วันนี้ (26 ก.ค.2567) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.7% ปรับเพิ่มจากประมาณการครั้งก่อน ณ เดือนเม.ย. อยู่ที่ 2.4% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยได้รับแรงสนับสนุ
วันนี้ (20 พ.ย.2567) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลัง ดีจีเอ และหน่วยงานที่เก
วันนี้ (19 ม.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมส่งรายงานคว
วันนี้ (26 ก.ค.2567) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.7% ปรับเพิ่มจากประมาณการครั้งก่อน ณ เดือนเม.ย. อยู่ที่ 2.4% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยได้รับแรงสนับสนุนเนื่องจาก 3 ปัจจัยสำคัญ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ได้แก่ การส่งออกสินค้ามีสัญญาณขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดการณ์ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 2.7% เพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ 2.3% จากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าสำคัญขยายตัวได้ดีขึ้นโดยเฉพาะ สหรัฐอเมริกา จีน และยูโรโซน โดยมีการปรับตัวขึ้นของ GDP ประเทศคู่ค้า 15 ประเทศหลักที่ 3.2% เพิ่มขึ้นจากประมาณการครั้งก่อนที่ 3.1% ภาคการท่องเที่ยวที่โตอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวน และรายได้ที่ได้รับจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศสูงกว่าที่คาดการณ์ สะท้อนผลตอบรับที่ดีจากมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (วีซ่าฟรี) ให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มที่มีรายจ่ายต่อหัวสูง รมช.คลังกล่าวอีกว่า รายจ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวคาดอยู่ที่ 47,000 บาท/คน/ทริป เพิ่มขึ้นจากประมาณการครั้งก่อนที่อยู่ที่ 44,600 บาท/คน/ทริป โดยรวมภาคการท่องเที่ยวทั้งปี 2567 คาดว่าจะสร้างรายได้กว่า 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.4% จากปีก่อน และปัจจัยหนุนสุดท้าย คือ การเบิกจ่ายภาครัฐที่ดีกว่าที่คาดการณ์ และมีทิศทางดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงท้ายของปีงบประมาณ 2567 โดยคาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายได้ 3.24 ล้านล้านบาท คิดเป็น 90% ของงบประมาณทัwby ufabet public validate้งหมดแบ่งเป็นรายจ่ายประจำที่คาดว่าจะทำได้ 99.5% และรายจ่ายลงทุน 57.5% ส่วนรายจ่ายเหลื่อมปีและรายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจคาดว่าจะอยู่ที่ 94% และ 95% ตามลำดับ ขณะเดียวกัน การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัว 4.5% เพิ่มขึ้นจากการประมาณการครั้งก่อนที่ 3.5% ส่วนหนึ่งจากรายได้เกษตรกรขยายตัว 8% และภาษีมูลค่าเพิ่มที่แท้จริง (Real VAT) ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้การใช้จ่ายและการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 3.6% ขณะที่ด้านเสถียรภาพภายในประเทศอยู่ในระดับมั่นคง คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะอยู่ที่ 0.6% ต่อปี ดุลบริการมีแนวโน้มเกินดุล ตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2567 เกินดุล 11.0 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 2.4% ของ GDP ทั้งนี้ การประมาณการ GDP ณ เดือน ก.ค. ยังไม่ได้นับรวมผลที่คาดว่าจะได้รับในระบบเศรษฐกิจที่เกิดจากโครงการ Digital Wallet ทั้งนี้ เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะสามารถเติบโตได้ตามเป้า 3% จากมาตรการอื่นๆ ที่รัฐบาลจะเพิ่มเติมลงไป เช่น สินเชื่อซอฟต์โลนออมสิน มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ มาตรการทางภาษีในการดึงดูดการลงทุน รวมทั้งการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ อย่างไรก็ตาม ยังควรติดตามปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โลกในภูมิภาคต่าง ๆ ที่เริ่มรุนแรงมากขึ้น อาจเป็นข้อจำกัด และส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย เช่น สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล และอิหร่าน การแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างจีน และสหรัฐอเมริกา และความกังวลเรื่องข้อพิพาททะเลจีนใต้เกี่ยวกับการอ้างกรรมสิทธิ์หลังมีการซ้อมรบของกองทัพเรือจีน และรัสเซียในบริเวณดังกล่าวซึ่งผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา และทิศทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยด้วย อ่านข่าว: เคาะ 2 ล้านราย ลงทะเบียน “ดิจิทัล วอลเล็ต” สัปดาห์หน้า ส่งออกไทยอืด 6 เดือน ขยาย 2 % สนค.ชี้ เหตุการค้าโลกยังป่วน อสังหาฯ ชะลอ ฉุดราคาที่ดินเปล่าร่วง “REIC” ชี้ผู้ประกอบการเมินซื้อสะสม
เป็นที่รู้กันทั่วโลกว่า “จีน” ยังใช้มาตรการควบคุมการจำกัดโรคโควิด-19 โดยนโยบายโควิดเป็นศูนย์ หรือ Zero covid อย่างเข้มงวด ซึ่งถือว่ารัฐบาลจีนทำผลงานในด้านการควบคุมโรคได้ดีตลอดระยะเวลา 3 ปีที่โควิด-19
- wby ufabet public validate
- สมัคร sood slot vip
- บอล เต็ง สปอร์ต แมน
- slot empire no deposit bonus codes 2021
- ฝาก 5 รับ 50 ล่าสุด
- kinglive22 xo