Pemerintah ProvinsiKalimantan Selatanmelalui Badan

"มีเทน" เป็น "ก๊าซเรือนกระจก" อันดับ 2 รองจากคาร์บอนไดออกไซด์ที่ส่งผลให้เกิด "ภาวะโลกร้อน" ได้มากที่สุด และประมาณ 1 ใน 3 ของก๊าซมีเทนที่เกิดจากมนุษย์นั้นถูกปล่อยออกมาจากการทำฟาร์มปศุสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น
วันนี้ (6 เม.ย.2564) ดารานักแสดงและนักร้องที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อ COVID-19 ต่างโพสต์ข้อความรายงานเหตุการณ์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ระบุยกเลิกงานแสดง กักตัว 14 วัน และตรวจหาเชื้อทันที "GMMTV" ออ
"มีเทน" เป็น "ก๊าซเรือนกระจก" อันดับ 2 รองจากคาร์บอนไดออกไซด์ที่ส่งผลให้เกิด "ภาวะโลกร้อน" ได้มากที่สุด และประมาณ 1 ใน 3 ของก๊าซมีเทนที่เกิดจากมนุษย์นั้นถูกปล่อยออกมาจากการทำฟาร์มปศุสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น วัว แกะ หรือแพะ ก๊าซมีเทนจากสัตว์เหล่านี้จะถูกปล่อยผ่านการเรอและการสลายตัวของมูลสัตว์ ขณะนี้นักวิจัยในสวีเดนได้ทำการวิจัยผสมสาหร่ายขนนกทะเลสีแดงลงในมูลของวัว ซึ่งเป็นสาหร่ายชนิดหนึ่งที่มีการกระจายพันธุ์ทั่วโลกในเขตร้อนถึงน้ำอุ่น โดยสารประกอบหลักในสาหร่ายคือโบรโมฟอร์ม (Bromoform) สารชนิดนี้มีความสามารถในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการสลายตัวของมูลสัตว์ โดยการปิดกั้นกระบวนการที่ก๊าซถูกสร้างขึ้น ซึ่งเป็นสารยับยั้งก๊าซมีเทนตามธรรมชาติที่ได้ผลดีที่สุด ปัจจุบันผลการวิจัยชี้ให้เห็นแล้วว่าการเติมสาหร่ายขนนกทะเลสีแดงในอุจจาระของวัวช่วยลดการผลิตก๊าซมีเทนจากมูลวัวได้อย่างมีนัยสำคัญถึง 44% เมื่อเทียบกับมูลวัวที่ไม่มีการเติมสาหร่ายขนนกทะเลสีแดง ก่อนหน้านี้มีการศึกษามากมายที่ใช้สาหร่ายขนนกทะเลสีแดงผสมในอาหารวัวเพื่อลดการผลิตก๊าซมีเทนในลำไส้แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก อีกทั้งการทดลองยังส่งผลข้างเคียงไปถึงระดับไอโอดีนที่เพิ่มขึ้นในนมวัว เนื่องจากสาหร่ายชนgame play 5 ราคาิดนี้มีไอโอดีนในระดับสูง ซึ่งจะส่งผลกระทบไปสู่สุขภาพของมนุษย์ที่บริโภคนมด้วย เพราะถึงแม้ไอโอดีนจะเป็นสารอาหารที่จำเป็นแต่อาจเป็นพิษได้หากได้รับในปริมาณสูงเกินไป แม้ว่าผลลัพธ์ในการทดลองระหว่างสาหร่ายขนนกทะเลสีแดงกับมูลวัวจะเป็นที่น่าพอใจ แต่นักวิจัยก็ชี้ว่าพวกเขาได้ทำการศึกษาแบบนำร่องโดยใช้มูลจากวัวเพียง 4 ตัวเท่านั้น สำหรับการศึกษาค้นคว้าในอนาคตจะต้องเพิ่มจำนวนวัวในการทดลองเก็บมูลสัตว์ และจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารประกอบของสาหร่ายกับมูลวัวแต่ละสายพันธุ์ แม้ว่านี่จะเป็นการศึกษาเล็ก ๆ แต่นักวิจัยก็หวังว่าจะเป็นการปูทางให้ทีมวิจัยอื่น ๆ หันมาศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการหยุดการผลิตก๊าซมีเทนในมูลสัตว์เพื่อการทำฟาร์มปศุสัตว์อย่างยั่งยืนต่อไป ที่มาข้อมูล: newatlas, globalseafood, technologynetworks, theguardian“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
วันนี้ (27 ก.พ.2568) ตำรวจ กก.5 บก.ปทส.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นเข้าเมือง, เจ้าหน้าที่กรมอุทยาน
วันนี้ (6 ม.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี "เคนโด้" นายกุลภัทร พงศ์ประภาพ นายแบบหนุ่มที่ห
วันนี้ (1 ก.พ.2568) นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลั
"มีเทน" เป็น "ก๊าซเรือนกระจก" อันดับ 2 รองจากคาร์บอนไดออกไซด์ที่ส่งผลให้เกิด "ภาวะโลกร้อน" ได้มากที่สุด และประมาณ 1 ใน 3 ของก๊าซมีเทนที่เกิดจากมนุษย์นั้นถูกปล่อยออกมาจากการทำฟาร์มปศุสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น วัว แกะ หรือแพะ ก๊าซมีเทนจากสัตว์เหล่านี้จะถูกปล่อยผ่านการเรอและการสลายตัวของมูลสัตว์ ขณะนี้นักวิจัยในสวีเดนได้ทำการวิจัยผสมสาหร่ายขนนกทะเลสีแดงลงในมูลของวัว ซึ่งเป็นสาหร่ายชนิดหนึ่งที่มีการกระจายพันธุ์ทั่วโลกในเขตร้อนถึงน้ำอุ่น โดยสารประกอบหลักในสาหร่ายคือโบรโมฟอร์ม (Bromoform) สารชนิดนี้มีความสามารถในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการสลายตัวของมูลสัตว์ โดยการปิดกั้นกระบวนการที่ก๊าซถูกสร้างขึ้น ซึ่งเป็นสารยับยั้งก๊าซมีเทนตามธรรมชาติที่ได้ผลดีที่สุด ปัจจุบันผลการวิจัยชี้ให้เห็นแล้วว่าการเติมสาหร่ายขนนกทะเลสีแดงในอุจจาระของวัวช่วยลดการผลิตก๊าซมีเทนจากมูลวัวได้อย่างมีนัยสำคัญถึง 44% เมื่อเทียบกับมูลวัวที่ไม่มีการเติมสาหร่ายขนนกทะเลสีแดง ก่อนหน้านี้มีการศึกษามากมายที่ใช้สาหร่ายขนนกทะเลสีแดงผสมในอาหารวัวเพื่อลดการผลิตก๊าซมีเทนในลำไส้แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก อีกทั้งการทดลองยังส่งผลข้างเคียงไปถึงระดับไอโอดีนที่เพิ่มขึ้นในนมวัว เนื่องจากสาหร่ายชนgame play 5 ราคาิดนี้มีไอโอดีนในระดับสูง ซึ่งจะส่งผลกระทบไปสู่สุขภาพของมนุษย์ที่บริโภคนมด้วย เพราะถึงแม้ไอโอดีนจะเป็นสารอาหารที่จำเป็นแต่อาจเป็นพิษได้หากได้รับในปริมาณสูงเกินไป แม้ว่าผลลัพธ์ในการทดลองระหว่างสาหร่ายขนนกทะเลสีแดงกับมูลวัวจะเป็นที่น่าพอใจ แต่นักวิจัยก็ชี้ว่าพวกเขาได้ทำการศึกษาแบบนำร่องโดยใช้มูลจากวัวเพียง 4 ตัวเท่านั้น สำหรับการศึกษาค้นคว้าในอนาคตจะต้องเพิ่มจำนวนวัวในการทดลองเก็บมูลสัตว์ และจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบปฏิสัมพันธ์ระหว่างสารประกอบของสาหร่ายกับมูลวัวแต่ละสายพันธุ์ แม้ว่านี่จะเป็นการศึกษาเล็ก ๆ แต่นักวิจัยก็หวังว่าจะเป็นการปูทางให้ทีมวิจัยอื่น ๆ หันมาศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการหยุดการผลิตก๊าซมีเทนในมูลสัตว์เพื่อการทำฟาร์มปศุสัตว์อย่างยั่งยืนต่อไป ที่มาข้อมูล: newatlas, globalseafood, technologynetworks, theguardian“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
วันนี้ (29 ม.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายงานของคณะทำงานด้านวัคซีนของเยอรมนี ซึ่งประกอบไปด้วยผู้เ