูเหลี่ยมทางการเมือง หลายครั้งที่พรรคภูมิใจไทยแสดงออกในเรื่องที่ต่างไปจากรัฐบาล หรือเป็นประเด็นร้อน โดยเฉพาะจากนายศุภชัย ใจสมุทร เหรัญญิกพรรค ที่มักเป็นคนออกหน้าแถลงหรือตอบโต้แบบจัดหนัก เช่น กรณี พ.ร.บ.กัญชากัญชง หรือเรื่องจะเอาคืนนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกโรงโจมตีพรรคภูมิใจไทย ทั้งกัญชาเสรี และรถไฟฟ้าสายสีส้ม ถึงขั้นไฟเขียวให้ผู้สมัคร ส.ส.ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ ใน 400 เขตเลือกตั้ง แต่สุดท้าย นายอนุทินเป็นคนออกโรงปฏิเสธว่า ไม่ใช่เป็นมติพรรค กระทั่งถูกมองว่า เป็นการเดินเกมการเมืองแบบ “เซียนเหยียบเมฆ” หรือที่บางอาจมองว่า เป็นการเล่นการเมืองแบบ 2 หน้า ชั้นเชิงและลาไม่ธรรมดา เช่นเดียวกับภาพการโอบกอดพลอ.ประยุทธ์ ที่ส่งผลให้ใครบางคนนอนหลับฝันดีตลอดคืน เพระอย่างน้อยก็ยังมีความหวังจะได้ไปต่อ วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา
“ทะมะ” เจ้าเหมียวนายสถานีรถไฟแห่งเมืองวะกะยะมะเสียชีวิตแล้ว “ทะมะ” เจ้าเหมียวสามสีแห่งสถานีรถไฟเมือง
ไม่ใช่หวังให้เป็นภาพแห่งความทรงจำของการประชุม ครม.รักษาการนัดแรกหลังยุบสภา และไม่ใช่เพียงสวมกอดเป็นข
จับสัญญาณทางการเมืองแล้ว หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี ด
ไม่ใช่หวังให้เป็นภาพแห่งความทรงจำของการประชุม ครม.รักษาการนัดแรกหลังยุบสภา และไม่ใช่เพียงสวมกอดเป็นของขวัญวันคล้ายวันเกิด “บิ๊กตู่” เท่านั้น หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีดีลจับมือกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพรรคพลังประชารัฐ เป็นสัญญาใจร่วมกันตั้งรัฐบาลแบบไม่ทิ้งกัน คล้ายกับที่เคยประกาศจับมือผนึกกับพรรคประชาธิปัตย์แบบ ไปไหนไปด้วยกัน หลังเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งขณะนั้น การตั้งรัฐบาลส่อเค้าเป็นปัญหาเพราะเสียงปริ่มน้ำ เหมือนในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร สมัยที่ 2 หลังเลือกตั้งปี 2548 ที่พรรคไทยรักไทยแลนด์สไลด์ ได้ ส.ส.377 คน ตั้งรัฐบาลพตาราง ฟุตบอล โลกรรคเดียว ก็เคยมีภาพนายเนวิน ชิดชอบ หนึ่งในครม.ของนายทักษิณขณะนั้น สวมกอดนายทักษิณอย่างแนบแน่นที่ทำเนียบรัฐบาลเช่นกัน ในช่วงที่นายทักษิณ ขอลาพักการปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกฯปี 2549 จึงปรากฏภาพกอดให้กำลังใจดังกล่าว เป็นภาพจำหนึ่งกระทั่งจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าในเวลาต่อมา ปี 2551 หลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชาชน นายเนวินและกลุ่มเพื่อนเนวินจะโบกมือลา แยกไปตั้งอยู่พรรคภูมิใจไทย และร่วมสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะนั้น จากผู้นำฝ่ายค้าน ไปเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมกับวลีที่ถูกจดจำและเล่าขานกันต่อ ๆ มา ว่า “มันจบแล้วครับนาย” แม้ในความเป็นจริง คนที่รู้ดีที่สุดว่ามีคำพูดนี้หรือไม่ คือนายทักษิณ กับนายเนวิน เพราะแม้แต่กับนายทักษิณ นายอนุทินไม่เคยตอบโต้หรือวิพากษ์รุนแรง ตรงกันข้ามกลับยอมรับว่าเป็นผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือ เช่นเดียวกับที่ไม่เคยวิพากษ์ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในทางลบเลย ขณะที่ในช่วงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพักการทำหน้าที่นายกฯ ขณะรอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินปมการเป็นนายกฯ 8 ปี ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว นายอนุทิน ไม่พลาดกับการไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ พาหมอไปรักษาอาการหลังมือเป็นสะเก็ด และไปนั่งกินข้าวกระเพราไก่ ที่กระทรวงกลาโหมด้วย เช่นเดียวกับเรื่องคูเหลี่ยมทางการเมือง หลายครั้งที่พรรคภูมิใจไทยแสดงออกในเรื่องที่ต่างไปจากรัฐบาล หรือเป็นประเด็นร้อน โดยเฉพาะจากนายศุภชัย ใจสมุทร เหรัญญิกพรรค ที่มักเป็นคนออกหน้าแถลงหรือตอบโต้แบบจัดหนัก เช่น กรณี พ.ร.บ.กัญชากัญชง หรือเรื่องจะเอาคืนนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกโรงโจมตีพรรคภูมิใจไทย ทั้งกัญชาเสรี และรถไฟฟ้าสายสีส้ม ถึงขั้นไฟเขียวให้ผู้สมัคร ส.ส.ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ ใน 400 เขตเลือกตั้ง แต่สุดท้าย นายอนุทินเป็นคนออกโรงปฏิเสธว่า ไม่ใช่เป็นมติพรรค กระทั่งถูกมองว่า เป็นการเดินเกมการเมืองแบบ “เซียนเหยียบเมฆ” หรือที่บางอาจมองว่า เป็นการเล่นการเมืองแบบ 2 หน้า ชั้นเชิงและลาไม่ธรรมดา เช่นเดียวกับภาพการโอบกอดพลอ.ประยุทธ์ ที่ส่งผลให้ใครบางคนนอนหลับฝันดีตลอดคืน เพระอย่างน้อยก็ยังมีความหวังจะได้ไปต่อ วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา
วันนี้ (21 เม.ย.2566) โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ออกแถลงการณ์ เรื่องอุบัติเหตุวัสดุก่อสร้างร่วง