ภารกิจขับเคลื่อนงานสาธารณสุขในชุมชน เป็นด่านแรกของการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ล่าสุดกระท

วันนี้ (12 ก.ค.256) ศาลอาญา มีคำสั่งเรื่องขอปล่อยชั่วคราว ภายหลังได้ดำเนินการไต่สวนคำร้องที่ นายเพชร บุญวงษ์ นายธฤต ณ พัทลุง และนายทบทอง หรือทอม บุญหลง ผู้ต้องหาได้ยื่นคำขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขัง เม

ภารกิจขับเคลื่อนงานสาธารณสุขในชุมชน เป็นด่านแรกของการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุข มอบหมาย อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ให้แนะนำการใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATKผล บอล สด ภาษา ไทย thscore ผล บอล 888 livescore ภาษา ไทย) แก่ประชาชน และวิธีปฏิบัติตัวเมื่อทราบผล โดยในกลุ่มเสี่ยงหากผลเป็นลบต้องกักตัว ติดตามอาการจนครบ 14 วัน และตรวจซ้ำอีกครั้งใน 5 วัน หากผลบวกจะช่วยประสานหน่วยบริการเพื่อพิจารณาส่งแยกกักที่บ้าน ชุมชน หรือส่งโรงพยาบาล นอกจากภารกิจตรวจหาเชื้อเชิงรุกด้วย ATK แล้ว อีกส่วนสำคัญของการดูแลคนในชุมชน คือ หน่วยงานปฐมภูมิ อย่าง รพ.สต. ที่ต้องทำงานร่วมกับ อสม. สนับสนุนงานป้องกัน ควบคุมโรค ด้วยการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชน ควบคู่การฉีดวัคซีน ไทยพีบีเอสออนไลน์พาลงพื้นที่ ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เรียนรู้ระบบการทำงานของ รพ.สต. และ อสม. ในสถานการณ์โรคโควิด ความพร้อมรวมทั้งการจัดการของหน่วยงานในพื้นที่ทำงานกันอย่างไร นางเพ็ญศรี คงเรือง นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโรงเหล็ก เล่าภารกิจ ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ย้อนไปในอดีตการทำงานเน้นหนักในเรื่องการรักษาพยาบาล และทำคลอด เนื่องจากโรงพยาบาลอยู่ห่างไกล ชาวบ้านเดินทางไม่สะดวกที่พึ่งที่ใกล้ที่สุด คือ สถานีอนามัย ใครเจ็บไข้ไม่สบาย เจ้าหน้าที่ต้องพร้อมทำงานตลอด 24 ชั่วโมง รพ.สต. ในปัจจุบัน เดิมเรียก "สถานีอนามัย" ทำงานบริการสาธารณสุข ดูแลสุขภาพชาวบ้านกันมาอย่างยาวนาน หมออนามัย จึงกลายเป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้เสมอ เรียกได้ว่า รู้จักแทบทุกคน กินข้าวได้ทุกบ้าน ในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 หน้าที่หลักของ "หมออนามัย" หรือ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข คือ ส่งเสริมสุขภาพ เฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมโรค ตอนนี้สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญที่สุด คือ "สร้างความรู้ให้ชาวบ้าน" ผ่านทุกช่องทางที่สามารถทำได้ แรก ๆ ชาวบ้านมีความกลัว กังวล ถึงโรคระบาดใหม่ที่เกิดขึ้นมาก รพ.สต.ได้ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสในการสร้างความตระหนัก ให้ชาวบ้านป้องกันดูแลตนเอง และร่วมกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องคนที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ หรือผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง นางเพ็ญศรี กล่าวว่า อ.นบพิตำ มีประชากรราว 4,000 คน ใน 9 หมู่บ้าน รพ.สต. ทำงานร่วมกันกับ อสม. และโรงพยาบาลประจำอำเภอ ช่วยเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันโรค ครอบคลุมใน 5 มิติ คือ ส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟู และคุ้มครองผู้บริโภค อสม.จะคอยประสานทำงานกับชาวบ้าน โดยมีการแบ่งพื้นที่ความรับผิดชอบ อสม. 1 คน รับผิดชอบดูแลไม่เกิน 15 หลังคาเรือน ช่วยดูแล ส่งเสริมสุขภาพและการให้ความรู้ในเรื่องสุขศึกษา รวมทั้งสื่อสารข้อมูลสถานการณ์โรคให้ชาวบ้านรับรู้ เมื่อมีคนติดโควิดในหมู่บ้านทาง รพ.สต.จะแจ้งประสานกับโรงพยาบาลประจำตำบลเพื่อรับผู้ป่วยไปรักษา และ รพ.สต.จะลงสอบสวนหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพื่อส่งตรวจเชื้อและเสี่ยงต่ำ รวมทั้งออกคำสั่งกักตัว 14 วัน เน้นใช้มาตรการ DMHTTA หากมีสถานที่เสี่ยงอาจต้องสั่งปิด เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร หรือสถานที่อื่น ๆ เช่น ล้งผลไม้ แจ้งข่าวสารให้ประชาชนรับทราบให้คนกลุ่มเสี่ยงสังเกตอาการตนเอง หากมีอาการสงสัย จะต้องรีบแจ้ง อสม.หรือเจ้าหน้าที่ทันที นางเพ็ญศรี เล่าถึงสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ของนบพิตำเป็นป่าเขา มีฝนตกชุกในช่วงหน้าฝน ทำให้ต้องเผชิญกับ "โรคไข้เลือดออก" ซึ่งมียุงลายพาหะเป็นประจำทุกปี แต่สามารถควบคุมและป้องกันโรคได้ โดยมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ อสม.ไปเคาะประตูบ้านเพื่อให้คำแนะนำชาวบ้าน แต่สถานการณ์โควิด-19 เป็นโรคระบาดที่เป็นวงกว้างควบคุมได้ยากกว่า คนต้องเดินทาง เช่น ไปจ่ายตลาด ซื้อของ ต้องทำมาหากิน การดูแลชาวบ้านในช่วงโควิดยากกว่าโรคระบาดอื่น อีกอย่างก็ยังมีคนที่ไม่ค่อยตระหนัก ยังมีการรวมกลุ่ม เล่นการพนัน จัดงานวันเกิด สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้ง ผู้นำท้องถิ่น วัด อสม. รวมถึงคนในชุมชน ทุกคนต้องช่วยกันก้าวพ้นช่วงเวลานี้ไปให้ได้ นางเพ็ญศรี กล่าวว่า การที่ รพ.สต.จะกลายเป็นจุดกระจายวัคซีนโควิดให้คนในชุมชนเป็นเรื่องดี เพื่อให้คนในชุมชนเข้าถึงบริก,,,ารได้ง่ายและทั่วถึง แต่จำเป็นต้องมีบุคลากรให้บริการอย่างเพียงพอ และเตรียมเรื่องอุปกรณ์ช่วยชีวิตให้พร้อมรองรับกรณีผู้รับบริการเกิดการแพ้วัคซีนแบบรุนแรง รพ.สต.บ้านโรงเหล็ก มีเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 6 คน พยาบาล 2 คน รองรับการฉีดวัคซีนได้ประมาณ 40 คนต่อวัน โดยเน้นกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้ป่วยในชุมชน ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนก่อน และขณะนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับ รพ.สต.ในพื้นที่ ได้มีโครงการออกให้บริการวัคซีนแก่กลุ่ม ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ที่สมัครใจ อย่างไรก็ตาม ต่อไปอยากให้มีพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ในการรับมือกับโรคอุบัติใหม่ รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องมือในการดำเนินงานและการป้องกันตนเองที่เพียงพอ รวมทั้งงบประมาณสนับสนุนในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน อสม.มีบทบาทสำคัญช่วยควบคุมโรคในชุมชน การทำงานในช่วงสถานการณ์โรคโควิดระบาด เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างไร น.ส.กัญญา สุทธิบูลย์ ประธานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หมู่ 9 ต.นบพิตำ เล่าถึงการทำงานในช่วงที่ผ่านมาว่า หน้าที่หลักคือการดูแลชาวบ้านและประสานการทำงานกับ รพ.สต. โดยประชุมรับเรื่องต่าง ๆ และแจ้งต่อกับสมาชิก อสม.ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ โทรศัพท์พูดคุยกัน เพราะได้พบปะเจอหน้ากันน้อยลง หมู่บ้านในเขตรับผิดชอบมี อสม. ทั้งหมด 11 คน ซึ่งช่วยกันดูแลชาวบ้านทั้งในเรื่องสุขศึกษา เฝ้าระวังเรื่องโรคระบาด และต้องสื่อสารข้อมูลสถานการณ์โรคที่ถูกต้องให้ชาวบ้าน แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบกัน อสม. 1 คนต่อ 5 หลังคาเรือน ทำการคัดกรองกลุ่มเสี่ยง ติดตามข้อมูลคนที่เข้ามากักตัวในหมู่บ้าน ก่อนจะส่งข้อมูลไปยัง รพ.สต. นอกจากนี้ ยังมีการให้ข้อมูลกับชาวบ้านในเรื่องของฉีดวัคซีน เพราะชาวบ้านบางคนไม่มั่นใจเรื่องวัคซีน จากการที่ได้รับข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ ในด้านลบ ซึ่งตอนนี้ชาวบ้านก็มองเรื่องการฉีดวัคซีนไปในแง่ดีมากขึ้น และพร้อมที่จะฉีดหากได้รับการจัดสรร น.ส.กัญญา กล่าวว่า อสม.ต้องมีความรู้อยู่ตลอดเวลาพร้อมที่จะให้ความรู้กับชาวบ้านได้ ก่อนหน้านี้การลงไปในพื้นที่ที่รับผิดชอบเพื่อสำรวจลูกน้ำยุงลาย ขณะนี้ก็ปรับให้ความรู้ชาวบ้านเรื่องโควิด เรื่องวัคซีนด้วย ขณะที่กลุ่มโรคเรื้อรังอย่าง เบาหวาน ความดัน หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ทางโรงพยาบาลจะจ่ายยา ผ่าน อสม. สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ถือโอกาสนั้นนำยาไปให้และก็ให้ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ด้วย การลงพื้นที่ไปเยี่ยมบ้านช่วงนี้ถี่หน่อย หากมีผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดเข้ามาในหมู่บ้านก็ต้องให้ความรู้เขา แนะนำว่าต้องปฎิบัติตัวอย่างไร ช่วงที่ผ่านมามีคนเดินทางเข้ามามาก ภารกิจของ อสม.ต้องเข้มข้นตามไปด้วย ยกตัวอย่างการเข้าไปดูแลในงานศพภายในหมู่บ้าน ชาวบ้านส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือกับ อสม. เป็นอย่างดี เมื่อมีญาติจะเดินทางมาจากต่างจังหวัด ก็โทรศัพท์มาสอบถาม อสม. ก่อนว่าจะต้องปฎิบัติตนอย่างไร แต่ก็มีส่วนหนึ่งแอบเข้าพื้นที่ทั้งที่มาจากจังหวัดเสี่ยง เช่น 3 จังหวัดชายแดนใต้ กรุงเทพฯ น.ส.กัญญา ยังกล่าวว่า หากพู&#;ดภาษาชาวบ้าน คือ อสม.ต้องสอดรู้ สอดเห็น จะปล่อยปละละเลยไม่ได้ หากบ้านนั้นไม่ใช้เขตรับผิดชอบก็จะประสานไปให้สอบถามกัน บ้านนั้นมีญาติมานะ แต่ยังไม่ได้รายงานตัวกับผู้นำหมู่บ้าน แต่ละบ้านจะมีเบอร์โทรทุกครัวเรือนจะประสานกัน€ƒได้ บางคนกลัวโดนกักตัวเลยไม่แจ้ง น.ส.กัญญา กล่าวว่า เข้ามาทำงาน อสม. ได้ประมาณ 10 ปี แล้ว หลังได้รับการชักชวนจาก อสม.รุ่นพี่ ประกอบกับพี่สาวก็เป็น อสม. มาก่อนจึงซึมซับงานตั้งแต่ยังไม่ได้เป็น อสม.ด้วยซ้ำ ปัจจุบันมีพี่น้องของตนที่ทำหน้าที่เป็น อสม. 4 คน การประสานความร่วมมือจึงง่ายขึ้น รู้Œจักชาวบ้านทุกคน การสื่อสารพูดคุยจึงไม่ค่อยมีปัญหา ยิ่งในสถานการณ์ของโรคระบาดเช่นนี้ น.ส.กัญญา กล่าวถึงความภูมิใจที่ได้มาเป็น อสม.ว่า อย่างน้อยก็ได้เป็นตัวประสานระหว่าง รพ.สต. กับชาวบ้าน อย่างหมู่บ้านที่ดูแลเป็นชนบท ชาวบ้านบางคนเขาไม่รู้ในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสวัสดิการของตัวเขาเอง เช่น สิทธิการรักษา ตัวเขาเองมีสิทธิอะไรบ้าง ตนก็จะคอยแนะนำ น.ส.กัญญา กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด เป็นสิ่งที่ชาวบ้านหลายคนกังวล จึงช่วยกันคอยเป็นหูเป็นตาให้กันตลอดในช่วงเวลานี้ แม้ในหมู่บ้านจะยังไม่มีผู้ติดเชื้อ แต่ในฐานะ อสม. ทุกคนก็พยายามเต็มที่ในการทำงาน เพื่อให้หมู่บ้าน ชุมชน ผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ และป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดภายในหมู่บ้านขึ้Œนมาได้ แต่ถึงแม้ว่าในอนาคตหากพบผู้ติดเชื้อในชุมชน เชื่อว่า ชาวบ้านทุกคนจะยอมรับและดูแลกันอย่างดีที่สุด เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานร่วมมือกัน ทำงานอย่างเต็มที่ ข่าวที่เกี่ยวข้อง ฝึกอบรม อสม.นักวิทย์ 5,000 คน ช่วยสอน ปชช.ใช้ชุดตรวจ ATK ไทยติด COVID-19 เพิ่ม 15,191 คน เสียชีวิต 253 คน

รางวัลนี้คือ Travelers' Choice Best of the Best Things to Do หรือ สถานที่เที่ยว ที่ให้ประสบการณ์โดยรวมที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2023 ซึ่ง Tripadvisor แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวชื่อดังประกาศให้ Smile Organi