UID: 67413

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้ไม่สามารถแข่งขันกีฬาหลายประเภทได้ นายสาธิต ปิตุเตชะ ร

ไม่ใช่สัตว์ที่เจ้าของบ้านเลี้ยงเอาไว้เฝ้าบ้าน แต่เป็นหมีดำนักย่องเบาที่บุกเข้ามาในตัวบ้านโดยที่ไม่มี

วันนี้ (25 เม.ย.2566) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังชุดสืบนครบาล ทลายเครือข่ายแก๊ง “มังกรเจียงซี” รวบตัวมิจฉาชีพชาวจีน 6 คน พร้อมตรวจยึดของกลาง “ทองปลอม” ได้เกือบ 200 ก้อน น้ำหนักรวมประมาณ 30 กิโลกรัม สำหรับพฤติการณ์ของกลุ่มก่อเหตุ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายชาวจีนสัญชาติไทยคนหนึ่ง ซึ่งถูกกลุ่มมิจฉาชีพที่เป็นชาวจีนหลอกขายทองคำ โดยกลุ่มมิจฉาชีพทำทีว่ามีทองคำแท้จำนวนมาก ขุดเจอที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นำมาขายให้กับผู้เสียหายในราคาถูก ทำให้ผู้เสียหายคนดังกล่าวหลงเชื่อและเสียเงินให้กับกลุ่มมิจฉาชีพไปกว่า 500,000 บาท หลังจากให้เงินแล้วกลุ่มมิจฉาชีพได้หายเข้ากลีบเมฆและไม่สามารถติดต่อได้อีก ขณะที่แผนประทุษกรรมของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ใช้วิธีการหาเหยื่อจากลายแทง “สมุดรายชื่อคนไทยเชื้อสายจีน” คัดรายชื่อเฉพาะบุคคลที่มีฐานะดีที่อยู่ในประเทศไทย จากนั้นใช้วิธีโทรศัพท์ติดต่อแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งฐานอยู่ที่อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นอาชีพเก่าของผู้ก่อเหตุ เมื่อเลือกเหยื่อได้แล้วจะใช้การต้มตุ๋นที่วางแผนมทีเด็ด บอล ที่ แม่น ที่สุดาอย่างแยบยล ด้วยการ “นำทองจริงฝังไว้กลางทองปลอม แล้วผ่าให้ตรวจพิสูจน์ว่าเป็นทองจริง” โดยอ้างว่าได้รับสัมปทานการขุดทองมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ตำรวจซ้อนแผนและสามารถจับผู้ต้องหา 2 คนได้ที่หน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง จากการซักถามและตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอีก 4 คน อยู่ในห้องพักโรงแรมหรูย่านรัชดา จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุม พร้อมยึดของกลางกว่า 7 รายการ โดยมีทั้งทองคำปลอม ลักษณะเป็นก้อน 179 ชิ้น, ทองคำปลอม ลักษณะเป็นรูปปั้นเทวรูป 10 ชิ้น, ทองคำแท้ ลักษณะเป็นแผ่นบาง 2x1 ซม. 8 ชิ้น, สมุดสมาคมคนจีนในประเทศไทย 46 เล่ม, บัตร ATM 24 ใบ, โทรศัพท์มือถือ 12 เครื่อง และอุปกรณ์เลื่อยตัดทอง 1 ชุด เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน โดยแจ้งข้อหาว่า “ร่วมกันพยายามลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย และซ่องโจร” ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 6 คนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและขอต่อสู้คดีในชั้นศาล พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า ได้เปิดแฟ้มคดีที่มิจฉาชีพกลุ่มนี้เคยตระเวนหลอกลวงผู้เสียหาย พบว่าลักษณะการก่อเหตุมีความแยบยลอย่างมืออาชีพและวางแผนหลอกลวงอย่างเป็นระบบ จากการขยายผลเชื่อว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆ ที่ยังอยู่ในประเทศไทย พร้อมเตือนประชาชนที่มีชื่ออยู่ในสมาคมคนจีนในประเทศไทย ให้ระวังกลุ่มมิจฉาชีพประเภทนี้ ซึ่งจากข้อมูลทางการสืบสวนพบว่า มิจฉาชีพกลุ่มนี้มักให้ผู้เสียหายเดินทางไปพบเพียงคนเดียว หากเหยื่อไหวตัวทันก่อนอาจร้ายแรงถึงขั้นถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ อ่านข่าวอื่นๆ เส้นด้าย "สอดอ Style" เข้าพบ ตร.ไซเบอร์ ให้ข้อมูลพนันออนไลน์ บุกค้นโกดัง "พัสดุทิพย์" หลอกเก็บเงินปลายทาง เสียหายรวม 20 ล้าน จับ 3 ชายฉกรรจ์ อ้างเป็น จนท.รัฐ กรรโชกผู้เสียหาย 3 ล้าน

วันนี้ (25 เม.ย.2566) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังชุดสืบนครบาล ทลายเครือข่ายแก๊ง “ม