สื่อสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์กรณีผู้ปกครองนักเรีย

วันนี้ (22 ต.ค.2567) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ระบุถึงความคืบหน้าคดีตากใบที่จะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 3 วัน แต่ในส่วนของฝ่ายราชการยังคงพยายามติดตามเรื่องนี้ และ
ผู้นำลาวเดินทางเยือนเกาหลีเหนือ ผู้นำของลาวเดินทางเยือนเกาหลีเหนือเป็นเวลา 3 วัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ ผู้นำลาวเดินทางเยือนเกาหลีเหนือ สำนักข่าว "เคซีเอ็นเอ"ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ เผยแ
วันนี้ (22 ต.ค.2567) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ระบุถึงความคืบหน้าคดีตากใบที่จะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 3 วัน แต่ในส่วนของฝ่ายราชการยังคงพยายามติดตามเรื่องนี้ และหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้ ซึ่งการหารือระหว่างหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวานนี้ (21 ต.ค.) ได้นำเรื่องนี้มาพูดคุย ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมแม้จะไม่มีอำนาจจับกุม แต่ได้ให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหลายคนช่วยสนับสนุนข้อมูลกับตำรวจ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เห็นใจผู้เสียหาย ซึ่งแนวคิดการแก้ไขเรื่องของอายุความมีการพิจารณาหลายครั้ง แต่ต้องแก้เป็นกฎหมาย เฉพาะพื้นที่ภาคใต้มีผู้หลบหนีหมายจับประมาณ 1,789 หมายจับ ส่วนใหญ่ไม่ใช่ข้าราชการ และบางส่วนอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ทำให้ขาดอายุความไปกว่า 140 กรณี จึงต้องมองเรื่องนี้ให้รอบด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำอย่างเต็มที่ ซึ่งกรณีตากใบ ยืนยันว่าในฐานะรัฐบาลไม่อคติต่อใคร และถือเป็นบทเรียนของสังคมไทย ซึ่งความล่าช้าของสำนวน พบว่าหลังจากปี 2562 อัยการงดการสอบสวนแล้ว แต่ในช่วงต้นปี 2567 ทางกรรมาธิการฯ ขบอล ดีองสภาผู้แทนราษฎร ได้ผลักดันเรื่องนี้อีกครั้ง และเห็นว่ามีเรื่องของอายุความล็อกอยู่ แต่ก็พยายามช่วยเหลืออย่างถึงที่สุดจนคดีนำไปสู่การออกหมายจับ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าไม่ใช่คดีแรกที่ไม่สามารถจับกุมได้ เนื่องจากมีการหลบหนีออกนอกประเทศ แล้วทำให้หาตัวได้ยาก ขณะนี้ก็เหลือเวลาอีก 3 วัน ขอให้กำลังใจผู้ปฏิบัติและญาติผู้เสียชีวิต และประชาชน รวมไปถึงผู้ที่ออกมาต่อสู้ ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และนักวิชาการ ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในอายุความ โดยย้ำทุกหน่วยว่าอย่าหยุดสืบสวนติดตามจับกุม ส่วนประเด็นอื่น ๆ เป็นเรื่องของกฎหมาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าติดตามตัวผู้ต้องหาในคดีตากใบ ก่อนคดีหมดอายุความในอีก 3 วัน ว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งมีคำพิพากษาจากศาลจังหวัดปัตตานีและนราธิวาสในเรื่องการชดใช้ค่าเสียหาย แต่หลังจากนั้นมีประชาชนยื่นฟ้องศาลให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา รวมถึงมีกรณีที่อัยการก็ส่งฟ้องคดีต่อศาล รวมแล้วในคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 14 คน จนนำไปสู่การออกหมายจับ โดยตัวเองได้เดินทางไปที่ตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อสอบถาม และสั่งการให้เร่งรัดดำเนินการสืบสวนติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับภายในอายุความ พร้อมออกวิทยุราชการกำชับกองบัญชาการ และภูธรจังหวัดติดตามผู้ต้องหาที่มีภูมิลำเนา และถิ่นที่อยู่ โดยการปฏิบัติให้แยกออกเป็น 2 ส่วน คือด้านธุรการ ที่ได้รับหมายจับมา และลงในระบบ Crime รวมถึงมีการสืบจับ และเวียนหนังสือการสืบสวนติดตาม และประสานกับกองการต่างประเทศ เพื่อให้ออกหมายแดง ตามระเบียบปฏิบัติ อีกส่วนคือการปฏิบัติ ตัวเองได้สั่งการด้วยหนังสือให้ติดตามจับกุมรวมแล้ว 29 ครั้งในการเข้าตรวจค้น และประสานสื่อมวลชนในการเข้าค้น รวมถึงตำรวจต้องมีกล้อง และปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ซึ่งนอกจากตรวจค้นแล้ว ยังสั่งการให้มีการเฝ้าจุด และติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อระมัดระวังการหลบหนีออกนอกประเทศ กว่า 180 ครั้ง เป็นไปตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ให้ดำเนินการอย่างเต็มที่ และจับกุมผู้ต้องหาให้ได้ภายในอายุความ โดยหากประชาชนคนไหนมีเบาะแส ให้แจ้งยังพื้นที่ ซึ่งจากข้อมูลทราบว่ามีบางคนที่หลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนจะมีการออกหมายจับ เบื้องต้นตำรวจยังเฝ้าติดตามอยู่ทุกวิถีทาง ส่วนประเด็นการแก้กฎหมายเพื่อขยายอายุความของคดีนั้นพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า เมื่อคดียังอยู่ในอายุความ ทางตำรวจจะมุ่งเป้าไปที่การสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา ส่วนประเด็นอื่นก็ขอให้ว่าไปในเรื่องกฎหมาย เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการเมือง และไม่อยากให้เชื่อมโยงกับเรื่องการเมือง อีกทั้งยังมองว่าเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นในระยะนี้เป็นเรื่องคนละส่วนกัน อ่านข่าว : แม่ทัพภาค 4 ย้ำอย่าเชื่อผู้ไม่หวังดีปั่นกระแสปม "ตากใบ" ลบ ไม่เลือน 20 ปี ตากใบ 20 ปี ตากใบบาดแผลรอวันเยียวยา บนเส้นทางสันติภาพชายแดนใต้
เมืองรองท่องเที่ยว หรือ 55 เมืองท่องเที่ยวทั่วไทย ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เดินหน้าผลักดั
วันที่ 17 ต.ค.2566 กลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ตลาดต้นไม้เทเวศร์ กรุงเทพฯ นำโดย นางปราณี จำเนียรกุล เป็นตัวแท
วันนี้ (12 มี.ค.2568) ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญและน่าสนใจ โดยหนึ่งในคดีที่สำคัญมี ดังนี้
วันนี้ (22 ต.ค.2567) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ระบุถึงความคืบหน้าคดีตากใบที่จะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 3 วัน แต่ในส่วนของฝ่ายราชการยังคงพยายามติดตามเรื่องนี้ และหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้ ซึ่งการหารือระหว่างหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวานนี้ (21 ต.ค.) ได้นำเรื่องนี้มาพูดคุย ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมแม้จะไม่มีอำนาจจับกุม แต่ได้ให้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหลายคนช่วยสนับสนุนข้อมูลกับตำรวจ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เห็นใจผู้เสียหาย ซึ่งแนวคิดการแก้ไขเรื่องของอายุความมีการพิจารณาหลายครั้ง แต่ต้องแก้เป็นกฎหมาย เฉพาะพื้นที่ภาคใต้มีผู้หลบหนีหมายจับประมาณ 1,789 หมายจับ ส่วนใหญ่ไม่ใช่ข้าราชการ และบางส่วนอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ทำให้ขาดอายุความไปกว่า 140 กรณี จึงต้องมองเรื่องนี้ให้รอบด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำอย่างเต็มที่ ซึ่งกรณีตากใบ ยืนยันว่าในฐานะรัฐบาลไม่อคติต่อใคร และถือเป็นบทเรียนของสังคมไทย ซึ่งความล่าช้าของสำนวน พบว่าหลังจากปี 2562 อัยการงดการสอบสวนแล้ว แต่ในช่วงต้นปี 2567 ทางกรรมาธิการฯ ขบอล ดีองสภาผู้แทนราษฎร ได้ผลักดันเรื่องนี้อีกครั้ง และเห็นว่ามีเรื่องของอายุความล็อกอยู่ แต่ก็พยายามช่วยเหลืออย่างถึงที่สุดจนคดีนำไปสู่การออกหมายจับ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าไม่ใช่คดีแรกที่ไม่สามารถจับกุมได้ เนื่องจากมีการหลบหนีออกนอกประเทศ แล้วทำให้หาตัวได้ยาก ขณะนี้ก็เหลือเวลาอีก 3 วัน ขอให้กำลังใจผู้ปฏิบัติและญาติผู้เสียชีวิต และประชาชน รวมไปถึงผู้ที่ออกมาต่อสู้ ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และนักวิชาการ ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในอายุความ โดยย้ำทุกหน่วยว่าอย่าหยุดสืบสวนติดตามจับกุม ส่วนประเด็นอื่น ๆ เป็นเรื่องของกฎหมาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าติดตามตัวผู้ต้องหาในคดีตากใบ ก่อนคดีหมดอายุความในอีก 3 วัน ว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งมีคำพิพากษาจากศาลจังหวัดปัตตานีและนราธิวาสในเรื่องการชดใช้ค่าเสียหาย แต่หลังจากนั้นมีประชาชนยื่นฟ้องศาลให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา รวมถึงมีกรณีที่อัยการก็ส่งฟ้องคดีต่อศาล รวมแล้วในคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 14 คน จนนำไปสู่การออกหมายจับ โดยตัวเองได้เดินทางไปที่ตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อสอบถาม และสั่งการให้เร่งรัดดำเนินการสืบสวนติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับภายในอายุความ พร้อมออกวิทยุราชการกำชับกองบัญชาการ และภูธรจังหวัดติดตามผู้ต้องหาที่มีภูมิลำเนา และถิ่นที่อยู่ โดยการปฏิบัติให้แยกออกเป็น 2 ส่วน คือด้านธุรการ ที่ได้รับหมายจับมา และลงในระบบ Crime รวมถึงมีการสืบจับ และเวียนหนังสือการสืบสวนติดตาม และประสานกับกองการต่างประเทศ เพื่อให้ออกหมายแดง ตามระเบียบปฏิบัติ อีกส่วนคือการปฏิบัติ ตัวเองได้สั่งการด้วยหนังสือให้ติดตามจับกุมรวมแล้ว 29 ครั้งในการเข้าตรวจค้น และประสานสื่อมวลชนในการเข้าค้น รวมถึงตำรวจต้องมีกล้อง และปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ซึ่งนอกจากตรวจค้นแล้ว ยังสั่งการให้มีการเฝ้าจุด และติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อระมัดระวังการหลบหนีออกนอกประเทศ กว่า 180 ครั้ง เป็นไปตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ให้ดำเนินการอย่างเต็มที่ และจับกุมผู้ต้องหาให้ได้ภายในอายุความ โดยหากประชาชนคนไหนมีเบาะแส ให้แจ้งยังพื้นที่ ซึ่งจากข้อมูลทราบว่ามีบางคนที่หลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนจะมีการออกหมายจับ เบื้องต้นตำรวจยังเฝ้าติดตามอยู่ทุกวิถีทาง ส่วนประเด็นการแก้กฎหมายเพื่อขยายอายุความของคดีนั้นพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า เมื่อคดียังอยู่ในอายุความ ทางตำรวจจะมุ่งเป้าไปที่การสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา ส่วนประเด็นอื่นก็ขอให้ว่าไปในเรื่องกฎหมาย เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการเมือง และไม่อยากให้เชื่อมโยงกับเรื่องการเมือง อีกทั้งยังมองว่าเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นในระยะนี้เป็นเรื่องคนละส่วนกัน อ่านข่าว : แม่ทัพภาค 4 ย้ำอย่าเชื่อผู้ไม่หวังดีปั่นกระแสปม "ตากใบ" ลบ ไม่เลือน 20 ปี ตากใบ 20 ปี ตากใบบาดแผลรอวันเยียวยา บนเส้นทางสันติภาพชายแดนใต้
โฆษกของเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน มาร์เคิล พระชายา เปิดเผยว่า ทั้ง 2 รวมไปถึงแม่ของเมแกน ต้องนั่งรถหลบหนี