วันนี้ (25 ต.ค.2565) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รักษาราชการอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศทวีปแอฟริกาที่ เริ่มต้นในเดือน ก.ย.2565 ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขประ
เป็นการรับช่วงต่อตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่มีวาระให้สะสาง ล้างภาพจำ อยู่หลายเรื่อง โดยเฉพาะภาพความขัดแย้งในองค์กรไปจนถึงวิกฤตศรัทธาพยายามกอบที่กู้มาหลายยุคแล้ว แต่ยังไม่เห็นผล วันนี้ 7 ต.ค.2
ภายหลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายไผ่ ลิกค์ และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ร่วมแถลงท่าทีแยกทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.โดยมี สส.ของพรรค เข้ามาร่วม "กลุ่มธรรมนัส" ประมาณ 29 คน และมี สส.พรรคเล็ก อีก 5 คน วันนี้ (21 ส.ค.2567) นายไผ่ ให้สัมภลิงค์ บอล สด วัน นี้าษณ์ไทยพีบีเอส ว่า ได้ส่งชื่อรัฐมนตรีในสัดส่วนของกลุ่มเสร็จแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด เพราะต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ เบื้องต้นโผสัดส่วน รมต.อยู่ที่ 4 เก้าอี้เช่นเดิม นายไผ่ ระบุว่า ส่วนใหญ่ในกลุ่มเป็น สส.เขต และมีความจำเป็นต้องเป็นรัฐบาล ปัจจุบันอยู่ในสังกัด พปชร.ด้วยข้อกฎหมาย และต้องการให้ขับออกจากพรรค เพื่อให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ พร้อมยืนยันว่า ไม่มีปัญหาทะเลาะกับใคร แต่เลือกพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ส่วนจะมีตัวเลข สส.เข้ามาเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องหารือกันในกลุ่ม เพราะอยู่กันแบบครอบครัว ส่วนกรณีที่อีกกลุ่มระบุว่าดีลกับพรรคเพื่อไทยนั้น นายไผ่ ระบุว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคอาจได้รับข้อมูลผิดพลาด เพราะ ร.อ.ธรรมนัส ดีลกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม หากผู้ถูกเสนอชื่อมีปัญหาคุณสมบัติ ก็สามารถขยับปรับเปลี่ยนได้ ยืนยันว่าจะไม่สร้างความหนักใจกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ยังระบุว่าได้รับข่าวดีจากพรรคเพื่อไทย เรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เดินหน้าแน่นอน และเป็นแนวทางที่ทุกคนแฮปปี้ อ่านข่าว : "ธรรมนัส" เปิดใจแยกทาง "ประวิตร" นำ 29 สส.พลังประชารัฐถอย สะพัด! ธรรมนัส ยกก๊วนย่องพบ "เฉลิมชัย" ดีลปชป.ร่วมเพื่อไทย เช็กชื่อ 26 สส. "กลุ่มธรรมนัส" ลอยแพบิ๊กป้อม
ภายหลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายไผ่ ลิกค์ และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ร่วมแถลงท่าทีแยกทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.โดยมี สส.ของพรรค เข้ามาร่วม
วันที่ 18 ธ.ค.2566 น.ส.ปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลง Policy Watch นโยบายการศึกษา