"พิธา" โพสต์ภาพยาย บอกไม่เคยอ้างเป็นลูกหลาน "อภัยวงศ์"

ท่ามกลางวิกฤต COVID-19 ที่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลายหน่วยงานเร่งวิจัยและพัฒนาวัคซีนซึ่งเป็นทางออกสำคัญในการแก้วิกฤตครั้งนี้ และขณะนี้ไทยกำลังมีความหวังใหม่ที่จะเข้ามาเปลี่ยนเกม COVID-

วันนี้ (6 มิ.ย.2567) นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานบันท

วันนี้ (5 มี.ค.2566) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย (Anti-Fake News Center Thailand) ชี้แจงกรณีที่มีข้อมูลระบุว่า กรมขนส่งเปิดอบรมใบขับขี่ออนไลน์ที่บ้านนั้น ทางกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้ตรวจสอ

ท่ามกลางวิกฤต COVID-19 ที่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลายหน่วยงานเร่งวิจัยและพัฒนาวัคซีนซึ่งเป็นทางออกสำคัญในการแก้วิกฤตครั้งนี้ และขณะนี้ไทยกำลังมีความหวังใหม่ที่จะเข้ามาเปลี่ยนเกม COVID-19 ด้วยวัคซีนแบบพ่นจมูก ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ(ไบโอเทค) ระบุว่า ก่อนหน้านี้ประสิทธิภาพวัคซีนป้องกัน COVID-19 ที่หลายคนได้ยินคือ "กันตายแต่ไม่กันติด" เพราะไวรัส COVID-19 เข้าสู่ร่างกายผ่านระบบทางเดินหายใจ ขณะที่วัคซีนที่ฉีดทางกล้ามเนื้อจะไปกระตุ้นภูมิต้านทานหรือแอนติบอดี ชนิด ที-เซลล์ (T-cell) ในกระแสเลือดหรืออวัยวะต่าง ๆ และไม่ได้สร้างแอนติบอดีไปถึงบริเวณจมูกมากเพียงพอที่จะป้องกันไวรัสเข้าสู่ร่าเช ล ซี สด เช ล ซี สดงกายได้ นวัตกรรมวัคซีนฉีดพ่นจมูกของทีม สวทช.จึงเกิดขึ้น 2 ชนิด วัคซีนตัวแรก คือ Adenovirus ที่มีการแสดงออกของโปรตีนสไปค์ (Spike) ออกแบบโดยการพ่นเข้าจมูกผ่านละอองฝอย ซึ่งวัคซีนนี้ได้ทุนวิจัยจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติ โดยผลทดสอบหลังนำเชื้อ COVID-19 ฉีดในหนูทดลอง ที่ได้รับการพ่นวัคซีนแล้ว 2 เข็ม พบว่าหนูทดลองไม่มีอาการป่วย หรือตายใด ๆ ทั้งยังกินอาหารได้ปกติ และน้ำหนักไม่ลด เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ ที่ฉีดวัคซีนเข้ากล้าม พบว่าหนูไม่มีอาการป่วย หรือตายเช่นกัน แต่มีน้ำหนักตัวลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ขณะนี้ทีมวิจัยอยู่ระหว่างดูข้อมูลปริมาณไวรัสที่อยู่ในปอดว่ามีมากน้อยเพียงใด เพื่อนำข้อมูลไปเสนอ อย.ขอนุมัติการทดสอบในมนุษย์เฟส 1 และ 2 ต่อไป ทั้งนี้ สวทช.ได้ประสานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เพื่อจับมือทำการทดสอบในมนุษย์ พร้อมประสานบริษัทเอกชน KinGen BioTech ที่มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน เพื่อนำวัคซีนไปใช้ทดสอบได้จริง คาดว่าจะมีข่าวดีภายในปีหน้า ส่วนผลงานวิจัยกำลังเร่งรวบรวมส่งเข้าตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ ส่วนวัคซีนตัวที่ 2 คือ Influenza virus ที่มีการแสดงออกของโปรตีน RBD ของสไปค์ (Spike) โดยตัดแต่งไวรัสไข้หวัดใหญ่ให้เชื้ออ่อนลง แล้วเพิ่มสารพันธุกรรม RBD ซึ่งเป็นส่วนที่จะสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสก่อโรค COVID-19 เข้าไป ดังนั้น ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะสร้างขึ้นมา 2 แบบ คือ รู้จักกับ COVID-19 และไข้หวัดใหญ่ หลังทดสอบในหนูทดลอง พบว่า เมื่อนำเลือดของหนูทดลองมาดู ในปอดมีแอนติบอดีสูง ป้องกันการติดเชื้อในปอดได้ดี โดยผลการวิจัยเรื่องระดับภูมิคุ้มกันในหนูทดลองได้ตีพิมพ์ไปแล้ว ขณะนี้กำลังต่อคิวทดสอบประสิทธิภาพการคุ้มโรค COVID-19 โดยร่วมมือกับทีมองค์การเภสัชกรรม และ มีแผนจะออกมาทดสอบเป็นตัวต่อมา ดร.อนันต์ ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของนวัตกรรมฉีดพ่นวัคซีนเข้าจมูกที่อาจจะมาเป็นตัวเปลี่ยนเกมวิกฤต COVID-19 ว่า เมื่อรับวัคซีนพ่นเข้าจมูกแล้วร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันในระบบเยื่อเมือกขึ้นที่บริเวณโพรงจมูก กรณีได้รับเชื้อ COVID-19 ก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อต้านการติดเชื้อโดยตรง ส่งผลให้ไวรัสไม่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ ป้องกันการติดเชื้อ การเกิดโรค ดังนั้น นวัตกรรมนี้อาจนำมาใช้แทนการฉีดวัคซีนเข้ากล้ามได้ในอนาคต สำหรับวิกฤต COVID-19 ครั้งนี้ การฉีดวัคซีนเข้ากล้ามนำมาใช้ก่อน เพราะผลิตได้ง่ายกว่า และเป็นที่รู้จักของหลายคน ทำให้มีความมั่นใจต่อประสิทธิภาพ ส่วนการพ่นเข้าจมูก เป็นวิธีที่ค่อนข้างใหม่เมื่อเทียบกับวัคซีนรูปแบบอื่น แต่จากผลทดสอบก็เห็นความแตกต่างไม่มาก ดร.อนันต์ ระบุว่า การวิจัยและพัฒนาวัคซีนในประเทศไทยนั้น หากไปต่อสู้กับคนข้างนอกอาจถูกมองว่าช้า แต่หากต่อสู้กับตัวเองในอดีตถือว่าประเทศไทยพัฒนาไปได้ไวมาก จากประสบการณ์ที่ทำวัคซีนมา ในช่วงไข้หวัดใหญ่ 2019 ไทยวิจัยและพัฒนาวัคซีนสำเร็จในเวลาใกล้เคียงกับวัคซีนของ CDC สหรัฐอเมริกา แต่สุดท้าย คนไทยก็ได้ใช้วัคซีนของสหรัฐฯ

วันนี้ (27 ม.ค.2566) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ว่า จากการพยากรณ์ในวันที่ 26-27 ม.ค.นี้ มีค่าฝุ่นสูงขึ้น เนื่องจากอากาศที่กดลงและมีลมต่ำ แต่คาดว่าใน